ลิเวอร์พูลยิงสองประตูแซงท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กลับมาเป็นผู้ชนะไปด้วยสกอร์ 2-1 ในเกมที่ 10 ของพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ลอฟเรน, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, เฮนเดอร์สัน ©,   ไวจ์นัลดุม, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่  

สำรอง: อาเดรียน, มิลเนอร์, เกอิต้า, โกเมซ, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ลัลลานา, และโอริกี 

อัพเดตทีม: ลิเวอร์พูลเปลี่ยนแปลงทีม 3 ตำแหน่งจากเกมล่าสุด โดย อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หายป่วยกลับมาทำหน้าที่ในตำแหน่งแบ็ก ในขณะที่เฮนเดอร์สัน และไวจ์นัลดุม กลับมาคุมแผงมิดฟิลด์


จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที  1 เคนโหม่งให้สเปอร์สนำ 0-1
  • นาที 52 เฮนเดอร์สันตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 1-1
  • นาที 75 ซาลาห์ยิงจุดโทษให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1

 

เกมในครึ่งแรก

เกมที่ 10 ในพรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูล เป็นการรับการมาเยือนของท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ที่แอนฟิลด์ โดยลิเวอร์พูลต้องการยืดสถิติไม่แพ้ใครออกไปต่อไป

เพียงไม่ถึง 1 นาที ลิเวอร์พูลต้องเป็นฝ่ายตามหลัง เมื่อทีมเสียการครองบอลในแดนกลาง ก่อนที่ซงจะได้ยิงและบอลแฉลบลอฟเรนก่อนกระเด้งชนคาน บอลกลับมาเข้าทางเคนพอดี และโหม่งหนีมืออลิสสันเข้าไปให้ทีมเยือนนำอย่างรวดเร็ว

หลังจากพยายามตั้งเกมอยู่สักพัก ลิเวอร์พูลมาได้โอกาสพาบอลไปในเขตโทษในนาที 14 จากจังหวะที่โรเบิร์ตสันผ่านบอลเข้าไป แต่ผู้รักษาประตูตะครุบไว้ รวมทั้งในนาที 15 ที่โรเบิร์ตสันหยอดบอลไปหน้าประตู แต่ซาลาห์กระโดดโหม่งไม่ถึง

ในนาที 21 ซาลาห์ได้หวดแบบไม่จับ แต่ยังตรงตัวผู้รักษาประตู แต่ในจังหวะโต้กลับ สเปอร์สเกือบได้โอกาสในเขตโทษเช่นกัน แต่เทรนต์มาบล็อกลูกเปิดของซงไว้ได้ก่อน

เคนพลาดโอกาสซ้ำบอลในนาที 24 หลังมีโอกาสเข้าชาร์จจ่อๆ หน้าประตู จากบอลของอิริคเซ่น แต่เข้าไม่ถึง

ลิเวอร์พูลยังพยายามหาโอกาสเพื่อทำประตูตีเสมอ และบุกเป็นระลอก ในนาที 27 ผู้รักษาประตูของสปอร์สบินปัดเซฟถึงสองจังหวะ จากลูกยิงของซาลาห์ และเฟอร์มิโน่ และในนาที 29 ฟาน ไดจ์ค ทะยานเข้ามาโหม่งบอลจากจังหวะฟรีคิกของเทรนต์ แต่กาซซานิก้ายังปัดไว้ได้อีกครั้ง รวมทั้งในนาที 30 ที่เทรนต์ยิงเต็มข้อแต่ยังตรงตัว

จากนั้นมาเน่ได้โอกาสโหม่งจากจังหวะโยนของเทรนต์ แต่บอลไม่เข้ากรอบ

ในช่วงท้ายครึ่งแรก โรสได้ใบเหลืองจากการเข้าสกัดเฮนเดอร์สัน ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกในนาที 38 แต่ชานเชซสกัดบอลคืนหลังให้กาซซานิก้ารับเข้าซอง จากนั้นมาเน่ถูกแซะในนาที 41 ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกอีกครั้ง แต่เทรนต์ปั่นไม่ข้ามกำแพง

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 3 นาที

เกมในครึ่งหลัง

กาซซานิก้ายังเซฟถึงสองจังหวะตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง จากจังหวะโหม่งของเฟอร์มิโน่ และลอฟเรน และในขณะเดียวกันกาซซานิก้าก็รีบขว้างงบอลมาให้ซงพาขึ้นไปยิงในนาที 48 แต่บอลชนคานออกไป

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอในนาที 52 หลังเฮนเดอร์สันวอลเลย์ลอดขากองหลังเข้าไปอย่างสวยงาม ตีเสมอ 1-1

เมื่อได้ประตูขึ้นนำ ทีมเจ้าบ้านยังเดินหน้าต่อเพื่อทำประตูขึ้นนำ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่ผ่านกาซซานิก้า และในนาที 64 เทรนต์ได้รับใบเหลืองจากการเข้าสกัดเคน แต่จากจังหวะฟรีคิก อัลเดอร์ไวรัลด์ล้ำหน้าไปก่อน

ในช่วงนาที 69 ลิเวอร์พูลได้เตะมุมติดต่อกัน ก่อนที่ซาลาห์จะได้ยิงในจังหวะสุดท้ายนาที 70

กรรมการเป่าให้ลิเวอร์พูลได้จุดโทษในนาที 74 หลังจากอุลลิเยร์เข้าไปเกี่ยวขามาเน่ ก่อนที่ซาลาห์จะยิงเข้าไปไม่พลาด 2-1

คล็อปป์ส่งมิลเนอร์มาแทนไวจ์นัลดุมในนาที 76 ทันที และจากนั้นโรเบิร์ตสันต้องเคลียร์บอลออกหลัง และในนาที 79 ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าให้ทางสเปอร์สก่อนในจังหวะที่เคนยิงบอลเข้าไปตุงตาข่าย

สเปอร์สบุกหนักหลังเป็นฝ่ายตาม และได้ฟรีคิกในนาที 82 แต่ซงโหม่งไม่เข้ากรอบ

คล็อปป์ส่งโกเมซมาแทนซาลาห์ ในนาที 85

ในช่วงนาที 89 โรสได้ลากเลื้อยเข้าไปยิง แต่บอลไม่เข้ากรอบ

มาเน่ได้บอลก่อนเบียดล้ม กรรมการให้เล่นต่อ ก่อนเกมจะหยุด กรรมการให้ใบเหลืองมิลเนอร์จากในจังหวะก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก้ตาม ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิก ลิเวอร์พูลเล่นสั้น พยายามใช้เวลาให้หมดไป หลังกรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 4 นาที

ซงได้ยิงในนาที 90+2 แต่อลิสสันล้มตัวตะครุบบอลไว้ได้ จากนั้นคล็อปป์ส่งโอริกีมาแทนเฟอร์มิโน่ในนาที 90+3

สเปอร์สได้บุกเป็นระลอกสุดท้ายในนาที 90+4 และได้ลูกเตะมุมในวินาทีสุดท้ายของเกม แต่อลิสสันก็ตะครุบบอลไว้ได้ ทำให้ลิเวอร์พูลคว้า 3 แต้มได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-1 และมี 28 แต้ม จาก 10 นัด เป็นจ่าฝูงต่อไป