เซอร์ดาน ชากิรี กลายเป็นซูเปอร์ซับ เมื่อลงมายิงสองประตูให้ลิเวอร์พูลเก็บชัยชนะเหนือแมนฯ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 3-1 พร้อมยืดสถิติไร้พ่าย และขยับกลับขึ้นตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, ไคลน์, ลอฟเรน, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, ไวจ์นัลดุม, เกอิต้า, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่ 

สำรอง: มินโญเลต์, เฮนเดอร์สัน, สเตอร์ริดจ์, โมเรโน่, ลัลลานา, ชากิรี และกามาโช่

Team News อัพเดตก่อนเกม: ไคลน์กลับมามีชื่อลงสนามในเกมมพรีเมียร์ลีกนัดแรก ในเกมลิเวอร์พูลรับการมาเยือนของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่แอนฟิลด์ โดยฟูลแบ็กรายนี้ลงมาแทนอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ส่วนมิลเนอร์ไม่มีชื่อในเกมนี้เพราะเป็นการป้องกันไว้ก่อน หลังมีปัญหากล้ามเนื้อ

นอกจากนั้น คล็อปป์ ส่งลอฟเรน, ฟาบินโญ่ และเกอิต้า ลงมาเป็นตัวจริง

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที   24 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูล 1-0
  • นาที 33 ลินการ์ดตีเสมอให้แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1
  • นาที 73 ชากิรียิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1
  • นาที 80 ชากิรียิงให้ลิเวอร์พูลนำ 3-1

เกมในครึ่งแรก

เกมที่ 17 ของลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก เป็นการรับมือคู่ปรับตลอดกาลอย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยมีเดิมพันคือตำแหน่งจ่าฝูง และการยืดสถิติไม่แพ้ใครนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลต่อไป

ลิเวอร์พูลได้เตะมุมในนาที 2 เมื่อเฟอร์มิโน่ได้สับไก แต่ไม่ผ่านลินเดอร์ลอฟ แต่จากนั้นทีมเยือนมาได้ฟรีคิกในนาที 4 ลูกากูวิ่งเข้าไปตวัดยิงบอลที่เปิดเข้ามา บอลเข้าประตูไปแต่กรรมการให้เป็นจังหวะล้ำหน้า

จากนั้นเกมเหมือนจะเปิดให้ทั้งสองทีมผลัดกันรุก ในนาที 5 เฟอร์มิโน่ได้โหม่งจากจังหวะเตะมุม แต่บอลไม่เข้ากรอบ รวมทั้งในนาที 7 ที่เด เกอา ต้องล้มตัวเซฟ และในนาทีต่อมา แรชฟอร์ดได้ยิง แต่เข้าซองอลิสสัน

ลิเวอร์พูลบุกหนักเป็นระลอก และได้ประตูในนาที 9 หลังซาลาห์ได้บอล แต่ไม่มีมุมยิง จึงไหลให้มาเน่ แต่ก็ไม่มีจังหวะจบเช่นกัน บอลมาที่ฟาบินโญ่ที่ได้ยิง แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไป

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างสวยงาม จากจังหวะที่ฟาบินโญ่ตักบอลหยอดให้มาเน่ที่วิ่งสลัดตัวประกบ ก่อนที่จะยิงเข้าไปอย่างสวยงาม

เมื่อขึ้นนำแล้ว ลิเวอร์พูลก็ขึ้นบุกต่อ โดยดาโล่ได้ใบเหลืองจากการเข้าฟาวล์โรเบิร์ตสันในนาที 27 ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะได้ฟรีคิก บอลมาที่เฟอร์มิโน่ที่หมุนตัวเปิดเข้ามา แต่ลอฟเรนถูกเบียดจึงยิงข้ามคาน

นาที 33 แมนฯ ยูไนเต็ด ตีเสมอได้โดยลินการ์ด เมื่อเข้าซ้ำบอลที่อลิสสันรับลูกเปิดของลูกากูกระฉอกออกมา ทำให้สกอร์มาที่ 1-1

