ลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มสำคัญได้สำเร็จก่อนพักเบรกทีมชาติ พร้อมขยับขึ้นจ่าฝูง เมื่อเอาชนะฟูแล่ม ได้ที่คราเวน คอตเทจ ไปด้วยสกอร์ 2-1

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาน ไดจ์ค ©, มาติป, โรเบิร์ตสัน, ไวจ์นัลดุม, ฟาบินโญ่, ลัลลานา, ซาลาห์, มาเน่, และเฟอร์มิโน่ 

สำรอง: มินโญเลต์, ลอฟเรน, มิลเนอร์, สเตอร์ริดจ์, โมเรโน่, ชากิรี  และโอริกี

Team News อัพเดตก่อนเกม:  ลิเวอร์พูลเปลี่ยนแปลงทีม 2 ตำแหน่ง โดยฟาบินโญ่ และลัลลานาลงมาแทนมิลเนอร์ และเฮนเดอร์สัน

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที 26 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-1
  • นาที 74 บาเบลตีเสมอให้ฟูแล่ม 1-1
  • นาที 81 มิลเนอร์ยิงจุดโทษให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1

เกมในครึ่งแรก

 ลิเวอร์พูลไปเยือนคราเวน คอตเทจ ของฟูแล่ม ในเกมที่ 31 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยควมหวังคว้าสามแต้ม เพื่อขึ้นตำแหน่งจ่าฝูง

ลิเวอร์พูลได้โอกาสยิงก่อนในนาที 4 แต่ลูกยิงของซาลาห์เบาเกินไป ส่วนจังหวะวางยาวของโรเบิร์ตสันที่หมายให้ซาลาห์ยังยาวเกินไป  รวมทั้งในนาที 11 ที่โรเบิร์ตสันปั๊มบอลก่อนที่จะได้บอลจังหวะสอง แต่เปิดไปไม่ถึงเฟอร์มิโน่ที่วิ่งไปรอที่เสาไกล

ทีมเจ้าบ้านลงมาแพ็ครับกันอย่างหนาแน่น แต่อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ได้โอกาสเปิดบอลในนาที 15 แต่น่าเสียดายที่แรงเกินไป

หลังจากขึ้นเกมรุกอย่างใจเย็นอยู่นาน ประตูขึ้นนำของลิเวอร์พูลมาจากการจ่ายของเฟอร์มิโน่ที่อยู่เส้นหลัง ก่อนตวัดเข้ากลางมาให้มาเน่ยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด 1-0 ในนาที 26  นับเป็นประตูที่ 17 ของมาเน่ ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ และในนาที 28 ซาลาห์ลองยิงไกล ฟาน ไดจ์ค ปราดเข้ามาเพื่อจะซ้ำ แต่บอลเข้าซองผู้รักษาประตู

ฟาบินโญ่เป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนแรกที่ได้ใบเหลืองในเกมนี้ในนาที 39

ทดเวลาครึ่งแรกแค่เพียง 1 นาที

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลลงเล่นในครึ่งหลังดดยหวังที่จะทำประตูเพิ่ม แต่เกมบุกของลิเวอร์พูลที่ทำเป็นระลอกยังไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ โดยจังหวะที่ใกล้เคียงที่สุดคือลูกโหม่งของไวจ์นัลดุมในนาที 51 แต่ข้ามคานไปนิดเดียว ส่วนลูกเตะมุมของเทรนต์ก็แรงเกินไป มาติปเข้าโขกไม่ถึงในนาที 54

ฟาน ไดจ์ค โหม่งชงในนาที 55 แต่ริโก้ปัดได้ก่อนบอลจะเข้าทางมาติปที่ยืนรออยู่หน้าประตู

ในขณะที่ฝนผสมลูกเห็บเริ่มหนาตาขึ้น ลิเวอร์พูลต้องลงมาเป็นฝ่ายรับบ้างในนาที 61 ฟาน ไดจ์ค ต้องจิ้มออกหลังไป จากนั้นลิเวอรฑูลได้เล่นโต้กลับ แต่ยังไม่สามารถหาจังหวะเพื่อจบสกอร์

ฟูแล่มได้โต้กลับในนาที 64 แต่กรรมการให้จังหวะโหม่งของอยิเต้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน

ในจังหวะที่เฟอร์มิโน่เปิดบอลเข้าไปหน้าประตู ไวจ์นัลดุมล้มลง แต่กรรมการไม่ว่าอะไร ในนาที 67

เกมในช่วงนี้เป็นการผลัดกันรุก โดยฟูแล่มเล่นเกมโต้กลับโดยบาเบล แต่ซาลาห์วิ่งลงมาช่วยเกมรับ และสุดท้ายอลิสสันต้องล้มตัวตะครุบบอลไว้ได้ในนาที 68

อลิสสันอ่านเกมขาด ลงมาเคลียร์บอลในนาที 71 จากนั้นคล็อปป์เปลี่ยนเอาโอริกีลงมาแทนเฟอร์มิโน่ และมิลเนอร์ลงมาแทนลัลลานา ในนาที 72

ลูกโหม่งของมาเน่จากจังหวะเตะมุมในนาที 73 ชนคานออกหลังไปนิดเดียว

แต่ลิเวอร์พูลมาเสียประตูในนาที 74 จากการสื่อสารผิดพลาดจากฟาน ไดจ์ค และอลิสสัน สุดท้ายบอลกระดอนอลิสสันมาเข้าทางบาเบล ยิงเข้าไปง่ายๆ 1-1

หลังถูกตีเสมอ ลิเวอร์พูลพยายามบุกหนัก โอริกียิงไกลในนาที 79 แต่บอลแฉลบออกหลัง ลิเวอร์พูลได้เตะมุมติดต่อกัน

ลิเวอร์พูลได้จุดโทษในนาที 80 หลังริโก้ดึงมาเน่ล้มลง จากจังหวะที่มาเน่โฉบเข้าไปจะยิงจังหวะที่ริโก้รับลูกยิงของซาลาห์กระฉอกออกมา มิลเนอร์ยิงจุดโทษไม่พลาด ให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1 ในนาที 81

ไวจ์นัลดุมได้ตั้งป้อมยิงในนาที 85 แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไป ฟูแล่มยังคงตั้งเกมรับอย่างต่อเนื่อง

จังหวะโต้กลับของลิเวอร์พูลยังไม่สามารถปลิตสกอร์ได้ในนาที 87 เมื่อมาเน่วางให้ซาลาห์ได้เข้าซ้าย ก่อนที่ริโก้จะเซฟไว้ได้

ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 3 นาที

ซาลาห์ได้บอลหลังมาเน่แตะให้ในนาที 90+2 ก่อนที่จะไหลให้ไวจ์นัลดุม แต่ยังไม่มีจังหะยิง จากนั้นคล็อปป์ส่งสเตอร์ริดจ์ลงมาแทนซาลาห์

สุดท้ายลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มสำคัญ ขึ้นตำแหน่งจ่าฝูง โดยมี 76 คะแนน ก่อนพักเบรกทีมชาติ