ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้ม ได้สำเร็จอีกครั้ง หลังได้จุดโทษท้ายเกม ทำให้ชนะเลสเตอร์ ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 2-1 นำจ่าฝูงฟรีเมียร์ลีกต่อไปด้วยสถิติชนะรวด 8 เกม

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อาเดรียน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ลอฟเรน, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, มิลเนอร์ ©, ไวจ์นัลดุม, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่ 

สำรอง: เคลเลเฮอร์, เกอิต้า, โกเมซ, เฮนเดอร์สัน, ลัลลานา, โอริกี และเอลเลียตต์
อัพเดตทีม: ลิเวอร์พูลปรับสองตำแหน่งโดยส่งลอฟเรนลงมาแทนโกเมซ และมิลเนอร์มาแทนเฮนเดอร์สัน และเอลเลียตต์มีชื่อบนมานั่งสำรอง

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที 40 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0
  • นาที 80 แมดดิสันตีเสมอให้เลสเตอร์ 1-1
  • นาที 90+5 มิลเนอร์ยิงจุดโทษเข้าไปให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1

เกมในครึ่งแรก

เกมที่ 8 ของลิเวอร์พูลเป็นการกลับมาลงเล่นที่แอนฟิลด์ และเบรนแดน ร็อดเจอร์ส กลับมาเยือนแอนฟิลด์อีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีมเลสเตอร์ ซิตี้

ในช่วงต้นเกม นาที 4 ซาลาห์ได้บอลในกรอบก่อนลากเข้าไปยิงเล็งที่เสาไกล แต่บอลไม่หนีมือพอ และในนาที 8 เทรนต์ได้บอลทะลุเข้าไปในเขตโทษเช่นกันหลังมาเน่แตะบอลให้ แต่ไม่มีโอกาสจะแจ้งที่จะวางให้ซาลาห์ที่รอเข้าทำ

ลิเวอร์พูลขึ้นบุกเรื่อยๆ และได้โอกาสทองในนาที 13 แต่มาเน่ยิงข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นเกมผ่านมาถึงครึ่งชั่วโมง มาเน่ได้ยิงแต่ตรงตัว และในนาที 33 เทรนต์วางบอลขวางมาที่เสาไกล เฟอร์มิโน่เข้าฮอร์สไม่ถึง

ลิเวอร์พูลเป็นฝ่ายตั้งรับในนาที 38 เมื่อเสียฟรีคิกให้เลสเตอร์ ก่อนอาเดรียนจะโชว์ซูเปอร์เซฟจากจังหวะโหม่งของโซยุนชูจ่อๆ หน้าประตู แต่กรรมการให้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน

แต่หลังจากที่ดูเหมือนต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ ลิเวอร์พูลมาได้ประตูจากมาเน่ที่หลุดเดี่ยวขึ้นไปและไม่พลาด ลิเวอร์พูลนำ 1-0

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บ 2 นาที

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลเริ่มต้นเกมอย่างดุดัน โดยในนาที 47 ชไมเคิลต้องออกแรงเซฟลูกยิงของซาลาห์ในกรอบ และในนาที 55 มาเน่ได้ทะลุเข้าไปในกรอบจากการประสานงานกับซาลาห์ แต่มาเน่ยิงไม่เข้ากรอบ

นาที 65 เฟอร์มิโน่ได้ยิง แต่ยิงไม่เข้ากรอบ

แต่ในนาที 66 วาร์ดีได้บอลวางยาว แต่อาเดรียนดักไว้ได้ด้วยขา แต่ลิเวอร์พูลก็บุกโต้กลับ โดยซาลาห์แทงบอลให้โรเบิร์ตสันเข้าไปยิงเต็มแรง แต่ชไมเคิลบล็อกไว้ได้

ลิเวอร์พูลพยายามต่อบอลกันแต่ในจังหวะสุดท้ายที่ซาลาห์ส่งให้มาเน่ยังไม่ได้ทิศทางในนาที 77

คล็อปป์ส่งโอริกีมาแทนเฟอร์มิโน่ และเฮนเดอร์สันมาแทนไวจ์นัลดุม ในนาที 77 และตอนนี้ปลอกแขนกลับไปอยู่ที่เฮนเดอร์สัน

แต่ลิเวอร์พูลมาเสียประตูในนาที 80 หลังแมดดิสสันทะลุเข้าไปในกรอบ และยิงผ่านอาเดรียนเข้าไป 1-1

เทรนต์โยนเตะมุมเข้ามา ลอฟเรนเข้าโหม่งในนาที 85 แต่ถูกสกัดออกไป ลิเวอร์พูลได้เตะมุมติดต่ออีกครั้ง ฟาน ไดจ์ค ได้โหม่ง แต่ยังข้ามคาน

ซาลาห์ถูกสกัด และได้ฟรีคิก แต่ลูกฟรีคิกของเทรนต์ลึกเกินไป ในนาที 90 ก่อนที่กรรมการจะทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 4 นาที

คล็อปป์ส่งลัลลานามาแทนซาลาห์ที่ดูเหมือนมีอาการบาดเจ็บในนาที 90+2

ลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษในนาที 90+3 หลังมาเน่ถูกอัลไบร์ตันเกี่ยวล้มลงในกรอบเขตโทษ กรรมการเช็ควีเออาร์ ก่อนที่จะให้เป็นจุดโทษ

มิลเนอร์รับหน้าที่ยิงจุดโทษ และยิงเข้าไปในนาที 90+5

และกรรมการก็เป่าจบเกมในไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ลิเวอร์พูลคว้า 3 แต้มได้สำเร็จ และคงสถิติชนะรวดต่อไป 8 เกม