Match Report: ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบ 8 ทีมคาราบาว คัพ หลังดวลจุดโทษชนะอาร์เซนอล
ลิเวอร์พูลเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายรายการคาราบาว คัพ ได้สำเร็จ หลังดวลจุดโทษเอาชนะอาร์เซนอล ในเกมที่ยิงกันถึง 10 ประตู
รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง: เคลเลเฮอร์, วิลเลียมส์, โกเมซ, ฟาน เดน เบิร์ก, มิลเนอร์, ลัลลานา, เกอิต้า, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, เอลเลียต, โอริกี และบริวสเตอร์
สำรอง: อาเดรียน, โจนส์, เคน, ลารูซี, ชิริเบย่า, คลาร์กสัน และคูเมติโอ
อัพเดตทีม: เนโก้ วิลเลียมส์ ได้โอกาสประเดิมทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับฟาน เดน เบิร์ก ที่มีชื่อในแผลงหลังเกมนี้ ในขณะที่บริวสเตอร์ และเอลเลียตต์ มีชื่อในแนวรุก โดยเอลเลียตต์ทำสถิติเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้ลิเวอร์พูลที่แอนฟิลด์ ในคืนนี้ ที่ 16 ปี 209 วัน
จังหวะสำคัญในเกม
- นาที 5 มุสตาฟีของอาร์เซนอลทำเข้าประตูตัวเอง ลิเวอร์พูลนำ 1-0
- นาที 19 ตอร์ไรร่า ตีเสมอให้อาร์เซนอล 1-1
- นาที 26 มาร์ตินเนลลี ยิงให้อาร์เซนอลนำ 1-2
- นาที 36 มาร์ตินเนลลี ยิงให้อาร์เซนอลนำ 1-3
- นาที 42 มิลเนอร์ยิงให้ลิเวอร์พูล 2-3
- นาที 54 เมทแลนด์-ไนล์ส ยิงให้อาร์เซนอลนำ 2-4
- นาที 57 อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยิงให้ลิเวอร์พูล 3-4
- นาที 62 โอริกี ยิงตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 4-4
- นาที 69 วิล็อค ยิงให้อาร์เซนอลนำ 4-5
- นาที 90+4 โอริกี ยิงตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 5-5
เกมในครึ่งแรก
เกมคาราบาว คัพ รอบที่ 4 เป็นการรับการมาเยือนของอาร์เซนอล ที่แอนฟิลด์ และเพียง 5 นาที ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็วจากการทำเข้าประตูตัวเองของอาร์เซนอล ในจังหวะอ็อกซ์ขึ้นบอลทางกราบขวาก่อนตวัดเข้ากลางหมายให้บริวสเตอร์ แต่ถูกสกัดแฃะบอลเปลี่ยนทางเข้าไป
แต่นาที 19 ตอร์ไรร่า ตีเสมอให้อาร์เซนอล 1-1 ได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน หลังเคลเลเฮอร์พยายามเซฟลูกยิงของชาก้า แต่บอลไปเข้าทางตอร์ไรร่าที่เข้ามาซ้ำไม่เหลือ
และไม่นานหลังจากบริวสเตอร์ได้ใบเหลืองจากการเข้าไปเล่นจังหวะเปิดบอลของอาร์เซนอลในนาที 24 อาร์เซนอลทำประตูเพิ่มนำเป็น 1-2 จากประตูของมาร์ตินเนลลี หลังเคลเลเฮอร์สามารถเซฟได้ในจังหวะแรก แต่มาร์ตินเนลลีเข้ามาซ้ำเข้าไป ในนาที 26
มาร์เตลลินียังคงร้อนแรง และทำประตูให้อาร์เซนอลนำ 1-3 ในนาที 36
ก่อนหมดครึ่งแรก ลิเวอร์พูลมาได้จุดโทษในนาที 42 และมิลเนอร์ยิงเข้าไปไม่พลาด ก่อนที่เพียงไม่กี่วินาทีก่อนจบครึ่งแรก โอริกีได้โหม่งในกรอบ แต่ข้ามคานไปนิดเดียว ทำให้ลิเวอร์พูลยังตาม 2-3 หลังจบ 45 นาทีแรก
เกมในครึ่งหลัง
อาร์เซนอลทำประตูนำหนีลิเวอร์พูลไปอีกครั้งในนาที 54 จากจังหวะคืนหลังของมิลเนอร์ที่สั้นเกินไป ก่อนเมทแลนด์-ไนล์ส จะฉกไปยิงผ่านมือเคลเลเฮอร์ ให้ทีมเยือนนำ 2-4
คล็อป์ส่งโจนส์มาแทนเกอิต้าในนาที 55 ขณะที่ลิเวอร์พูลเองพยายามทวงประตูคืน และได้จากประตูสุดสวยของอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ในนาที 57 ให้ทีมตามมา 3-4
ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอ 4-4 ในที่สุด ในนาที 62 จากจังหวะที่ได้บอลจากโจนส์ ที่เพิ่งลงมาจากม้านั่งสำรอง ก่อนพลิกบอลและยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้น เกมกลับมาเท่ากันอีกครั้ง
อาร์เซนอลหนีเป็น 4-5 อีกครั้ง จากลูกยิงไกลของวิลล็อค ในนาที 69 บอลพุ่งผ่านหนีมือเคลเลเฮอร์ก่อนโค้งมุดเข้าประตูไป
คล็อปป์ส่งชิริเบย่าลงมาแทนอ็อกซ์ในนาที 80
ก่อนสิ้นเสียงหมดเวลา โอริกียิงให้ลิเวอร์พูลตีเสมอ 5-5 อย่างน่าเหลือเชื่อ ในนาที 90+4 ทั้งสองทีมต้องดวลจุดโทษตัดสิน
ดวลจุดโทษ
- บเยรีนยิงเข้า อาร์เซนอล 1-0
- มิลเนอร์ไม่พลาด ลิเวอร์พูล 1-1
- เกนดูซี่ยิงเข้า อาร์เซนอล 2-1
- ลัลลานาตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 2-2
- มาร์ติเนลลียิงให้อาร์เซนอล 3-2
- บริวสเตอร์ยิงให้ลิเวอร์พูล 3-3
- เซบายอสยิงไม่เข้า สกอร์ยัง 3-3
- โอริกีทำให้ลิเวอร์พูลนำเป็นครั้งแรก 4-3
- เมทแลนด์-ไนล์สยิงเข้าไป ไล่มา 4-4
- โจนส์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 5-4
ลิเวอร์พูลผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย คาราบาว คัพ ได้สำเร็จ!!!!!!