Match Report: ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพ หลังดวลจุดโทษชนะเชลซี

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อาเดรียน, โกเมซ, มาติป, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, มิลเนอร์, เฮนเดอร์สัน ©,  อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, มาเน่ และซาลาห์

สำรอง: โลเนอร์แกน, เคลเลเฮอร์, ไวจ์นัลดุม, เฟอร์มิโน่, ลัลลานา, ชากิรี, บริวสเตอร์, โอริกี, ฮูเฟอร์, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และเอลเลียตต์

อัพเดตทีม: มาเน่กลับมาเป็นตัวจริงในเกมนี้ รวมทั้งอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และมาติป โดยเฟอร์มิโน่, เอล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และไวจ์นัลดุม ที่เป็นตัวจริงจากเกมนอริช หลุดไปเป็นตัวสำรอง

นอกจากนี้ เกอิต้า ไม่มีชื่อในทีมเนื่องจากมีอาการตึงที่กล้ามเนื้อ ซึ่งทีมแพทย์จะประเมินต่อไป

จังหวะสำคัญในเกม

• นาที 36 ชิรูด์ยิงให้เชลซีขึ้นนำ 0-1
• นาที 48 มาเน่ตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 1-1
• นาที  95 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1
• นาที 100 จอร์จินโญ่ยิงจุดโทษตีเสมอ 2-2  

เกมในครึ่งแรก

เกมแรกของลิเวอร์พูลในเส้นทางยุโรปเริ่มต้นที่อิสตันบูล โดยทีมหงส์แดงลงแข่งกับเชลซี ที่เป็นแชมป์ยูโรปา ในรายการซูเปอร์ คัพ ซึ่งลิเวอร์พูล ทีมแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก เริ่มต้นเกมได้อย่างดุดัน และทำเกมรุกได้เป็นระลอกตั้งแต่แรก โดยนาที 6 ลิเวอร์พูลได้เตะมุม แต่ถูกเคลียร์ไปก่อนที่ซาลาห์จะโฉบเข้ามา ก่อนที่ในนาที 9 ฟาบินโญ่จะโยนข้ามานกรอบ แต่ผู้รักษาประตูรับเข้ามือ ก่อนที่ในนาที 13 เฮนเดอร์สันเปิดเข้ากรอบแต่ถูกสกัดก่อนที่บอลจะถึงมาเน่ ลิเวอร์พูลได้เตะมุมแต่มาเน่ไม่ได้โอกาสถนัดนัก และในนาที 16 ซาลาห์ได้บอลทะลุช่องมาจากอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก่อนพาบอลขึ้นมาในกรอบ และได้ยิง แต่ไม่เข้า

เชลซีได้บุก และได้โอกาสแรกในนาที 16 ในจังหวะโต้กลับเช่นกัน แต่ยิงไม่เข้ากรอบ และในนาที 22 เปโดรได้ยิงแต่บอลชนคาน   ก่อนที่ในนาที 24 ชิรูด์จะได้ลองจักรยานอากาศ แต่บอลไม่เข้ากรอบ รวมทั้งในนาที 27 ที่พูลิซิซได้กึ่งยิงกึ่งผ่าน แต่ดีที่ไม่มีใครเข้ามาซ้ำ

จากนั้นเกมมาเข้าทางให้ลิเวอร์พูลได้โอกาสบุกบ้าง และฟาน ไดจ์ค ได้โหม่งจากจังหวะเตะมุม แต่น่าเสียดายที่บอลข้ามคาน และในนาที 30 มาเน่ได้พุ่งโหม่ง แต่ยังตรงตัวเกป้า

ลิเวอร์พูลกลับมาเล่นเกมรับอีกครั้ง และอาเดรียนต้องออกมาปัดบอลจากจังหวะหลุดเดี่ยวของเชลซีได้อย่างหวุดหวิดในนาที 33 แต่เชลซีเป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำ 0-1 ในนาที 36 จากลูกยิงของชิรูด์ที่ยิงเสียบเสาไกลเข้าไป จากนั้นในนาที 40 พูลิซีซได้บอลก่อนยิงเข้าไป แต่กรรมการเป่าให้เป้นจังหวะล้ำหน้า

