แอนฟิลด์มีอีกวันที่สนุกสนานในชัยชนะเหนือบอร์นมัธ 3-0 เมื่อวันเสาร์ และแซม วิลเลียมส์นักข่าวจากเว็บไซต์สโมสรจะมาสรุป 5 ประเด็นสำคัญหลังทีมทำสถิติไร้พ่ายในบ้านเกมพรีเมียร์ลีก 19 เกมติดต่อกันเทียบเท่าตั้งแต่สิงหาคม 2009...
25, 300, 121, 40, 82
เมื่อ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ เลี้ยงตัดเข้าไปทำประตูที่ 3 ให้ลิเวอร์พูล เขาสร้างสถิติทั้งส่วนตัว และโดยรวม เมื่อทำไปแล้ว 25 ประตูในทุกรายการ มากกว่าสองฤดูกาลแรกที่แอนฟิลด์ก่อนหน้านี้รวมกัน และยังเป็นประตูที่ 300 ในยุคของเจอร์เก้น คล็อปป์ จากเพียง 148 เกม และ 121 จากฤดูกาล 2017-18 ฤดูกาลเดียว
ซาดิโอ มาเน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์มีชื่อทำประตูด้วย และรายหลังทำไปแล้ว 40 ประตูในฤดูกาลนี้ รวมแล้ว 3 ประสานในแดนหน้าทำไป 82 ประตูในฤดูกาลนี้ฤดูกาลเดียว
อีกหนึ่งคลีนชีต
แม้ว่าเกมรุกจะขโมยพาดหัวข่าวไป แต่เกมป้องกันของทีมก็สมควรจะได้รับคำชมด้วย เมื่อลิเวอร์พูลเก็บคลีนชีตที่ 9 จาก 14 เกมหลังที่เสียไปเพียง 7 ประตู
สถิติดังกล่าวพัฒนาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดจาก 14 เกมก่อนหน้านี้ที่ทีมเสียไป 15 ประตู
ความน่าทึ่งของเทรนต์
เป็นอีกเกมที่ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ คู่ควรกับการเป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ จากผลงานทั้งรับ และรุกในตำแหน่งแบ็กขวา
และไม่ต้องสงสัยว่า ไฮไลต์สำคัญคือ แอสซิสต์ที่เขาโยนให้ซาลาห์โหม่งทำประตูได้อย่างยอดเยี่ยม
‘ความโดดเด่น’ ของอ็อกซ์
‘อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเช่นกัน นี่คือกองกลางวันนี้ที่รวดเร็ว ตัดสินใจได้ดี เทคนิคดี ตั้งรับได้ดี ว้าว ผมชอบมัน’
นั่นคือ คำพูดจากคล็อปป์ถึงเจ้าของเบอร์ 21 เมื่อวันเสาร์ เมื่อเขาเล่นอย่างกระตือรือร้น และมีพลัง ที่จ่ายให้เฟอร์มิโน่ทำประตูอย่างไม่เห็นแก่ตัว หลังจากยิงไกลหลุดกรอบไปก่อนหน้านั้นหวุดหวิด
‘เจมส์ มิลเนอร์ผู้เดียว’
หลังจากโชว์ความพยายามเป็นหัวใจในแดนกลางของลิเวอร์พูลในช่วงหลายสัปดาห์หลัง คล็อปป์ให้โอกาสมิลเนอร์ได้พักอย่างเต็มที่
เจ้าของเบอร์ 7 ถูกเรียกจากม้านั่งสำรอง และชื่อของเขาถูกขับขานขึ้นมา ด้วยความยินดีจากเดอะ ค็อป เมื่อเขาลงเล่นแทน มาเน่ ในช่วงก่อนหมดเวลา 13 นาที
คอมเมนต์ที่นี่