ลิเวอร์พูลลจะพบกับเกงค์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของพวกในแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่เบลเยียมในค่ำคืนนี้

และนี่คือ 3 การต่อสู้ส่วนบุคคลในเกมนี้ที่น่าจับตามองตามความเห็นของสก็อตต์ เฟลมมิ่งนักข่าวจากเว็บไซต์สโมสร...

เซบาสเตียน เดวาเอสต์ v ดิว็อค โอริกี

เกมนี้อาจจะเป็นหนึ่งในค่ำคืนที่สำคัญของดิว็อค โอริกีที่เพิ่งลงเป็นตัวจริงเป็นเกมที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก นัดบุกเสมอแมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 เมื่อเขาเคยเป็นนักเตะเยาวชนของเกงค์ก่อนย้ายไปลีลล์ ในขณะที่ไมค์บิดาของเขาเคยเป็นศูนย์หน้าช่วงปลายทศวรรษ 1990 จนถึงต้นทศวรรษ 2000

“มันยอดเยี่ยมจริงๆ ที่ได้กลับมา และลงเล่นที่นี่”ศูนย์หน้าหงส์แดงกล่าวกับสื่อเบลเยียมไม่นานมานี้ “สำหรับผม มันเป็นศูนย์ฝึกที่ดีที่สุดในประเทศ เกงค์ทำผลงานได้ดีกับนาโปลี ซึ่งเรารู้ว่ามันจะเป็นเกมที่ยาก แต่เรามีแรงจูงใจเป็นอย่างยิ่ง

ถ้าเขาได้ลงเล่นในเกมนี้ จะมีโอกาสเจอกับดาวรุ่งที่ผ่านระบบเยาวชนของลีลล์มาเช่นกันอย่างเซบาสเตียน เดวาเอสต์วัย 28 ปี ที่เขาเป็นนักเตะเอาท์ฟิลด์ที่อายุมากที่สุดร่วมในทีมของเกงค์ตอนนี้ ซึ่งพวกเขามีอายุเฉลี่ยเพียง 22.8 ปีในเกมกับนาโปลี น้อยที่สุดใน 32 ทีมรอบแบ่งกลุ่มในเกมที่ 2 และถือว่าเป็นตัวเก๋าในทีมตอนนี้ที่จะรับหน้าที่หยดยั้งโอริกี

 “กับนาโปลีทุกคนคิดว่าเราจะทำอะไรไม่ได้เลย แต่ในท้ายที่สุดเราน่าจะชนะ”เดวาเอสต์ให้ความเห็น “ถ้าเราเล่นทุกๆ เกมด้วยความมุ่งมั่นแบบเดียวกัน เราสามารถทำเรื่องที่ดีในเกมกับลิเวอร์พูลได้เช่นกัน

ซานเดอร์ เบอร์เก้ v ฟาบินโญ่

ซานเดอร์ เบอร์เก้ดีตกองกลางเวเลเรนก้าตอนนี้ติดทีมชาตินอร์เวย์ไปแล้ว 18 เกม และเป็นเลือดใหม่ของทีมร่วมกับเออร์ลิง ฮาแลนด์ศูนย์หน้าซัลซ์บวร์ก เขาครองบอลได้ดี แม้จะมีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนกับฟาบนิโญ่ และน่าจะได้ดวลกันตรงๆ ในเกมที่เคอาร์ซี เกงค์ อารีนาในค่ำคืนนี้

นักเตะชาวบราซิลเป็นนักเตะที่ลงสนามมากที่สุดให้หงส์แดงในฤดูกาลนี้ เมื่อเขาลงเล่นตัวจริงทุกเกมยกเว้นเพียงคาราบาว คัพ และเกมกับเซาท์แฮมป์ตันในพรีเมียร์ลีก และในเกมกับแมนฯ ยูไนเต็ด เขาจับบอลมากกว่านักเตะหงส์แดงทุกคน และชนะ 100 เปอร์เซ็นต์ในการดวลแย่งบอล

 “เขาเป็นนักฟุตบอลที่มีไหวพริบ และชัดเจนว่ามีมีทักษะการเล่นเกมรับครบเครื่องทุกอย่าง”คล็อปป์ตอบเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการช่วยทีมของฟาบินโญ่ในระยะหลัง “แต่ลำพังเพียงเท่านี้ไม่ได้ทำให้เขาเป็นนักเตะอย่างที่เป็น ทุกอย่างมันเกี่ยวกับความเฉลียวฉลาดในตเกมการเล่นของเขา”

เอ็มบวานา ซามัตต้า v เดยัน ลอฟเรน

การขาดโจเอล มาติป และเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แปลว่าน่าจะมีโอกาสสำหรับนักเตะคนอื่นๆ ในขณะที่โจ โกเมซน่าจะได้เล่นแบ็กขวา เดยัน ลอฟเรนน่าจะได้โอกาสยืนคู่กับเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ในการหยุดยั้งเอ็มบวานา ซามัตต้า

หลังจากได้ลงเล่นในเกมชนะเลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ต้นเดือนที่ผ่านมา ที่เขาทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจกับการสกัดบอล 7 ครั้ง และตัดบอล 3 ครั้ง แย่งลูกกลางอากาศสำเร็จ 83.3 เปอร์เซ็นต์ และจ่ายบอลสำเร็จ 88.4 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าตัวจริงของลิเวอร์พูลในเกมนั้นทุกคน

ลอฟเรนจะทำหน้าที่หยุดซามัตต้าที่คริสตอฟ ลิเบอร์ลู นักข่าวเบลเยียมระบุว่า ‘ไม่มีทางง่ายที่กองหลังจะรับมือ’ หลังจากแจ้งเกิดกับมาเซมเบ้ในคองโกด้วยการชูถ้วยแอฟริกา แชมเปียนส์ลีก ในปี 2015 ซามัตต์ต้าย้ายมาเกงค์ในเดือนมกราคม 2016 และเป็นตัวหลักในการทำประตูของทีมชาติเบลเยียมนับตั้งแต่นั้น

นักเตะวัย 26 ปีสร้างประวัติศาสตร์ในกมแรกกับซัลซ์บวร์กที่กลายเป็นนักเตะแทนซาเนียคนแรกที่ลงเล่นในแชมเปียนส์ลีก และเขาเป็นคนลดช่องว่างในความพ่ายแพ้ 2-6 ในเกมดังกล่าว เมื่อโหม่งทำประตูได้ในเกมนั้น