เชลซียังบุกอย่างต่อเนื่อง และได้เตะมุม แต่ไม่มีจังหวะอันตราย และนั่นเป็นจังหวะสุดท้ายก่อนกรรมการเป่าหมดครึ่งแรก

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลเปลี่ยนแปลงทีมในครึ่งหลัง โดยคล็อปป์ส่งเฟอร์มิโน่ลงมาแทนอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และลิเวอร์พูลมาตีเสมอ1-1 ได้อย่างรวดเร็วในนาที 48 จากลูกยิงจ่อๆ ของมาเน่

จากนั้นเฮนเดอร์สันได้โอกาสยิง ก่อนบอลแฉลบผู้เล่นเชลซี แต่เกป้าเซฟไว้ได้ และในนาที 54 การประสานงานของซาลาห์ที่เล่นบอลสั้นกับเฟอร์มิโน่เกือบได้ผล แต่น่าเสียดายที่บอลล้นออกหลังไปเพียงนิดเดียว และเป็นจังหวะล้ำหน้า

ลิเวอร์พูลต้องเล่นเกมรับอีกครั้งในช่วงนาที 62 โดยเชลซีได้เตะมุมเป็นครั้งที่ 4 ในเกม ก่อนที่ฟาน ไดจ์ค จะโหม่งเคลียร์ออกไป เชลซีมาตั้งเกมอีกครั้งก่อนที่ชิรูด์จะทำบอลลั่นออกไปในนาที 63

คล็อปป์ส่งไวจ์นัลดุมลงมาแทนมิลเนอร์ในนาที 64

ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูนำในนาที 75 จากลูกยิงของฟาน ไดจ์ค ที่เกป้าเซฟไปชนคาน จากนั้นลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกในนาที 80 ซาลาห์ได้ยิง แต่แฉลบกำแพง ลิเวอร์พูลได้เตะมุม ก่อนเชลซีจะได้เล่นเกมบุก เปโดรไดยิงเต็มแรง แต่ติดฟาน ไดจ์ค

เชลซีได้ส่งบอลเข้าประตูในนาที 83 แต่กรรมการให้เป็นลูกล้ำหน้า

มาเน่ได้ยิงในนาที 86 แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไป

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บ 3 นาที แต่ทีมยังเสมอกัน 1-1 ทั้งสองทีมต้องเล่นในช่วงต่อเวลาพิเศษ

ครึ่งแรกของการต่อเวลาบาดเจ็บ

คล็อปป์ส่งอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มาแทนโรเบิร์ตสัน และในนาที 95 มาเน่วิ่งเข้ามารับบอลจากซาลาห์ก่อนจะยิงเข้าไปอย่างสวยงาม

หลังจากเซฟในนาที 98 แต่อาเดรียนพุ่งไปรับบอลจากอับราฮัมและล้มลง ก่อนที่กรรมการจะให้เป็นจุดโทษ และจอร์จินโญ่ยิงเข้าไปให้เชลซีเสมอ 2-2 ในนาที 100 ก่อนที่กรรมการจะเป่าหมดครึ่งเวลาแรก

ครึ่งหลังของการต่อเวลาบาดเจ็บ

ทั้งสองทีมต้องเล่นกันต่ออีก 15 นาที ก่อนที่จะต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ และในนาที 114 อาเดรียนต้องปัดลูกยิงของเมาท์ด้วยมือเดียว ก่อนที่เปโดรจะยิงอีกครั้งแต่ไม่เป็นประตู ก่อนที่ฟาบินโญ่จะล้มลงไปเพราะตะคริว และกรรมการเป่าหมดเวลา ทั้งสองทีมเสมอกัน 2-2 ใน 120 นาที ต้องดวลจุดโทษ

ช่วงดวลจุดโทษ

ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายยิงก่อน

• เฟอร์มิโน่ 1-0
• จอร์จินโญ่ 1-1
• ฟาบินโญ่ 2-1
• บาร์คลีย์ 2-2
• โอริกี 3-2
• เมาท์ 3-3
• อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ 4-3
• เอเมอร์สัน 4-4
• ซาลาห์ 5-4
• อับบราฮัมถูกเซฟโดยอาเดรียน

ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพ ได้สำเร็จ