ความสม่ำเสมอ และการเล่นที่ไม่เห็นแก่ตัวตลอดอาชีพในการเล่นของจอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับลิเวอร์พูลจะทำให้เขาถูกบันทึกลงไปในฐานะตำนานของสโมสรตามความเห็นของแจน โมลบี

กองกลางรายนี้กลายเป็นกัปตันทีมคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์หงส์แดงที่ชูถ้วยยูโรเปียน คัพ หลังจากเขา และเพื่อนร่วมทีมเอาชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ในมาดริดช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา และโมลบีมองว่าความสำเร็จนี้เป็นรางวัลของเฮนเดอร์สันจากความทุ่มเทรับใช้ทีมตลอด 8 ปี

“บ่อยครั้งที่คนเหล่านี้ถูกมองข้ามว่า มีความสำคัญมากแค่ไหน” ตำนานนักเตะเดนมาร์กที่ลงเล่น 292 เกมให้กับสโมสรระหว่างปี 1984-95 กล่าวกับ Liverpoolfc.com

“แต่ที่สโมสรลิเวอร์พูล เราภาคภูมิใจมากกับประวัติศาสตร์ของเรา และถ้าคุณผ่านทีมที่ยอดเยี่ยมทั้งหมด เราสามารถเรียกชื่อนักเตะยอดเยี่ยมได้ทั้งหมด แต่ (เช่นเดียวกัน) นักเตะที่ลงเล่นทุกๆ สัปดาห์ ทำผลงานทุกๆ สัปดาห์ ก้าวผ่านประวัติศาสตร์ จะกลายเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่”

“เมื่อจอร์แดนจากไป ผู้คนจะมองเห็นช่องว่างที่เขาทิ้งไว้ และคิดว่า ‘โอ้, ว้าว’ “

แชมป์ยูโรเปียน คัพเป็นถ้วยใบแรกของเฮนเดอร์สันตั้งแต่รับตำแหน่งกัปตันทีมต่อจากสตีเวน เจอร์ราร์ด ในเดือนกรกฎาคม 2015 และโมลบียกเครดิตให้ความแน่วแน่ของนักเตะวัย 28 ปี ที่สร้างผลประโยชน์ต่างๆ ให้กับทีม

“ตอนนี้มันมีความสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมา” อดีตเพลย์เมกเกอร์กล่าวต่อไป “เราไม่เคยคิดถึงความสำคัญของคาแรกเตอร์ในห้องแต่งตัว เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่มีอะไรนอกจากคาแรกเตอร์”

“เขาไม่เคยกลัวที่จะเผชิญหน้ากับการวิพากษ์วิจารณ์ที่ได้รับ  โดยที่ผมหมายถึงว่าคุณลงไป และเล่นเกมของคุณเอง”

“บางคนพยายาม และเปลี่ยนแปลงวิธีการเล่นของพวกเขา  บางคนพยายามมองไปหาคนอื่นมาแทนอยู่เป็นประจำ ‘เราจะได้คนอื่นที่ดีขึ้นไหม?’ “

“นั่นเป็นสาเหตุตอนที่ผมไม่ได้ลงเล่น ผมไม่เคยเคาะประตูผู้จัดการทีม เพราะว่าตอนที่คุณลงเล่น คุณรู้ว่าทำไมคุณได้ลงเล่น และเมื่อคุณไม่ได้ลงเล่น คุณรู้ว่าทำไมคุณถึงไม่ได้ลงเล่น”

"คำชมที่ใหญ่ที่สุดที่คุณสามารถจะได้รับในฐานะผู้เล่น คือ การที่ผู้จัดการคอยเลือกคุณอยู่เรื่อยๆ”