เจอร์เก้น คล็อปป์พูดคุยกับผู้สื่อข่าวในหลากหลายประเด็นในการพรีวิวเกมกับฟูแล่ม เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้งการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมเปียนส์ลีกหลังจากเอาชนะบาเยิร์น มิวนิก

และนี่คือบทสัมภาษณ์ของผู้จัดการทีม...

ความเห็นต่อลูกทีมของเขาสำหรับชัยชนะเหนือบาเยิร์น...

ชัดเจนว่ามีผลกระทบที่ดีกว่าที่คุณแพ้มาก แต่คุณสามารถนำไปใช้ทั้งสองทาง ถ้าคุณแพ้เกมอย่างนี้คุณสามารถพูดได้ว่าสามารถโฟกัสเต็มที่กับลีกได้ในตอนนี้ และตอนนี้เราต้องแก้ตัวกลับมา อะไรทุกอย่างเหล่านี้

ซึ่งคุณมักจะใช้ความพ่ายแพ้ให้เป็นประโยชน์ได้เสมอ แต่ชนะก็ดีกว่า และนั่นคือสิ่งที่เราทำ ในแนวทางที่น่าประทับใจ ชัดเจนว่ามันช่วยได้ แค่แสดงมันในการแข่งขันว่าเราได้ก้าวไปอีกขั้น

ปีที่แล้วผมคิดตอนที่เข้ารอบ มันเกี่ยวกับความตื่นตาตื่นใจ และการเล่นฟุตบอลที่ลื่นไหลอะไร ด้วยวิธีที่เฉพาะตัว อย่างการทำประตูได้ทุกพื้นที่ อะไรทุกอย่างเหล่านี้

และในครั้งนี้  ตามความคิดของผม จนถึงเวลานี้ นี่เป็นฟอร์มการเล่นที่เติบโตขึ้นมากที่สุดในรายการยุโรปตั้งแต่ผมเข้ามา และผมชอบเรื่องนี้เป็นอย่างมาก มันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ

ผมพูดหลังเกม ในเกมอย่างนี้มันหาได้ยากมากที่ทีมๆ เดียวจะเหนือกว่าอย่างสิ้นเชิง และอีกทีมเจอวันที่แย่ไปหมด หรืออะไรแบบนั้น

มันไม่ได้เกิดขึ้นมากนัก ซึ่งคุณต้องทำงานหนักในทุกพื้นที่ และนั่นเป็นสิ่งที่เด็กๆ ทำ ในช่วงชี้เป็นชี้ตาย คุณต้องทำตรงนั้นให้ได้ทั้งเกมรับ และเกมรุก

มันเป็นเรื่องดีจริงๆ ผมมีความสุขจริงๆ และมันไม่มีการคาดหวังในแง่นั้น ผู้คนพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ‘บาเยิร์นไม่ได้เป็นเหมือนเคยจริงๆ’ ผมจะพูดว่าเครดิตทั้งหมดต้องให้กับลูกทีมของผม เพราะว่าเราไม่ได้เปิดโอกาสให้พวกเขา นั่นคือทุกอย่างที่ต้องทำในเกมอย่างนี้

ความแตกต่างในการเผชิญหน้ากับฟูแล่มหลังโชว์ฟอร์มระดับสูงในช่วงกลางสัปดาห์...

ผมรู้จักลูกทีมของผมตอนนี้มา 3 ปีครึ่ง และผมจะบอกว่ามันยุ่งยากในตัวมันเอง เพราะว่ามันเป็นฟูแล่ม ผมรู้สิ่งที่ผู้คนคาดหวัง แต่เรารู้ดีเกี่ยวกับเรื่องนี้ และมันไม่เกี่ยวอะไรกับเกมแชมเปียนส์ลีกในวันพุธ แค่มันเป็นเกมที่สำคัญมากสำหรับเรา

เราไม่คิดเกี่ยวกับสถานการณ์ในตารางคะแนน หรืออะไรก็ตาม เราแค่โฟกัสกับสถานการณ์ของเรา แต่เรารู้ว่ามันเป็นเรื่องยากอย่างไร เราแค่คว้าโอกาสของเรากับฟูแลมที่บ้าน เราต้องการจังหวะอัจฉริยะจากอาลี, เทรนต์ และโมเมื่อชนะเกมนั้น

มันเป็นเรื่องยาก แต่เรามองมันในฐานะของโอกาส เพราะว่ามันคือเกมถัดไปที่เราจะลงเล่น และเป็นกมที่สำคัญมาก แน่นอนว่าฟูแล่มมีฤดูกาลที่ยากลำบาก แต่ตั้งแต่สก็อตต์ (พาร์เกอร์) เข้ามาคุณสามารถเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง มันเป็นแบบการขึ้นมาสูดอากาศบริสุทธิ์อย่างแท้จริง

