ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะเหนือเชลซี 2-0 กลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูงอีกครั้ง

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, เกอิต้า, เฮนเดอร์สัน©, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: มินโญเลต์, ไวจ์นัลดุม, ลอฟเรน, มิลเนอร์, สเตอร์ริดจ์, ชากิรี และโอริกี

เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนแปลงทีมเพียง 2 ตำแหน่งจากเกมชนะเอฟซี ปอร์โต้ ในการแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ โดยโจเอล มาติป ได้กลับมาประจำการในแดนหลังแทนเดยัน ลอฟเรน และแอนดี โรเบิร์ตสัน ได้กลับมาลงเล่นอีกครั้ง หลังติดโทษแบนในเกมแชมเปียนส์ลีก โดยเจมส์ มิลเนอร์ ที่ลงมาทำหน้าที่แทนเมื่อเกมที่แล้ว มีชื่ออยู่บนม้านั่งสำรอง

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 34 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยการรั้งตำแหน่งรองจ่าฝูง มี 82 คะแนน ในขณะที่เชลซี อยู่ในอันดับที่ 4 ด้วยการมี 66 คะแนน

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาทีที่ 51 มาเน่ทำประตูให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0
  • นาทีที่ 53 ซาลาห์ทำประตูให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 2-0

เกมในครึ่งแรก

ก่อนเกม นักเตะและแฟนบอลในสนามยืนสงบนิ่งเพื่อระลึกถึงวาระครบรอบ 30 ปี เหตุโศกนาฎกรรมที่ฮิลล์สโบโรห์

เริ่มเกม เจ้าบ้านเป็นฝ่ายเขี่ยลูกก่อน และในนาทีที่ 2 ลิเวอร์พูลมีจังหวะสับไกเป็นครั้งแรกจากโรเบิร์ตสัน แต่บอลเข้ามือเกป้า ผู้รักษาประตูเชลซี ต่อมา ในนาทีที่ 4 บอลไปถึงเอเด็น อาซาร์ ที่อยู่หน้าประตู แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้า ห้านาทีแรก หงส์แดงเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า

ผ่านห้านาทีแรกไม่กี่วินาที ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตู เมื่อนาบี เกอิต้าแทงบอลทะลุช่องให้ซาดิโอ มาเน่ ที่วิ่งขึ้นมาทางกราบซ้าย มาเน่ตวัดไปหน้าประตูมาเข้าทางโมฮาเหม็ด ซาลาห์ กองหน้าหมายเลข 11 วอลเลย์ด้วยซ้ายเต็มแรง แต่บอลตรงตัวผู้รักษาประตู

นาทีที่ 13 โม ซาลาห์ ตักบอลเข้ามาหน้าเขตโทษ โดยมีเป้าหมายที่มาเน่ แต่ลึกเกินไป บอลเลยไปเข้ามือเกป้า จากนั้น ลิเวอร์พูลเกือบได้เปิดเข้ามาอีกครั้งจากโรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ แต่ติดเอ็นโกโล่ ก็องเต้ กองหลังของเชลซี ต่อมา ทีมเยือนมีโอกาสบุกขึ้นมาหน้าประตูลิเวอร์พูล แต่กองหลังเจ้าบ้านยังทำหน้าที่ได้ดี

ผ่าน 15 นาที ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด

นาทีที่ 19 ลิเวอร์พูลทำเกมสวนกลับ เกอิต้าเปิดบอลให้มาเน่ แต่น้ำหนักขาดไปนิดหน่อย โดนกองหลังเชลซีสกัดไว้ได้ อึดใจต่อมา หงส์แดงได้ยิงอีกครั้งจากการดูดบอลลงของเกอิต้าทางกราบซ้าย แต่จังหวะยิง บอลลึกเกินไป เข้ามือเกป้าอีกครั้ง

นาทีถัดมา เป็นโอกาสของทีมเยือนบ้าง เมื่ออาซาร์หลุดกับดักล้ำหน้า ล็อคหลบกองหลังลิเวอร์พูล แต่จังหวะสับไกเบาไป บอลเข้ามืออลิสสัน ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรก ยังเสมอกัน 0-0

นาทีที่ 26 เจ้าบ้านเกือบได้เฮ เมื่อฟาบินโญ่เปิดบอลยาวมาให้ซาลาห์ โหม่งต่อให้จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันตวัดยิงเต็มข้อ บอลไปติดเท้าดาวิด ลุยซ์ ออกหลังไป

หลังจากโดนลิเวอร์พูลโหมบุกอยู่พักใหญ่ เชลซีมีจังหวะโต้กลับจากการวางบอลยาวของลุยซ์ให้กับวิลเลียน อาซาร์วิ่งทำทางขึ้นมาทางด้านขวา แต่วิลเลียนเลือกยิงเอง บอลออกหลังไปไกล หงส์แดงกลับมาเป็นฝ่ายทำเกมบุกอีกครั้ง แต่ยังทำลายแนวรับของเชลซีไม่ได้

นาทีที่ 37 อาซาร์หลุดขึ้นไปพร้อมกับบอล แต่กองหลังลิเวอร์พูลยังช่วยกันป้องกันได้เป็นอย่างดี ก่อนที่ฟาบินโญ่จะเข้ามาช่วยสกัดพ้นอันตราย

อึดใจต่อมา ฟาบินโญ่ตัดบอลได้จากกลางสนาม จ่ายต่อให้เฟอร์มิโน่ ก่อนจะเปิดให้กับซาลาห์ทางกราบขวา โมจ่ายต่อให้มาเน่ตะบันเต็มแรง บอลออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 40 เชลซีเปลี่ยนตัวคนแรก ส่งอันเดรียส คริสเตนเซ่น ลงมาแทนอันโตนิโอ รูดิเกอร์ ที่มีอาการบาดเจ็บ

นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ได้ใบเหลืองจากการทำฟาวล์มาเน่ จากนั้น ลิเวอร์พูลมีจังหวะใกล้เคียง เมื่อเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เปิดฟรีคิกจากกราบซ้าย เฟอร์มิโน่และฟาบินโญ่ วิ่งเข้าชาร์จ แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้า

ทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที ทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้ จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล เสมอ เชลซี 0-0

 

เกมในครึ่งหลัง

ทั้งสองทีมกลับมาลงสนามในครึ่งเวลาหลัง โดยใช้ผู้เล่นชุดเดิม

ห้านาทีแรก ลิเวอร์พูลยังคงเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า โดยมีจังหวะเปิดบอลเข้าไปหน้าประตูฝ่ายตรงข้ามได้บ่อยครั้ง

หลังจากขึงเกมมาพักใหญ่ แฟนบอลเจ้าบ้านก็เป็นฝ่ายได้เฮ ในนาทีที่ 51 เมื่อมาติปเปิดบอลมาให้ซาลาห์ทางกราบขวา โมทำชิ่งหนึ่ง-สองกับเฟอร์มิโน่ ก่อนที่กองหน้าชาวอียิปต์จะจ่ายต่อให้เฮนเดอร์สัน กัปตันตักข้ามต่อไปให้กับมาเน่ที่ยืนอยู่โล่งๆ บริเวณเสาสอง นักเตะเจ้าของเสื้อหมายเลข 10 โหม่งจ่อๆ ไม่พลาด ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0

นาทีที่ 53 หงส์แดงทำประตูที่สองในเวลาห่างกันแค่สองนาที เมื่อเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค เปิดบอลให้กับซาลาห์ที่ยืนอยู่ตรงกราบซ้าย โมล็อคเข้าในก่อนจะลักไก่ยิงด้วยซ้ายเต็มข้อ บอลพุ่งเข้าเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลอย่างงดงาม เจ้าบ้านออกนำห่าง 2-0

นาทีที่ 56 เชลซีแก้เกมด้วยการส่งกอนซาโล อิกวาอิน ลงมาแทนคัลลัม ฮัดสัน-โอดอย

จังหวะถัดมา เฟอร์มิโน่มีจังหวะสับไกด้วยขวา บอลถากออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากเสียสองประตูติดๆ กัน ทีมเยือนจึงโหมบุกอย่างหนัก และในนาทีที่ 59 กองเชียร์เจ้าบ้านต้องใจหายใจคว่ำ เมื่ออาซาร์หลุดกับดักล้ำหน้า ยิงบอลผ่านมืออลิสสันไปแล้ว แต่บอลไปชนเสา กระดอนออกมา ลิเวอร์พูลรอดพ้นการเสียประตูไปหวุดหวิด

ไม่ถึงนาทีต่อมา อาซาร์คนเดิมได้โอกาสยิงจ่อๆ อีกครั้ง แต่ผู้รักษาประตูลิเวอร์พูลยังรับไว้ได้

เชลซียังโหมบุกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลิเวอร์พูลต้องลงมาช่วยเกมรับกันอย่างหนาแน่น โดยสิงโตน้ำเงินครามมีจังหวะเกือบได้ประตูหลายครั้ง แต่กองหลังลิเวอร์พูลยังสกัดออกมาได้

นาทีที่ 65 เป็นโอกาสของลิเวอร์พูลบ้าง เมื่อซาลาห์มีจังหวะยิงทางด้านขวาของประตู แต่บอลเบาไป ผู้รักษาประตูเชลซีรับไว้ได้

นาทีที่ 66 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวคนแรก โดยส่งจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ลงมาแทนเกอิต้า

เข้าสู่ช่วงห้านาทีสุดท้าย เชลซีเปลี่ยนตัวสำรองคนสุดท้าย โดยส่งรอสส์ บาร์คลีย์ ลงมาแทนรูเบน ลอฟตัส-ชีค ในขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวสำรองคนที่สอง โดยส่งเจมส์ มิลเนอร์ ลงมาแทนเฮนเดอร์สัน

นาทีที่ 80 ซาลาห์เก็บบอลได้ทางฝั่งขวา เปิดต่อให้เฟอร์มิโน่ตวัดยิง บอลไปเข้ามือผู้รักษาประตู จังหวะสวนกลับของเชลซี กองหลังลิเวอร์พูลยังช่วยกันสกัดไว้ได้

ห้านาทีต่อมา ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่า และมีจังหวะยิงประตูหลายครั้ง แต่ยังไม่ผ่านกองหลังของทีมเยือน

นาทีที่ 87 เชลซีเกือบพลาด เมื่อฟาน ไดจ์ค หวดบอลยาวขึ้นหน้า เกป้า ผู้รักษาประตูเชลซี ออกมาเล่นบอลนอกกรอบ แต่เตะวืด น่าเสียดายที่มาเน่เกี่ยวบอลไม่ทัน บอลออกหลังไปแบบเกือบได้ลุ้น

นาทีกว่าๆ ต่อมา มาเน่กระชากบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และมีจังหวะยิงเต็มแรง บอลไปติดมือผู้รักษาประตู

นาทีสุดท้ายของการแข่งขัน ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวสำรองคนสุดท้าย โดยส่งเซอร์ดาน ชากิรี ลงมาแทนซาลาห์

ทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก ก็องเต้มีจังหวะโหม่ง บอลย้อยเข้ามืออลิสสัน หมดช่วงทดเวลา 3 นาที ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้

จบเกม ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะ กลับขึ้นไปเป็นจ่าฝูง ด้วยการมี 85 คะแนน นำแมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูง ที่มี 83 คะแนน