'ความกดดันเป็นเรื่องที่ดี - และทีมลิเวอร์พูลชอบสิ่งนี้'

การต่อสู้กันเพื่อแชมป์ลีกสูงสุดภายในประเทศที่มีความน่าสนใจจะกลับมาอีกครั้งวันอาทิตย์นี้เมื่อหงส์แดงเปิดบ้านรับการมาเยือนของเชลซี หลังเกมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกไปเยือนคริสตัล พาเลซ

ปัจจุบันทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นำซิตี้อยู่ 2 คะแนน อย่างไรก็ตามแชมป์เก่าลงสนามน้อยกว่าคู่แข่ง ลุ้นแชมป์ของพวกเขา 1 เกม

ซึ่งความใกล้เคียงของการแข่งขันเช่นนั้นทั้ง 2 ทีมที่มีลุ้นต่างรู้ว่า หากสะดุดจะทำให้เป้าหมายของพวกเขาจบลง แต่ฮูเปียตำนานของลิเวอร์พูลรู้สึกว่ากลุ่มนักเตะชุดปัจจุบันของสโมสรกำลังสนุกกับสถานะของพวกเขาจากการเป็นหนึ่งในสองตัวเอกซึ่งมีส่วนร่วมกับการดวลกันอันน่าเหลือเชื่อนี้

"ผมคิดว่าความกดดันเป็นสิ่งที่ดี ตอนที่ผมเล่น ผมรู้สึกถึงความกดดัน และผมมีความกังวลก่อนเกมต่างๆ แต่นั่นทำให้ผมทำได้ดีขึ้น" อดีตเซ็นเตอร์แบ็ครายนี้เผยกับเว็บไซต์สโมสร

"ผมคิดว่าเมื่อคุณกังวลมากเกินไปเกี่ยวกับบางสิ่ง มันจะขัดขวางคุณนิดหน่อยได้ คุณไม่สามารถจะโชว์ฟอร์มในระดับที่คุณสามารถจะทำได้ ดังนั้นผมคิดว่าความกดดันดี แต่ด้วยการซ้อม และการเตรียมตัวที่ดีหลังจากนั้นคุณจะบรรเทาความกดดัน และคุณสามารถจะรับมือกับมันได้"

"ผมคิดว่านั่นคือกุญแจสำคัญ: เมื่อคุณนั้นเล่นเกมๆหนึ่ง, คุณสนุกกับมัน คุณสนุกกับการเล่นได้ดี และเมื่อทีมของคุณกำลังเล่นได้ดีไปด้วยกัน, หลังจากนั้นคุณสนุกกับมัน จากสิ่งที่ผมเห็นมาในหลายๆ เกม ดูเหมือนว่าผู้เล่นทั้งหลายกำลังสนุกอย่างแท้จริง"

"การลุ้นแชมป์มันเหลือเชื่อมากๆ ผมเคยอยู่ที่นั่นตอนที่อาร์เซนอลมีสถิติไม่แพ้ทีมใดในลีก และผมคิดว่านั่นจะไม่เคยเกิดขึ้นอีกครั้ง และตอนนี้มี 2 ทีมเหล่านี้ใกล้เคียงมากๆ "

"ลิเวอร์พูลแพ้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และเมื่อ 2 ทีมสามารถจะทำแบบนั้นได้ มันก็เป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยม"

ผลการแข่งขันเมื่อไม่นานมานี้ให้การสนับสนุนมุมมองของฮูเปียด้วยเนื่องด้วยหงส์แดงกำลังจะมุ่งสู่เกมวันอาทิตย์นี้โดยชนะมา 6 เกมติดต่อกันในทุกๆรายการ

"ผมคิดว่าไม่ได้มีหลายปีนักในพรีเมียร์ลีกที่จะมีหนึ่งทีมที่จะเหนือกว่าทีมอื่นๆ ไปตลอดทั้งฤดูกาล" ผู้เล่นซึ่งเป็นแชมป์แชมเปียนส์ลีกเมื่อปี 2005 กล่าว

"ทุกๆ ทีมจะมีบางช่วงเวลาที่มีช่วงเวลาที่แย่ไปบ้าง และเราก็มีที่ไม่ชนะในหลายๆเกม และเสมอมากมาย มันไม่ได้แย่ที่คุณเสมอ แต่เราเคยมีช่วงเวลาที่แย่ และตอนนี้เราดูเหมือนว่าจะผ่านมันไปแล้ว"

"มันเป็นความยอดเยี่ยมที่หลังจากช่วงเวลานั้นแล้วก็มาชนะติดต่อกัน และนั่นทำให้เรายังอยู่ในการแข่งขันไปกับซิตี้ ผมไม่คิดว่าฤดูกาลนี้ซิตี้จะทำคะแนนหล่นหายมากมายอีกต่อไป และเราต้องทำแบบเดียวกันแล้วรอความผิดพลาดของพวกเขา และเมื่อพวกเขาพลาด, เราต้องอยู่ที่นั่น"

