Match Report: ลิเวอร์พูลพลิกจากตามหลัง ถล่มอาร์เซนอล 5-1
ลิเวอร์พูลขยับนำห่าง 9 แต้มในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก หลังเอาชนะอาร์เซนอล 5-1
รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ลอฟเรน, ฟาน ไดจ์ค©, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, ไวจ์นัลดุม, ชากิรี, ซาลาห์, มาเน่ และเฟอร์มิโน่
สำรอง: มินโญเลต์, ไคลน์, เกอิต้า, เฮนเดอร์สัน, สเตอร์ริดจ์, ลัลลานา และโอริกี
เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนแปลงทีมเพียงแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมถล่มนิวคาสเซิลในวันบ็อกซิ่ง เดย์ โดยส่งฟาบินโญ่ลงมาเป็นตัวจริงแทนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน โดยมีเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค สวมปลอกแขนกัปตันทีมในวันนี้
ลิเวอร์พูลเริ่มต้นครึ่งหลังของฤดูกาลพรีเมียร์ลีก ด้วยการรั้งตำแหน่งจ่าฝูง มี 51 คะแนน และเก็บชัยชนะติดต่อกันมาแล้ว 8 นัด ในขณะที่อาร์เซนอลอยู่ในอันดับที่ 5 มี 38 คะแนน
จังหวะสำคัญในเกม
- นาทีที่ 11 เมตแลนด์-ไนล์ส ทำประตูให้อาร์เซนอลขึ้นนำ 1-0
- นาทีที่ 14 เฟอร์มิโน่ ทำประตูตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 1-1
- นาทีที่ 16 เฟอร์มิโน่ ทำประตูที่สองให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 2-1
- นาทีที่ 32 มาเน่ ทำประตูให้ลิเวอร์พูลนำ 3-1
- นาทีที่ 45+2 ซาลาห์ ทำประตูจากจุดโทษให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 4-1
- นาทีที่ 65 เฟอร์มิโน่ ทำแฮตทริกจากจุดโทษให้ลิเวอร์พูลนำ 5-1
เกมในครึ่งแรก
เริ่มเกม ลิเวอร์พูล เจ้าบ้านเป็นฝ่ายเขี่ยลูกก่อน และเปิดเกมบุกเข้าใส่ผู้มาเยือนทันทีตลอดห้านาทีแรก
นาทีที่ 6 ลิเวอร์พูลเกือบได้ลุ้น เมื่อซาดิโอ มาเน่พลิกบอลหนีลูคัส ตอร์เรรา แล้วจ่ายต่อให้โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ตวัดยิง แต่บอลไปติดโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ยืนอยู่บริเวณหน้าประตูออกหลังไป
นาทีที่ 10 อาร์เซนอลได้บอลจากบริเวณกึ่งกลางสนาม อเล็กซ์ อิโวบี เลี้ยงจี้เข้าหาหน้าประตู และมีโอกาสส่อง แต่อลิสสัน เบคเกอร์ ออกมาปิดมุมไว้ได้
นาทีที่ 11 ทีมเยือนเป็นฝ่ายทำประตูขึ้นนำได้ก่อน เมื่ออาร์เซนอลดักบอลจากการเปิดขึ้นหน้าของเดยัน ลอฟเรน ได้ และทำเกมบุกขึ้นมา อิโวบีจ่ายบอลขวางสนามให้เอนส์ลีย์ เมตแลนด์-ไนล์ส จิ้มด้วยขวา ให้ปืนใหญ่ขึ้นนำก่อน 1-0
นาทีที่ 14 เจ้าบ้านตามตีเสมอได้อย่างรวดเร็ว จากลูกยิงของเฟอร์มิโน่ เมื่อเซอร์ดาน ชากิรี จ่ายบอลให้เฟอร์มิโน่ ที่แทงต่อให้ซาลาห์ ซาลาห์เกี่ยวบอลไปติดกองหลังอาร์เซนอล จังหวะบอลกระดอนกันเอง บ็อบบีที่วิ่งแทรกกองหลังขึ้นมาแตะบอลด้วยขวาแบบไม่มอง เข้าประตูไป ลิเวอร์พูล 1-1 อาร์เซนอล
นาทีเศษๆ ต่อมา บ็อบบีทำประตูที่สองให้ตัวเองและทีม เมื่อมาเน่ปั๊มบอลได้จากบริเวณกึ่งกลางสนาม และจ่ายต่อให้กับเฟอร์มิโน่ ที่เลี้ยงบอลจี้เข้าหาหน้าประตู ก่อนจะตวัดด้วยซ้าย ทำประตูให้ทีมขึ้นนำ 2-1 ในนาทีที่ 16
นาทีที่ 23 มาเน่ตัดบอลจากกองหลังอาร์เซนอลได้ ตวัดยิงมุมแคบ เข้ามือแบรนด์ เลโน่ ผู้รักษาประตู
อึดใจต่อมา มาเน่เกือบมีโอกาสอีกครั้ง เมื่อชากิรีวางบอลยาวไปหน้าประตู มาเน่โฉบมา แต่ผู้รักษาประตูออกมาตัดบอลไว้ได้ก่อน
นาทีที่ 27 ทีมเยือนเกือบได้เฮ เมื่อชโครดาน มุสตาฟี มีจังหวะส่องบ้าง บอลเกือบมุดใต้คาน แต่อลิสสันปัดออกไปได้ อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้า
นาทีที่ 32 เจ้าบ้านได้เฮเป็นครั้งที่สาม จากจังหวะที่อาร์เซนอลสกัดลูกเตะมุมของเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ออกมา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสันเกี่ยวบอลบริเวณกึ่งกลางสนาม ก่อนเปิดยาวให้ซาลาห์แตะต่อให้มาเน่ มาเน่แปด้วยขวาเข้าประตูให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 3-1
เข้าสู่ช่วง 5 นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูลยังเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า โดยอาร์เซนอลมีจังหวะทำเกมโต้กลับ แต่กองหลังเจ้าบ้านยังเล่นได้อย่างรัดกุม
นาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาบาดเจ็บ เฟอร์มิโน่เกี่ยวบอลจากการเปิดยาวของอลิสสัน แทงต่อให้ซาลาห์พาบอลเข้าไปเกือบสุดเส้นหลัง ก่อนจะโดนโซคราติสทำฟาวล์ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที โมลุกขึ้นมายิงจุดโทษด้วยตัวเองเข้าไปตรงกลางประตูเต็มแรง เป็นประตูที่สี่ให้ลิเวอร์พูล
ทดเวลาการแข่งขัน 2 นาที จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูลนำห่างอาร์เซนอล 4-1
เกมในครึ่งหลัง
ทั้งสองทีมกลับมาลงสนามในครึ่งเวลาหลัง โดยอาร์เซนอลเปลี่ยนตัวนักเตะหนึ่งตำแหน่ง ส่งโลร็องต์ กอสเซียลนี มาแทนมุตตาฟี ในขณะที่ลิเวอร์พูลยังใช้ผู้เล่นชุดเดิม
ครึ่งหลังผ่านไปเพียงสามนาที การประสานงานระหว่างโม ซาลาห์ และชากิรี เกือบทำให้เจ้าบ้านได้เฮ เมื่อซาลาห์ฝากบอลไว้ที่ชากิรี ชากิรีจ่ายคืนให้ซาลาห์ที่วิ่งทำทางไปยังหน้าประตู แต่แตะบอลยาวเกินไป บอลเข้ามือผู้รักษาประตูอาร์เซนอล
นาทีที่ 54 ทีมเยือนได้โอกาสบ้าง เมื่ออารอน แรมซีย์ ได้บอลในกรอบเขตโทษ เปิดต่อให้ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง ยิงจ่อๆ แต่บอลเหินข้ามคานไป อย่างไรก็ตาม ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้า
จังหวะโต้กลับของเจ้าบ้าน ซาลาห์มีโอกาสยิงมุมแคบ บอลเข้ามือผู้รักษาประตู ไม่กี่อึดใจต่อมา ลิเวอร์พูลมีโอกาสยิงอีกครั้งจากเฟอร์มิโน่ เลโน่ยังรับไว้ได้
ผ่านหนึ่งชั่วโมงมาหนึ่งนาที ลิเวอร์พูลเปลี่ยนจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ลงมาแทนมาเน่
นาทีที่ 63 ซาลาห์ไขว้บอลให้ฟาบินโญ่ที่หลุดกับดักล้ำหน้า ฟาบินโญ่ตวัดยิงเข้าเสาแรก ติดมือผู้รักษาประตู
นาทีถัดมา เซอัด โคลาซินัช ผลักลอฟเรนล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษอย่างไม่ลังเล เฟอร์มิโน่เป็นผู้สังหารจุดโทษด้วยเท้าขวา ทำแฮตทริกให้ตัวเอง ลิเวอร์พูลนำห่าง 5-1 ในนาทีที่ 65
นาทีที่ 71 อาร์เซนอลแก้เกมด้วยการส่งอเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ ลงมาแทนโอบาเมย็อง
นาทีที่ 77 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนอดัม ลัลลานา ลงมาแทนจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม
เข้าสู่ช่วง 15 นาทีสุดท้าย ทีมเยือนมีโอกาสได้บุกมากขึ้น และมีจังหวะยิงจากลากาแซ็ตต์ แต่กองหลังลิเวอร์พูลยังทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี
นาทีที่ 81 ทีมเยือนเปลี่ยนตัวนักเตะคนสุดท้าย โดยส่งมัตเตโอ เกนดูซี ลงมาแทนโคลาซินัช
สองนาทีต่อมา เจ้าบ้านเปลี่ยนโรเบิร์ตสันที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่ออก และส่งนาธาเนียล ไคลน์ ลงมาแทน
ห้านาทีสุดท้าย ทั้งสองทีมต่างมีจังหวะพาบอลขึ้นไปหน้าปากประตูคู่ต่อสู้ แต่ทำอะไรกันไม่ได้
ช่วงทดเวลา 3 นาที ซาลาห์หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงมุมแคบ แต่ติดมือผู้รักษาประตู
จบการแข่งขัน ลิเวอร์พูลถล่มอาร์เซนอล 5-1 รั้งตำแหน่งจ่าฝูงด้วยการมี 54 คะแนน ทิ้งห่างท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับสอง 9 คะแนน และเป็นการเก็บชัยชนะในพรีเมียร์ลีกเป็นนัดที่ 9 ติดต่อกัน