ฟาบินโญ่ไหลบอลให้มาเน่ได้ปั่นด้วยซ้ายในนาที 37 แต่เด เกอา รับไว้ได้

เกมหยุดชั่วคราวหลังการปะทะกันระหว่างลูกากู และเกอิต้า ในนาที 39 โดยลูกากูได้ใบเหลือง และลิเวอร์พูลได้ฟรีคิก โรเบิร์ตสันเปิดเข้าไป แต่สุดท้ายเฟอร์มิโน่เสียบอล โดยที่เปิดไปติด เฟอร์มิโน่จึงต้องตามลงมาตัดเกม

ฟาบินโญ่ได้ยิงไกลในนาที 45 แต่แฉลบ ลิเวอร์พูลได้เตะมุมอีกครั้ง แต่กองหลังทีมเยือนช่วยกันเตะสกัดออกมา จากนั้นกรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 2 นาที

เกมในครึ่งหลัง

 ลิเวอร์พูลลงเล่นในครึ่งหลังด้วยความเร็ว และความกระหายในการทำประตูเพิ่ม และพยายามพาบอลบุกตั้งแต่นาทีแรก เพียงแต่ว่ายังไม่มีโอกาสยิงประตูที่จะแจ้ง

ลิเวอร์พูลได้โอกาสในนาที 52 หลังเด เกอา ปัดบอลจากจังหวะยิงของเฟอร์มิโน่ เกอิต้าพยายามวิ่งเข้ามาซ้ำ แต่ยังเข้ามาบล็อกได้ทัน

ซาลาห์โยนบอลไปที่เสาสองในนาที 62 เพื่อให้ลอฟเรนขึ้นโขก แต่ถูกสกัดออก ลิเวอร์พูลได้เตะมุมอีกครั้งก็ถูกสกัดออกข้าง แต่ลิเวอร์พูลก็บุกเป็นระลอก และฟาน ไดจ์ค ได้วอลเลย์ในนาที 63 แต่ก็ถูกเฟไลนีเตะสกัดออกไป

โรเบิร์ตสันวิ่งมาโหม่งสกัดในนาที 64 ก่อนที่เฟไลนีจะเข้ามา แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เตะมุมติดต่อกันสองครั้ง แต่ก็ไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสได้  

คล็อปป์ส่งชากิรีลงมาแทนเกอิต้าในนาที 70 และจากนั้นฟาบินโญ่ได้ยิงในนาที 71 แต่ยังตรงตัวเด เกอา ที่รับไว้ได้

และก็เป็นชากิรีที่เป็นซูเปอร์ซับ ในนาที 73 เมื่อยิงบอลเสียบเสาเข้าไปอย่างสวยงามให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1

และทั่วทั้งแอนฟิลด์ต้องเฮเสียงดังอีกครั้งในนาที 80 เมื่อชากิรีได้ยิงจากจังหวะแฉลบผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ด เข้าไปแบบเด เกอา หมดสิทธิ์รับ

คล็อปป์เปลี่ยนตัวนักเตะอีกครั้งในนาที 83 เมื่อส่งเฮนเดอร์สันลงมาแทนมาเน่ และฟาน ไดจ์ค ส่งมอบปลอกแขนกัปตันคืนให้เฮนเดอร์สัน

เฟไลนีได้ยิงไกลในนาที 85 แต่บอลหลุดไปไกล

กรรมการทดเวลาครึ่งแรก 3 นาที

เฟอร์มิโน่ได้ยิงในนาที 90+1 แต่บอลหลุดเสาแรก และซาลาห์ได้ลองส่องบ้างในนาที 90+2 แต่บอลข้ามคาน

จากนั้นไม่มีจังหวะสำคัญอื่นใดในเกม ทำให้ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้ม และมี 45 คะแนน แซงแมนฯ ซิตี้ ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงได้สำเร็จอีกครั้ง