ลิเวอร์พูลคว้า 3 แต้มแรกของปี 2019 ด้วยการบุกไปเฉือนไบรท์ตัน จากจุดโทษของซาลาห์

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟานบินโญ่, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ไวจ์นัลดุม, เฮนเดอร์สัน ©, ชากิรี, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่ 

สำรอง: มินโญเลต์, มิลเนอร์, เกอิต้า, โมเรโน่, โอริกี, มาติป และกามาโช่

Team News อัพเดตก่อนเกม:  ลิเวอร์พูลเปลี่ยนแปลง 9 ตำแหน่งจากเกมเยือนวูล์ฟส์ ในเอฟเอ คัพ โดยมีเพียงฟาบินโญ่ และชากิรี ที่เป็นตัวจริงจากเกมที่แล้ว

ส่วนเฮนเดอร์สันมีชื่อเป็นตัวจริงในเกมนี้ ขณะที่มาติปมีชื่อเป็นสำรอง ส่วนสเตอร์ริดจ์เป็นไข้จึงไม่มีชื่อในทีม

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที 50 ซาลาห์ยิงลิเวอร์พูลนำ 0-1

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลกลับมาลงเล่นเกมที่ 22 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยความมุ่งมั่นท่จะกลับมาคว้าชัยชนะให้ได้ หลังจากพ่ายแมนฯ ซิตี้ เป็นเกมแรกของฤดูกาล ในเกมที่แล้ว ซึ่งในเกมนี้เป็นการลงเล่นเกมที่ 100 ของซาดิโอ มาเน่ และเกมที่ 50 ของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ในสีเสื้อลิเวอร์พูล

นาที 9 เฟอร์มิโน่พุ่งเข้ามายิงบอลเปิดของโรเบิร์ตสันแบบไม่เต็มเท้า ลูกหลุดกรอบออกไป จากนั้นในนาที 24 มาเน่ เกือบได้โอกาสจากการเปิดของเทรนต์ และในนาที 27 ชากิรีโหม่งเฉี่ยวประตูไปนิดเดียวเท่านั้น

เกมผ่านครึ่งชั่วโมง ลิเวอร์พูลยังคงพยายามต่อบอลขึ้นหน้าอย่างอดทน และในนาที 35 เฮนเดอร์สันได้โอกาสโหม่ง แต่ถูกบล็อกไว้ได้

ไม่มีการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก จึงเสมอกัน 0-0

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลลงเล่นในครึ่งหลัง พร้อมหวังจะเบิกประตูแรกให้ได้ และในนาที 48 ซาลาห์ได้โอกาสยิง หลังตัดบอลได้ แต่ถูกเซฟไว้ได้ และในนาที 49 ซาลาห์ถูกกรอสเกี่ยวล้มลงในเขตโทษ และซัดจุดโทษเข้าไปอย่างสวยงาม ให้ทีมนำ 1-0  ในนาที 50

ลิเวอร์พูลตั้งรับมากขึ้นหลังจากได้ประตูขึ้นนำ และในนาที 66 ไบรท์ตันได้ฟรีคิกกลางสนามหลังมาเน่เข้าทำฟาวล์ และกรอสโยนเข้าไปในกรอบ แต่อลิสสันออกมาคว้าไว้ได้ และในนาที 68 โลคาเดียยิงไกล อลิสสันพุ่งออกมาปัดออกหลัง ลิเวอร์พูลเสียเตะมุมสองครั้งติดต่อกัน แต่สุดท้ายบอลออกหลังไป

โรเบิร์ตสันได้บอลก่อนที่จะครอสเข้ามาในกรอบ แต่ไม่มีเพื่อนขึ้นมาเติม และในนาที 72 มิลเนอร์ลงมาแทนชากิรี

จากนั้นลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกในนาที 73 กองหลังไบรท์ตันช่วยกันสกัดออกไปได้ ลิเวอร์พูลได้เตะมุมติดต่อกันสองครั้ง และในนาที 75 เฟอร์มิโน่ได้บอล ก่อนลากเข้าไปยิง แต่ถูกบัตตันเซฟไว้ได้ และเสียดายที่บอลจังหวะสองโรเบิร์ตสันเข้ามาเกี่ยวไม่ติด

หลังจากโหมบุก ไบรท์ตันได้โอกาสโต้กลับและได้เปิดเข้าไปในกรอบ แต่อลิสสันออกมาเร็ว จึงกลายเป็นบอลออกหลังไปในนาที 79

จากจังหวะเตะมุมของซาลาห์ในนาที 80 ซาลาห์เล่นกับเฟฟอร์มิโน่ ก่อนที่ซาลาห์จะแทงให้ไวจ์นุลดุมที่เห็นช่องพอดีก่อนยิงไกล แต่น่าเสียดายที่บอลเฉี่ยวเสาไป

มาเน่ได้บอลจากการเล่นโต้กลับของลิเวอร์ฑูลในนาที 87 ก่อนที่จะยิงและแฉลบผู้เล่นไบรท์ตันออกหลัง ลิเวอร์พูลได้เตะมุมอีกครั้ง และในนาที 88 ซาลาห์ได้โอกาสปั่นบอลจากจังหวะที่โรเบิร์ตสันเปิดบอลเข้ามาจากเส่นหลัง แต่บอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

ลิเวอร์พูลมาเสียฟรีคิกในนาที 89 แต่ฟาน ไดจ์ค ขึ้นเบียดบอลไว้ได้ก่อนที่บอลจะตกลงและอลิสสันเข้ามารับไว้ได้

คล็อปป์ส่งเกอิต้าลงมาแทนมาเน่ในนาทีต่อมา

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 4 นาที ก่อนที่เทรนต์จะช่วยเกี่ยวบอลในนาที 90+2 ช่วยไม่ให้นักเตะไบรท์ตันเข้ามายิง

คล็อปป์ส่งโอริกี้มาแทนซาลาห์ในนาที 90+3

ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกในนาที 94 หลังดัฟฟีแฮนด์บอล และจากนั้นไม่กี่อึดใจ กรรมการเป่าจบเกม ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้ม พร้อมกลับมานำ 7 คะแนน