พวกเขาแพ้สองเกม ซึ่งเป็นการแพ้ต่อเชลซี ชัดเจนว่าเป็นหนึ่งในทีมที่หินที่สุดในลีก และเลสเตอร์ที่ได้ผู้จัดการทีมใหม่ แต่พวกเขาเล่นได้น่าประทับใจจริงๆ

นั่นคือทุกอย่างในสมุดบันทึกของเรา นั่นคือทุกอย่างที่เรารู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ และตอนนี้เราต้องทำให้แน่ใจว่าเราเน้นตั้งแต่วินาทีแรก และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะชนะเกมนี้

ความเชื่อมั่นภายในทีมว่าพวกเขาพวกเขาสามารถจะคว้าถ้วยได้หนึ่งหรือสองใบในฤดูกาลนี้...

เราค่อนข้างทำตามสถานการณ์ ดังนั้นไม่ใช่ว่าปรับอารมณ์ของเราตลอดเวลา หรืออะไรก็ตาม เราจะโฟกัสกับฤดูกาล และฤดูกาลแปลว่าสำหรับเราแล้ว คือเรื่องที่เราต้องลงเล่นทั้งสองรายการ

ในวันพุธมันคือแชมเปียนส์ลีก จากตอนนี้ไปไป 3-4 สัปดาห์มันคือพรีเมียร์ลีก และไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องนี้

สำหรับเด็กๆ หลายคน หลังจากนี้มันจะเป็นการลงเล่นร่วมกับทีมชาติของพวกเขา แต่นั่นคือทั้งหมด ซึ่งมันไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผมมีความสุข และผมเข้าใจ และได้ยินในห้องแต่งตัวหลังเกมว่านักเตะมีความสุขเช่นกัน มันเป็นเกมใหญ่สำหรับเราทุกคน

แต่เราโฟกัสอยู่ตลอดเวลา และเราจะยังคงโฟกัส นั่นคืออะไรทั้งหมดที่ผมสามารถพูดได้ มันไม่ใช่เรื่องที่เราเซอร์ไพรส์เกี่ยวกับตัวเราเองในเรื่องที่เราสามารถชนะบาเยิร์น เกี่ยวกับวิธีการที่เราทำผมไม่เซอร์ไพรส์ แต่ผมมีความสุขจริงๆ ที่เราสามารถพิสูจน์บางสิ่งบางอย่างแบบนี้

ดังนั้นตอนนี้จงทำให้มันสมบูรณ์ที่สุด มีสมาธิอย่างสมบูรณ์ที่สุดกับฟูแลม และไม่ต้องคิดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้น หรืออะไรก็ตาม ยังคงรักษาอารมณ์แบบเดิมอย่างที่เราเป็นมาเสมอ คงความมั่นใจ, ดุดัน, ตรงไปตรงมา, ทุกอย่างที่คุณจำเป็นต้องมีในเกมฟุตบอล รักษาอารมณ์นี้ และทุกๆ อย่างจะออกมาดี

ความสำคัญในการคว้าถ้วยรางวัลเพื่อให้เป็นสิ่งที่สืบทอดของเขากับลิเวอร์พูล...

ผมไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าตัวเองสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยแค่ไหน ผมไม่เคยคิดเกี่ยวกับตัวเองในเรื่องงานนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องการอย่างมากในช่วง 2 ปีตอนที่เรากลายเป็นแชมป์กับดอร์ทมุนด์ และผู้คนพูดว่า ‘โค้ชที่คว้าแชมป์’ หรืออะไรก็ตาม ผมไม่เคยต้องการเรื่องนี้

งานของผมคือทำทุกอย่างที่ตัวเองทำได้เพื่อช่วยทีม ซึ่งเราสามารถประสบความสำเร็จมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ผมไม่ได้ค้นหาความทรงจำในรอบ 50 ปี หรืออะไรก็ตาม สำหรับผมที่นี่ไม่มีความกดดัน เป็นแค่เพียงโอกาส

ผมรักสิ่งที่ผมทำ ผมคิดว่าตัวเองมีทีมที่ยอดเยี่ยมในการลงเล่นที่นี่ และนั่นคือทุกอย่างที่ผมต้องการเพื่อที่จะเป็นคนที่มีความสุข ผมเคารพความปรารถนาของผู้คนทั้งหมด และนักเตะทุกคน และสตาฟทุกคน และผมอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของความฝันนี้จริงๆ แต่มันไม่ใช่สำหรับผมในท้ายที่สุด มันแค่สำหรับผู้คน

ความพ่ายแพ้ในนัดชิงชนะเลิศ 3 ครั้งก่อนหน้านี้ จะเพิ่มแรงจูงใจสำหรับลูกทีมของเขาในฤดูกาลนี้หรือไม่...

