เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ พร้อมสำหรับ ‘สองเกมสุดท้าย’ ในขณะที่ลิเวอร์พูลมุ่งมั่นจะปิดฉากฤดูกาลอันน่าจดจำด้วยการคว้าถ้วยแชมป์

หลังจากการันตีพื้นที่ในนัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก ด้วยการพลิกกลับมาชนะเอฟซี บาร์เซโลนา หงส์แดงกำลังก้าวเข้าสู่เกมสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก ด้วยความหวังในการคว้าถ้วยแชมป์

เพื่อให้เป็นเช่นนั้น ทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ จะต้องเอาชนะวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส ที่แอนฟิลด์ วันอาทิตย์นี้ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะต้องทำแต้มหล่นในเกมกับไบรจ์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ให้คำมั่นว่า นักเตะทุกคนพร้อมที่จะเดินหน้าต่อจากชัยชนะอันสวยงาม 4-0 เมื่อวันอังคาร เพื่อ มุ่งมั่นไปสู่บทสรุปที่ดี สำหรับเส้นทางลุ้นแชมป์อันน่าเหลือเชื่อ

“ผมค่อนข้างมั่นใจว่า มันจะ (ถูกบันทึกลงในประวัติศาสตร์ของแอนฟิลด์)” อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กล่าวกับเว็บไซต์ทางการ

 “ผมคิดว่า ใครก็ตามที่อยู่ในเกมวันนั้น จะต้องบอกว่ามันอาจจะเป็นหนึ่งในบรรยากาศที่ดีที่สุดที่พวกเขาเคยประสบพบเจอมา ผมคิดว่า บาร์เซโลนาคงช็อคที่เราทำได้ดีขนาดนั้น แม้แต่ที่นั่นเอง (ในเกมเลกแรก)

“ตอนที่เราลงเล่นที่แอนฟิลด์ เรากลายเป็นทีมที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง นั่นคือยิ่งดีขึ้นไปอีก เรามีแฟนๆ คอยหนุนหลังเรา และมันเป็นบรรยากาศอันน่าเหลือเชื่อ มันคือทุกสิ่งทุกอย่างจริงๆ ผมคิดว่าพวกเขา (นักเตะบาร์เซโลนา) คงช็อคและประหลาดใจมากๆ และเราก็แค่อาศัยความได้เปรียบนั้น และลงโทษพวกเขา

 “มันยากที่จะเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง แต่เรายังมีงานที่จะต้องทำในวันอาทิตย์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เราจะได้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราได้ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสามารถทำได้ในฤดูกาลนี้ ในการพยายามที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จ ตอนนี้ เรายังมีอีกสองนัดสุดท้าย และมันสำคัญมากสำหรับเรา ที่จะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างลงไปในสองเกมนี้”

เกมเลกที่สอง ในรอบรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันอังคาร กับทีมบาร์เซโลนา อาจจะเป็นการพลิกกลับมาชนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเกมยุโรปที่เคยเกิดขึ้นในแอนฟิลด์

หลังจากตามหลังสามประตูจากเกมเลกแรกที่คัมป์ นู ลิเวอร์พูลแสดงฟอร์มการเล่นที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความตั้งใจที่จะทำสี่ประตู และไม่เสียประตูให้กับคู่แข่ง เพื่อเป็นฝ่ายขึ้นนำด้วยประตูรวม

อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำสองแอสซิสต์ ในเกมที่เขามีฟอร์มการเล่นอันไร้ที่ติ แต่นักเตะเจ้าของเสื้อหมายเลข 66 กระตือรือร้นที่จะยกย่องผู้ทำประตูของหงส์แดงในค่ำคืนดังกล่าว

ดิว็อค โอริกี เข้ามาในทีม และทำประตูแรกและประตูที่สี่อันสุดแสนสำคัญ ในขณะที่จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ตัวสำรอง ทำสองประตูในช่วงเวลาแค่ 11 นาที หลังลงมาในช่วงครึ่งเวลาหลัง

 “คุณได้ดิว็อค ที่ไม่ค่อยได้ลงมากนักในฤดูกาลนี้ และเขาลงมาทำสองประตู” อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กล่าว

“คุณได้จินี ที่ลงมาเป็นตัวสำรอง เขาคงจะโกรธ, ผิดหวัง และเสียใจมาก ที่ไม่ได้เป็นตัวจริงในเกมที่อาจจะเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฤดูกาล แต่เขาแสดงให้เห็นว่าเขาพร้อม, ลงมาในครึ่งหลัง และภายใน 10 นาที เขาทำได้สองประตู และเขาเป็นคนตีเสมอให้กับเรา

 “มันเป็นการแสดงให้เห็นว่า คุณไม่สามารถผิดหวังจนเกินไป และต้องพร้อมสำหรับโอกาสเมื่อมันมาถึง เพราะมันมีความเป็นไปได้มากๆ ว่าคุณจะได้รับโอกาส ไม่ว่ามันจะเป็นบาร์เซโลนา หรือทีมใดก็ตาม

 “คุณแค่ต้องเตรียมพร้อม และนักเตะทั้งสองคนก็เป็นแบบนั้น เป็นโชคดีของเรา และพวกเขาได้บันทึกชื่อของตัวเองลงในประวัติศาสตร์ และตำนานสำหรับช่วงเวลาปัจจุบันเรียบร้อยแล้ว แค่เกมนั้นเกมเดียว”

ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ทำผลงานแบบเดียวกับลิเวอร์พูลในอัมสเตอร์ดัม เพียง 24 ชั่วโมงต่อมา ตบเท้าเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศกับหงส์แดงที่กรุงมาดริด ในวันที่ 1 มิถุนายน

ทีมของเมาริซิโอ โปเชตติโน ต้องการสามประตูในครึ่งเวลาหลังของเกมเลกที่สอง ในเกมไปเยือนอาแจ็กซ์ และบรรลุเป้าหมายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บหกนาที

 “มันเป็นเรื่องดีสำหรับฟุตบอลอังกฤษ ที่สองทีมกำลังเข้าสู่นัดชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีก” อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กล่าว

“เรารู้จักกันและกันดี เราเอาชนะพวกเขาได้สองครั้งในฤดูกาลนี้ ดังนั้น เราจึงเข้าสู่เกมนี้ด้วยความมั่นใจนิดหน่อย แต่ทั้งพวกเขาและเรา จะมีความมั่นใจจากเกมแชมเปียนส์ลีกนัดล่าสุด เราทั้งสองทีมต่างพลิกกลับมาชนะได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ดังนั้น ผมมั่นใจว่ามันจะเป็นเกมที่ดีอย่างแน่นอน”