ลิเวอร์พูลยังคงยืดสถิติไร้พ่ายต่อไป หลังจากผ่านเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ 12 เมื่อสามารถเอาชนะฟูแล่มไป 2-0 ที่แอนฟิลด์ โดยได้ประตูจากซาลาห์ และชากิรี

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, ไวจ์นัลดุม, ชากิรี, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: มินโญเลต์, ลอฟเรน, มิลเนอร์, เกอิต้า, เฮนเดอร์สัน, สเตอร์ริดจ์ และโมเรโน่

Team News อัพเดตก่อนเกม: ชากิรีกลับมาสู่รายชื่อ 11 ตัวจริง ในขณะที่คล็อปป์เปลี่ยนแปลงทีม 4 ตำแหน่งในเกมกับฟูแล่ม โดยฟาบินโญ่, เฟอร์มิโน่ และโกเมซ ก็กลับมาเป็นตัวจริงเช่นกัน

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที   41 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0
  • นาที 53 ชากิรียิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-0

เกมในครึ่งแรก

 เกมที่ 12 ของลิเวอร์พูลในลีก โดยยังคงสถิติไร้พ่าย แต่ทว่าทีมต้องการแก้มือหลังจากออกไปพ่ายเร้ดสตาร์ เบลเกรด ในเกมแชมเปียนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์

ในนาที 4 มาเน่ได้บอลจากอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ก่อนยิง แต่ผิดทิศทาง และน่าเสียดายที่บอลไม่เข้าทางซาลาห์ และในนาที 6 ชากิรีแทงบอลให้เทรนต์ แต่ช้าไปหนึ่งจังหวะ ก่อนที่เทรนต์จะเปิดออกหลังไป โอกาสยิงไกลในนาที 13 แต่น่าเสียดายที่เฉี่ยวเสาออกไปเพียงนิดเดียว รวมทั้งในนาที 16 ที่ซาลาห์สอดขึ้นมารับบอลเดี่ยวๆ ในกรอบ ก่อนพยายามล็อกหลบ แต่ยังถูกผู้รักษาประตูเซฟไว้ได้

ลิเวอร์พูลลดความเร็วในการขึ้นบอล และหันมาเน้นความแน่นอนในการ ฟาบินโญ่ได้วางบอลสวยไปที่หน้าประตู ก่อนเทรนต์จะเทคตัวขึ้นโหม่งแต่บอลพุ่งข้ามคานไปในนาที 20 และจากนั้นซาลาห์ได้จบด้วยขวา แต่ยังถูกเซฟด้วยมือเดียว ในนาที 21

ทีมเยือนเกือบได้พลิกขึ้นนำในนาที 24 มิโตรวิชโหม่งเช็ดให้เซสเซนญอง ล้อกบอลหลบโกเมซ ก่อนจะยิง แต่ไม่เข้ากรอบ แต่นับว่าเป็นจังหวะที่สร้างความหวาดเสียให้กองเชียร์เจ้าบ้านอย่างยิ่ง และจากนั้นในนาที 29 อลิสสันต้องเซฟลูกยิงของเชอร์เลย์ บอลกระฉอก แต่ฟาน ไดจ์ค ช่วยมาเคลียร์ไว้ได้ทัน

จากนั้นในนาที 30 ซาลาห์ได้บอลก่อนเล่นโต้กลับ และล้มลงในเขตโทษ แต่กรรมการไม่ว่าอะไร

และในนาที 31 ฟาบินโญ่ถูกทำฟาวล์ ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกโดยชากิรี แต่บอลยังติดกำแพง

เซสเซนญองได้โอกาสง้างยิงในนาที 34 แต่บอลโด่งออกไปแบบไม่ได้ลุ้น

ชากิรีได้โอกาสทองอีกครั้ง หลังการประสานงานของมาเน่ และโรเบิร์ตสัน ในนาที 36 แต่ยิงหักเกินไปบอลไม่เข้ากรอบ

ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที ฟูแล่มได้เตะมุม ก่อนที่มิโตรวิชจะโหม่งเข้าไป แต่กรรมการให้เป็นจังหวะล้ำหน้า ก่อนที่อลิสสันจะออกบอลเร็ว ให้เทรนต์แทงจังหวะเดียวให้ซาลาห์ยิงเข้าไปในนาที 41

หลังได้ประตู กลายเป็นเกมเปิดให้ทั้งสองทีมแลกกันขึ้นเกมบุก และในนาที 44 มิโตรวิชได้โอกาสยิง หลังได้บอลในกรอบ แต่อลิสสันตะครุบไว้ได้

กรรมการทดเวลาครึ่งแรกเพียง 1 นาที

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลเริ่มครึ่งหลังด้วยความดุดันเช่นเคย และในห้านาทีหลังเริ่มครึ่งหลัว ซาลาห์ได้โอกาสยิงฟรีคิก แต่บอลเลยออกหลังไป

มาเน่ได้โอกาสนาที 53 หลังได้กดเต็มข้อ แต่ผู้รักษาประตูปัดข้ามคานไว้ได้

หลังจากได้เตะมุม ลิเวอร์ฑูลมาได้ประตูจากการประสานงานสุดสวย เมื่อโรเบิรฺตสันเปิดบอลยาวให้ชากิรีที่สอดเข้ามาแปบอลสวนเข้าไปอย่างสวยงาม ให้ลิเวอร์พูลนำ 2-0

นาที 59 ซาลาห์ ถูกทำฟาวล์หนัก กรรมการให้เป็นฟรีคิก แต่ฟาน ไดจ์ค ยิงติดกำแพง ก่อนที่มนนาที 62 โรเบรฺตสันจะได้โอกาสยิง หลังได้บอลจ่ายมาจากเฟอร์มิโน่ แต่ยังถูกริโก้เซฟไว้ได้

เทรนต์ได้โอกาสซัดฟรีคิกในนาที 68 แต่กำแพงบล็อกไว้ได้ ก่อนที่คล็อปป์จะส่งเฮนเดอร์สันกลับมาลงสนามเป็นครั้งแรกหลังจากบาดเจ็บแฮมสตริง

นาที 78 โกเมซได้รับใบเหลือง

ทั่วทั้งแอนฟิลด์ปรบมืออย่างกึกก้อง เมื่อคล็อปป์ส่งมิลเนอร์มาแทนชากิรี ที่โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมในเกมนี้

ในช่วง 2 นาที ก่อนจบ 90 นาที ลิเวอร์พูลได้เตะมุมจากจังหวะของฟาน ไดจ์ค ในกรอบ จากนั้นในนาที 89 ซาลาห์ได้บอลที่มิลเนอร์ล้วงกลับมาได้จากกลางสนาม แต่ยังถูกบล็อกไว้

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที

คล็อปป์ส่งเกอิต้าลงมาแทนฟาบินโญ่ในนาที 90+2

จากนั้นไม่มีจังหวะการทำประตูใด จบเกมลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้ม และมีคะแนนรวม 30 คะแนน หลังจากผ่านไป 12 นัด ขึ้นจ่าฝูงชั่วคราว