นั่นเป็นธรรมดาที่คุณอยากจะพิสูจน์เรื่องต่างๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องที่เราตื่นขึ้นมาในตอนเช้า และคิดว่าเราแพ้ในลีก คัพ นัดชิงชนะเลิศต่อแมนฯ ซิตี้, ยูโรปา ลีก นัดชิงชนะเลิศต่อเซบีย่า และหลังจากนั้นกับเรอัล มาดริดในเคียฟ

เมื่อวานนี้ผมได้ดูเชลซีในเคียฟ ชัดเจนว่ามันคือสเตเดียมที่เราเล่นมาก่อน และผมจำไม่ได้แม้แต่ส่วนเดียวในสนาม มันไม่สำคัญอีกต่อไป สิ่งที่เราพยายามจะทำหลังจากนั้นคือใช้มันในแง่บวก นั่นคือ 100 เปอร์เซ็นต์

คุณอยากจะพิสูจน์หลายๆ  เรื่อง ทำเรื่องต่างๆ ให้ดีขึ้น และอะไรทั้งหมดเหล่านี้ แต่เด็กๆ ไม่ได้ตื่นขึ้นมาในตอนเช้า และคิดเกี่ยวกับมัน แต่การแข่งขันมักจะชัดเจนเสมอในเรื่องต่างๆ ที่เราทำในปีที่แล้วจะช่วยเราอย่างแน่นอนในปีนี้ เพราะว่ามันคือประสบการณ์ของเรา

มันไม่ใช่ว่าเราคือทีมที่มีประสบการณ์ที่สุด แต่เรามีประสบการณ์สดๆ ร้อนๆ จากปีที่แล้ว มันช่วยเราได้เป็นอย่างมากในเกมกับมิวนิก เพราะว่าเราแพ้ตลอดทั้ง 3 เกมเยือนในแชมเปียนส์ลีกปีนี้ เราแพ้ในนัดชิง และเราแพ้ต่อโรม่าเช่นกัน

ซึ่งเกมแชมเปียนส์ลีก นอกบ้าน 5 นัดหลังสุดเราแพ้ และเหตุผลในเรื่องนี้ง่ายมาก เพราะว่าเราไม่ได้ตั้งรับอย่างที่เราอยากจะตั้งรับ และในมิวนิกเราตั้งรับอย่างที่เราต้องการจะตั้งรับ 100 เปอร์เซ็นต์

ด้วยพื้นฐานนี้คุณสามารถชนะเกมนอกบ้านต่างๆ ได้ คุณสามารถชนะเกมฟุตบอลแต่ละนัดได้ ซึ่งมันช่วยได้เป็นอย่างมากกับประสบการณ์ที่เราได้รับในปีที่แล้ว เราจะรอดูสิ่งที่เกิดขึ้น... ถ้าจะมีนัดชิงในท้ายที่สุดมันจะเป็นเรื่องที่ดี และหลังจากนั้นเราถึงจะคิดเกี่ยวกับนัดชิง แต่ไม่ใช่ในตอนนี้

การแซงแมนฯ ซิตี้ด้วยชัยชนะในช่วงสุดสัปดาห์นี้จะเป็นแรงกระตุ้นทางจิทวิทยาหรือไม่...

การนำซิตี้ ในขณะที่ซิตี้มีเกมในมือเป็นเรื่องที่ไม่สำคัญเลย แต่เรามีเกมในช่วงสุดสัปดาห์ และเราต้องการชนะเกมนั้นอย่างแน่นอน

หลังจากนั้นการที่เราขึ้นนำไม่ได้มีความหมายอะไรมากนัก เกมในมือของซิตี้คือกับยูไนเต็ดตามความคิดของผม ดังนั้นแน่นอนว่ามันจะไม่ง่าย แต่มันไม่ได้ตัดสินใจช่วงสัปดาห์นี้ เพราะเรื่องนี้

เรื่องราวทั้งหมดจะถูกเขียนขึ้นมา และเราจะยอมรับเรื่องราวต่างๆ เหล่านี้ เพราะนั่นแปลว่าเราจะชนะเกม ซึ่งอย่างที่ผมพูด มันยากพอแล้ว มันเป็นแค่เรื่องเดียวที่เราคิดถึง

ในทางจิตวิทยาเราไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะว่าเราไม่ได้นำพวกเขาอีกต่อไป มันไม่ได้เปลี่ยนอะไร แต่เราจะพยายามให้มันยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในอุโมงค์แคบๆ ที่เราจะโฟกัสจริงๆ กับเกมฟุตบอล

ถ้ามีอะไรให้ฉลองเมื่อจบฤดูกาล เราจะเป็นคนแรกที่มีส่วนร่วมในการเฉลิมฉลอง แต่จนกว่าจะถึงตอนนี้ จงเล่นฟุตบอลต่อไป

ฟอร์มการทำประตูของมาเน่ที่มีส่วนสำคัญ และเขาแบ่งเบาความรับผิดชอบบางอย่างจากซาลาห์ไปหรือไม่...

มันเป็นเรื่องที่ดีที่เราแบ่งประตูออกเป็นส่วนๆ ดีอย่างที่สุด เรามี 73 แต้ม และแต่ละประตูช่วยนำเรามาถึงจุดนี้ และครั้งแล้วครั้งเล่าที่มักคลิกกับนักเตะอย่างน้อยหนึ่งคน

ในการอธิบายถึงสถานการณ์ของโมนิดหน่อย เพราะว่าผมคิดว่าเขาอยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยม แต่จังหวะของเขาในวินาทีสุดท้าย (กับบาเยิร์น) ตอนที่ซูเล่ลงมา มันจะเป็นประตูถ้าซูเล่เสียสมาธิ

โมทำทุกสิ่งทุกอย่างถูกต้อง และไม่มีใครรู้ว่าซาเล่ที่อยู่ที่นั่นจะแหย่เข้ามา นั่นคือสถานการณ์ที่เขาเจอนิดหน่อยในช่วงเวลานี้ และสำหรับซาดิโอ มันแตกต่างออกไป ต้องขอบคุณพระเจ้า

ประตูทั้งหมดที่เราทำได้สำคัญสำหรับเราจริงๆ ใครจะทำประตูไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ชัดเจนว่ามันช่วยได้ถ้าเด็กๆ มั่นใจ และรู้ในสิ่งที่พวกเขาทำได้

ประตูแรกที่ซาดิโอทำได้ในมิวนิก เป็นไปได้ว่าถ้าคุณไม่ได้ยิงประตูมา 5-6 เกมแล้วคุณจะยิงประตูอย่างนั้นไม่ได้ แต่มันเป็นธรรมชาติโดยสมบูรณ์กับเรื่องต่างๆ ทั้งหมด

ท้ายที่สุดทุกคนวิจารณ์ไปที่นอยเออร์ แต่มันแค่เป็นความเวิลด์-คลาสของซาดิโอ และเราต้องยอมรับในเรื่องนี้เช่นกัน ซึ่งเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะยังคงเป็นอย่างนี้ นั่นคือเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา ประตูที่เรายิงได้จนถึงเวลานี้มีความสำคัญสำหรับเรา แต่มันไม่ได้สำคัญมากเท่ากับประตูที่เราจะทำไปจนจบฤดูกาลนี้

ฟอร์มระยะหลังของมาติป...

จากมุมมองของผม คุณไม่สามารถรับมัน (คำชม) มากกว่านี้ เพราะว่าเขาเป็นนักเตะที่โดดเด่น มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อกับวิธีการที่เขากำลังทำ เราโชคร้ายจริงๆ กับสถานการณ์ในตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ เพราะว่ามีการบาดเจ็บมากมายไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าตอนนี้มันจะจบลง

โจ โกเมซลงเล่นช่วงแรกของฤดูกาล และทำได้อย่างน่าเหลือเชื่อ เดยันเล่นฟุตบอลได้ดีอย่างน่าเหลือเชื่อสำหรับเรา และโจเอลกำลังทำได้ดีเช่นกัน หนึ่งในเกมที่ดีที่สุดที่ผมเห็นจากเขาคือเกมกับนาโปลี เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บในวินาทีสุดท้ายของเกมกับนาโปลี มันเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อมาก

จนถึงเวลานี้เรามีความสม่ำเสมอในตำแหน่งนี้ไม่ว่าจับคู่ไหน ขอบคุณพระเจ้า เวิร์กสามารถลงเล่นในช่วงเวลาส่วนใหญ่ ซึ่งเขาต้องปรับตัวเสมอกับอีกคน แต่มันเป็นเรื่องที่ดีจริงๆ และพวกเขาทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งสองคน