ตำแหน่งในในรอบรองชนะเลิศ แชมเปียนส์ลีกเป็นเดิมพันสำหรับเกมที่ลิเวอร์พูลจะพบกับเอฟซี ปอร์โต้ ในเอสตาดิโอ โด ดราเกาในค่ำคืนวันพุธนี้ หลังจากหงส์แดงนำอยู่ 2-0 จากเกมเลกแรก

สำหรับในเกมตัดสินในโปรตุเกส นี่คือ 3 ตัวแปรสำคัญในการต่อสู้ตามความเห็นของโดมินิก เรย์เนอร์นักข่าวจากเว็บไซต์สโมสรลิเวอร์พูล...

เปเป้ v ซาดิโอ มาเน่

หลังจากติดโทษแบนในเกมแรกที่แอนฟิลด์ เปเป้ เซนเตอร์แบ็กจอมเก๋าจะกลับมาเป็นหัวใจในแนวรับของปอร์โต้ และนำประสบการณ์อันมีค่าของเขามาใช้ ในฐานะเจ้าของแชมป์ 3 สมัยในรายการนี้กับเรอัล มาดริด และดีกรีแชมป์ยูโร 2016

เขาเซ็นย้ายจากเบซิกตัสในเดือนมกราคม และลงเล่นไปแล้ว  17 เกมในการคืนปอร์โต้เป็นสมัยที่สองกับทีมที่เขาเคยได้แชมป์ลีกในฤดูกาล 2005-06 และ 2006-07 และกลายเป็นแกนหลักในทีมของเซร์จิโอ คอนเซเซา พร้อมกับการเข้าสกัดอันหนักหน่วง และร่างกายอันกำยำในเกมรับ ซึ่งเขาจะรู้วิธีทุกอย่างที่จะรับมือความเร็ว และความไหลลื่นของ 3 ประสานในแดนหน้าของลิเวอร์พูล

ซาดิโอ มาเน่ ยิงสองประตูในเกมนอกบ้านล่าสุดในยุโรป จากชัยชนะ 3-1 เหนือบาเยิร์น มิวนิก ที่เขาได้ยืนตรงกลางมากขึ้น และน่าจะคอยเล่นงานเปเป้ในวันพุธนี้ เจ้าของเสื้อเบอร์ 10 ของลิเวอร์พูลยังทำแฮตทริกได้ในครั้งล่าสุดที่ลงเล่นที่นี่ และยังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรงทำไปแล้ว 12 ประตูจาก 15 เกมล่าสุดในทุกรายการ

การใช้เท้าเล่นบอลได้อย่างยอดเยี่ยม และกระตือรือร้น มาเน่มีทุกอย่างที่สร้างความยุ่งยากให้กับกองหลังคนใดในโลก และเป็นหนึ่งในอาวุธสำคัญของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้

เอคตอร์ เอร์เรร่า v จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม

ลเอคตอร์ เอร์เรร่า กัปตันทีมติดโทษแบนในเกมเลกแรกที่แอนฟิลด์ และความสามารถในการเติมเกมรุกขึ้นไปยิงไกลเป็นสิ่งที่แฟนบอลทีมเยือนคิดถึงในเกมนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักเตะที่ขึ้นพาดหัวเป็นประจำอย่างยาซีน บราฮิมี่ และมุสซ่า มาเรก้า แต่กองกลางตัวรับลึกมีส่วนสำคัญในการคุมจังหวะเกม และไม่มีเพื่อนร่วมทีมคนใดลงเล่นมากกว่านักเตะวัย 28 ปีในฤดูกาลนี้

เขาน่าจะยืนขนานกับ ดานิโล เปเรร่า ในแดนกลาง โดยการเติมเกมของเขาช่วยทำไป 8 ประต์ในฤดูกาลนี้ เป็นรองแค่กองหน้าอย่างบราฮิมี่, มาเรก้า และติกินโญ่ ซัวเรสเท่านั้น

ตัวจริงฝั่งตรงข้ามกับเอร์เรร่าน่าจะเป็นจอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุมที่ลุกจากม้านั่งสำรองระหว่างชัยชนะเหนือเชลซี 2-0 เมื่อวันอาทิตย์ แต่เป็นตัวหลักในแดนกลางของลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้ เขาสามารถเล่นได้ดีทั้งรับ และรุก และมีทุกอย่างที่จะรับมือเอร์เรร่าในสไตล์บ็อกซ์-ทู-บ็อกซ์ และยังมีทีเด็ดที่ขาดของตัวเอง

เจ้าของเสื้อเบอร์ 5 ลงเล่น 90 นาทีเต็มในเกมยุโรปนัดล่าสุดของลิเวอร์พูลที่ออกไปเยือนบาเยิร์น มิวนิก และสร้างโอกาสทำประตูแรกให้มาเน่ในชัยชนะ 5-0 ในครั้งล่าสุดที่ลิเวอร์พูลมาเยือนปอร์โต้

เฮซุส โกโรน่า v แอนดี โรเบิร์ตสัน

โกน่าสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่งทางด้านขวา โดยเกมที่แอนฟิลด์เขาเล่นเป็นวิงแบ็ก แต่เกมนี้เชื่อว่าเขาจะกลับไปเล่นปีกที่คุ้นเคยมากกว่า นักเตะทีมชาติเม็กซิโกวัย 26 ปีเป็นหัวใจหลักในการเล่นเกมรุกเร็วของปอร์โต้ ร่วมกับบราฮิมี่ในฝั่งตรงข้าม และมักจะพาบอลตัดเข้ากลาง และเปิดโอกาสให้ฟูลแบ็กสอดขึ้นไปทำเกม

การตัดการสนับสนุนของปีกรายนี้น่าจะเป็นหน้าที่ของแอนดี โรเบิร์ตสันที่ติดโทษแบนในการเจอกันเกมที่แล้ว เขาเพิ่งได้การยกย่องเป็นแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในประเทศ กับสถิติการเข้าสกัด 2.3 ครั้งต่อเกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้

แต่นักเตะทีมชาติสกอตแลนด์ยังมีความยอดเยี่ยมไม่แพ้กันในเรื่องของการขึ้นเกมรุก และทำไป 11 แอสซิสต์ในฤดูกาลนี้มากกว่านักเตะลิเวอร์พูลทุกคน มันจะเป็นการต่อสู้ริมเส้นที่น่าสนใจ เมื่อจากสถิติทั้งสองฝั่งต่างมีบทบาทสำคัญในการร้างโอกาสการทำประตู

มันจะเป็นการต่อสู้ที่น่าสนใจบนปีกด้วยชายทั้งสองมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสในการทำประตู