Match Report: ลิเวอร์พูลพ่ายเชลซี ตกรอบคาราบาว คัพ
ลิเวอร์พูลต้องตกรอบการแข่งขันรายการคาราบาว คัพ เมื่อพ่ายแพ้ให้เชลซีจากประตูชัยท้ายเกมของอาซาร์
รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง: มินโญเลต์, ไคลน์, ลอฟเรน, มาติป, โมเรโน่, ฟาบินโญ่, มิลเนอร์ ©, เกอิต้า, ชากิรี, มาเน่ และสเตอร์ริดจ์
สำรอง: กราบาร่า, เฟอร์มิโน่, ซาลาห์, โกเมซ, เฮนเดอร์สัน, โซลันกี และโจนส์
Team News อัพเดตก่อนเกม:
ฟาบินโญ่เป็นหนึ่งใน 8 นักเตะ ที่คล็อปป์เปลี่ยนจากเกมที่ผ่านมา โดยคล็อปป์ยืนยันว่า เกมไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ ในวันเสาร์นี้ไม่มีผลในการจัดทีมในเกมวันนี้เลย
จากการบาดเจ็บเล็กๆ น้อยๆ ของฟาน ไดจ์ค, ไวจ์นัลดุม และเทรนต์ ทำให้ต้องมีการปรับเปลี่ยนแผงหลังด้วยเช่นกัน
จังหวะสำคัญในเกม
- นาที 59 สเตอร์ริดจ์ยิงให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0
- นาที 79 เอเมอร์สันตีเสมอให้เชลซี 1-1
- นาที 85 อาซาร์ ยิงให้เชลซีนำ 2-1
เกมในครึ่งแรก
ลิเวอร์พูลเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของเชลซี ในรายการคาราบาว คัพ รอบ 3 ในเกมกลางสัปดาห์ โดยมีคิวไปเยือนเชลซี ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ รออยู่ในวันเสาร์นี้
เกมในช่วง 15 นาที แรก ทั้งสองทีมผลัดกันทำเกมรุก โดยในนาที 4 เกอิต้ามีโอกาสพาบอลขึ้นหน้าและได้ยิง แต่กาบาเยโร่รับไว้ได้ เชลซีได้ฟรีคิกในนาที 7 หลังโมเรโน่ทำฟาวล์โมเซส แต่วิลเลียนยิงโด่งออกหลังไป นาทีที่ 9 เกอิต้า แทงบอลทะลุช่องให้ชากิรีพลิกบอลแล้วยิง แต่เสียดายที่โดนไม่เต็ม จากนั้นในนาที 12 วิลเลียนได้ยิง แต่มินโญเลต์รับบอลไว้ได้
เชลซีเกือบได้ประตูในนาที 18 จากการวางบอลของฟาเบรกาส แต่มินโญเลต์ออกมาบล็อกไว้ได้ และจังหวะซ้ำของเชลซีผ่านหน้าประตูไป ก่อนที่เชลซีจะได้บุกอีกครั้งในนาที 19 และโมราต้าได้ยิง แต่มิโญเลต์ทุบบอลออกหลังไป
กรรมการปฎิเสธไม่ให้เป็นลูกจุดโทษเมื่อเกอิต้าปะทะกับเคฮิลล์และล้มลงในกรอบ ในนาที 32
เกอิต้าทำได้อย่างใกล้เคียงในนาที 37 เมื่อตั้งป้อมปั่นบอลโค้ง แต่กาบาเยโร่ยังเซฟไว้ได้ปลายมือ รวมทั้งในนาที 39 ที่มาเน่ได้โหม่งจากบอลที่ชากิรีวางมาอย่างเหมาะเหม็ง แต่ก็ยังตะครุบไว้ได้
ก่อนจบครึ่งแรก สเตอร์ริดจ์เกือบได้โอกาสในกรอบ แต่น่าเสียดายที่เกี่ยวบอลไม่ติด
เกมในครึ่งหลัง
เมื่อเริ่มครึ่งหลังในนาที 46 สเตอร์ริดจ์พลาดโอกาสให้ทีมขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย เมื่อยิงไม่เข้ากรอบ หลังจากหลอกกาบาเยโร่ได้แล้ว และเชลซีรอดการเสียประตูในนาที 52 เมื่อมาเน่ได้บอลที่โหม่งคืนหลังพลาด แต่ก็ยังไม่สามารถส่งบอลเข้าประตูได้
ลิเวอร์พูลมาได้ประตูในนาที 59 จากจังหวะตีลังกายิงของสเตอร์ริดจ์ ให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0 จากนั้นคล็อปป์ส่งเฮนเดอร์สันลงมาแทนมิลเนอร์
จากนั้นคล็อปป์ส่งเฟอร์มิโน่ลงมาแทนมาเน่ในนาที 71
นาที 77 ชากิรีล้มลงในเขตโทษหลังจากล็อกบอลหลบ และในนาที 79 ลิเวอร์พูลต้องลงมาตั้งรับในจังหวะฟรีคิกของเชลซี ก่อนที่เอเมอร์สันจะซ้ำเข้าประตู แต่กรรมการหยุดเกมชั่วคราวเพื่อเช็คจังหวะล้ำหน้า และให้เป็นประตูสำหรับเชลซี
ในขณะเดียวกันในจังหวะโต้กลับ ลิเวอร์พูลก็มีโอกาสแต่โหม่งไม่ถึง ก่อนที่ชากิรีจะพยายามแทงบอลให้เกอิต้า แต่ไม่รู้กัน ผู้รักษาประตูจึงออกมาคว้าบอลไว้ได้ก่อน และลูกยิงของสเตอร์ริดจ์ในนาที 84 ชนคานออกไป
และในนาที 85 เชลซีมาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากลูกยิงไกลของอาซาร์
คล็อปป์ส่งซาลาห์ลงสนามมาแทนฟาบินโญ่ในนาที 87
กรรมการเป่าให้เฮนเดอร์สันฟาวล์ในจังหวะปะทะกับอาซาร์ ก่อนที่เชลซีจะได้ฟรีคิกในนาที 88 แต่อาซาร์ยิงติดกำแพง
กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 5 นาที
เชลซีผ่านเข้ารอบ 4 คาราบาว คัพ