ลิเวอร์พูลเก็บได้เพียงหนึ่งแต้มจากการไปเยือนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกมที่ 25 ของรายการพรีเมียร์ลีก หลังเสมอด้วยสกอร์ 1-1

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, มิลเนอร์ ©, มาติป, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, เกอิต้า, ลัลลานา, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่ 

สำรอง: มินโญเลต์, สเตอร์ริดจ์, โมเรโน่, ชากิรี, โอริกี, โจนส์ และกามาโช่ 

Team News อัพเดตก่อนเกม:  คล็อปป์เปลี่ยนแปลงทีม 3 ตำแหน่ง ในเกมกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด โดยฟาบินโญ่, ลัลลานา และมิลเนอร์ มีชื่อใน 11 ตัวจริง ในขณะที่ชากิรี มีชื่อเป็นตัวสำรอง ส่วนเฮนเดอร์สัน, ลอฟเรน ไม่มีชื่อในทีมเพราะมีปัญหาเล็กน้อยที่กล้ามเนื้อ และไวจ์นัลดุมมีอาการปวดเข่า

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที 22 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-1
  • นาที 28 อันโตนิโอตีเสมอเวสต์แฮม 1-1

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 25 ในพรีเมียร์ลีกโดยมีคะแนนนำทีมอันดับที่สอง อยู่ 2 แต้ม และต้องการเก็บแต้มเพื่อหนีห่าง แต่ในนาที 3 กลับเป็นเวสต์แฮมที่ได้โอกาสทักทายก่อนด้วยจังหวะยิงของชิชาริโต้ แต่บอลหลุดเสาออกไปเพียงนิดเดียว

หลังจากเกือบเสียประตู ทีมเยือนได้ทำเกมขึ้นบุกบ้างในนาที 7 หลังมาเน่ได้กระชากบอลเข้าไปเปิด แต่ถูกสกัดออกหลัง แต่จังหวะเตะมุมยังไม่สามารถทำอันตรายทีมเจ้าบ้านได้ แต่อีก 30 วินาทีต่อมา โรเบิร์ตสันได้โยนเข้ากลางอีกครั้ง ก่อนถูกสกัดออกหลัง และจากจังหวะเตะมุม ลัลลานาได้พลิก ก่อนจะยิงเบา

แต่ในจังหวะสวนกลับของเวสต์แฮมก็สร้างโอกาสที่ใกล้เคียงเช่นกัน โดยเครสเวลล์ยิงเฉียดเสาไกลที่มุมเดิมออกไปเพียงนิดเดียว ในนาที 10

อลิสสันออกแรงเซฟในนาที 16 หลังเกอิต้าเสียบอลในแดนกลาง และชิชาริโต้เนช่องจึงยิงไกล

เกมโต้กลับของลิเวอร์พูเกือบได้ผล เมื่อเฟอร์มิโน่ได้ยิงในนาที 20 แต่บอลไม่หนีมือฟาเบียนสกี

แต่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำในนาที 22 เมื่อลัลลานาดึงบอล ก่อนผ่านให้มิลเนอร์วางเข้ากลาง มาเน่เข้าถึงบอลก่อนจะยิงสวนไปให้ทีมลิเวอร์พูลนำ 0-1

เมื่อขึ้นนำ ลิเวอร์พูลยังทำเกมบุกขึ้นมาอีกระลอกในนาที 26 โดยซาลาห์ได้บอลทางกราบขวา ก่อนที่บอลจะลำเลียงมาที่โรเบิร์ตสัน แต่ยังเปิดไม่ผ่านอันโตนิโอ

เวสต์แฮมมาได้ฟรีคิกในนาที 28 หลังฟาบินโญ่เสียฟาวล์ ก่อนที่อันโตนิโอจะเล่นลูกสูตร โดยอันโตนิโอยิงหักข้อเข้าไปตีเสมอ 1-1

ในนาทีต่อมา ลิเวอร์พูลเกือบได้โอกาส หลังเกอิต้าได้ยิง แต่บอลกลับแฉลบและออกหลังไป

เวสต์แฮมได้ฟรีคิกอีกครั้งในนาที 35 แต่ลิเวอร์พูลช่วยกันสกัดบอล จากนั้นนาที 37 เกอิต้าเข้าสกัดสนอดกราส ก่อนบอลไปถึงอันโตนิโอ เวสต์แฮมได้ฟรีคิกอีกครั้ง ชิชาริโต้ออกตัวหนีการประกบไปรับบอล แต่เปิดไม่ดี

โรเบิร์ตสันได้เปิดเข้ากลางในนาที 39 แต่ถูกสกัดบอลทำลายจังหวะก่อนที่ทั้งเฟอร์มิโน่ และมาเน่จะเข้าถึง

เวสต์แฮมทำได้ดีอีกครั้งในจังหวะฟรีคิก เมื่อสลัดการประกบหลุดอีกครั้ง โดยคราวนี้ไรซ์ได้ขึ้นโหม่งโล่งๆ หน้าประตู แต่บอลไม่เข้ากรอบในนาที 43

ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกบ้างในนาที 44 แต่มาเน่โขกไปตรงตัวฟาเบียนสกี

ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ผู้ตัดสินยกธงให้ซาลาห์ล้ำหน้า ก่อนที่จะเป่าจบครึ่งแรก

เกมในครึ่งหลัง

เวสต์แฮมเริ่มต้นครึ่งหลังได้อย่างวูบวาบกว่า โดยดิย็อปได้ขึ้นโขกในนาที 48 แต่ไม่เข้ากรอบ ส่วนลิเวอร์พูลได้โต้กลับบ้างในนาที 51 จากลูกยิงของซาลาห์ แต่เข้ามือฟาเบียนสกี

ลิเวอร์พูลมาเสียฟรีคิกในนาที 55 เมื่อมาติปเสียฟาวล์ แต่บอลเปิดไม่ผ่านกำแพง

ซาลาหฺไดโอกาสปั่นในนาที 62 แต่ยังไม่หนีมือฟาเบียนสกีที่ล้มตัวเซฟไว้

คล็อปป์ส่งชากิรีลงมาแทนลัลลานาในนาที 69 และส่งโอริกีมาแทนเฟอร์มิโน่ในนาที 74

ฟาน ไดจ์ค ได้โอกาสทะลุเข้าไปในกรอบในนาที 82 ก่อนที่จะพยายามเปิดเข้ากลาง แต่ฟาเบียนสกีเข้ามาคว้าไว้ได้ก่อน

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 3 นาที

โอริกีพลาดโอกาสทองในนาที 90+3 แต่ยิงไปตรงตัวฟาเบียนสกีอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่กรรมการจะเป่าจบเกม ลิเวอร์พูลเก็บได้เพียงหนึ่งแต้มจากลอนดอน