"แต่คุณต้องมีสมาธิไปทีละเกม มันจะเป็นความผิดพลาดอย่างมากกับการคิดล่วงหน้า คุณต้องมีสมาธิกับเกมถัดไป และผมคิดว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ฉลาดพอที่เขาจะทำการบอกบรรดาผู้เล่นหลายครั้งต่อวันว่าเกมถัดไปมีความสำคัญมากที่สุด"

"มีคนถามมามากมายว่าผมอยากจะชนะพรีเมียร์ลีกหรือแชมเปียนส์ลีกมากกว่า แต่ทำไมจะเลือกทั้งคู่ไม่ได้ล่ะ หากคุณลงไปยังสนาม คุณก็ต้องการชนะ และมันไม่สำคัญจริงๆว่ามันจะเป็นเกมแชมเปียนส์ลีกหรือเกมลีก"

"ผมคิดว่ากลุ่มนักเตะมีความสามารถพอที่จะชนะทั้ง 2 รายการได้ แต่มันจะไม่ง่าย และคุณไม่สามารถจะคิดถึงการคว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกก่อนที่คุณจะไปถึงนัดชิงได้ พอคุณเข้าชิงได้, หลังจากนั้นคุณถึงจะคิดถึงการชนะมัน มีอีกหลายเกมให้เล่นก่อนหน้านั้น และอีกหลายๆเกมให้ชนะก่อนหน้านั้น ดังนั้นการมีสมาธิกับเกมถัดไปคือสิ่งหลักๆ และนั่นคือสิ่งที่ผมหวังว่าทีมจะทำ"

"นอกจากนี้คุณต้องทำให้ดีกว่าคู่แข่งในทุกๆเกม คุณไม่สามารถจะคิดในเกมใดๆ ก็ตามแต่ว่าเราสามารถจะชนะด้วยการเล่น 90% ได้ มันต้อง 100% และผมแน่ใจว่า 100% จะอยู่ที่นั่นในเกมเจอเชลซี เนื่องจากพวกเขาเป็นทีมที่ดี"

"ทุกๆคนรู้ว่าหากเราไม่ 100% หลังจากนั้นมันจะยากมากๆกับการชนะ ดังนั้นผมคิดว่าสำหรับสต๊าฟฟ์โค้ชมันง่ายกว่ากับการเตรียมความพร้อมกับเกมนั้นเนื่องจากผู้เล่นทุกคนต่างรู้ว่าหากเราไม่ 100% แม้กระทั่ง 98% ก็ตามหลังจากนั้นมันจะยาก"

2 เกมเมื่อไม่นานมานี้ของลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์กับท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ และปอร์โต้ตามลำดับเห็นว่าการบุกตั้งแต่ต้นเกมของพวกเขาได้รับรางวัลตอบแทนด้วยประตูต่างๆ

ดังนั้นฮูเปียพิจารณาว่าวิธีการเล่นโดยกดดันอย่างหนักตั้งแต่เริ่มต้นเกมจะเป็นกุญแจสำคัญในการเก็บ 3 คะแนนสุดสำคัญกับเชลซีหรือไม่

"แน่นอนว่าการเริ่มต้นเร็วในบ้านเป็นสิ่งที่ดีเสมอ คุณมีแฟนๆ ที่เสียงดังกว่า และประตูแรกในเกมใดก็ตามแต่มีความสำคัญมากๆ" อดีตกองหลังชาวฟินแลนด์อธิบาย

"แน่นอนว่าผมคิดว่าเชลซีไม่ใช่ทีมที่แย่ ดังนั้นมันสำคัญกับการเล่นได้ดีไปตลอดทั้งเกม ตลอดทั้ง 90 นาทีเนื่องจากการเริ่มต้นเร็วไม่ได้หมายถึงอะไรก็ตามแต่หากคุณหยุดเล่นหลังจากผ่านไป 15 นาที"

"คุณต้องการฟอร์มการเล่นอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งเกม และมันไม่สำคัญอย่างแท้จริงว่าประตูจะมาตอนไหนแต่แน่นอนว่าการได้ประตูเร็วสามารถจะให้กำลังใจกับคุณได้เมื่อคุณมีมันในวิธีการนั้น: มันไม่สามารถจะเป็นความโล่งใจหรืออะไรก็ตามแต่กับการทำประตูเร็ว คุณต้องดำเนินการวิธีการแบบเดิมต่อไปหลังจากนั้นสุดท้ายแล้วเอาชนะเกมให้ได้"

"เกมการแข่งขันคือ 90 นาที และคุณต้องมีสมาธิตลอดทั้งเกม"