ดิว็อค โอริกี โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี ที่ลิเวอร์พูลเอาชนะเอฟเวอร์ตันไปถึง 5-2 ที่แอนฟิลด์

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อาเดรียน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ลอฟเรน, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ไวจ์นัลดุม, มิลเนอร์ ©, ลัลลานา, ชากิรี, มาเน่, และโอริกี

สำรอง: เคลเลเฮอร์, เกอิต้า, เฟอร์มิโน่, ซาลาห์, โกเมซ, เฮนเดอร์สัน และอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน



อัพเดตทีม:  คล็อปป์เปลี่ยนแปลงทีม 5  ตำแหน่ง จากเกมกับไบรท์ตัน  โดยส่งมิลเนอร์, ลัลลานา, ชากิรี และโอริกี เป็นตัวจริง เพราะต้องการเติมความสดในเกมนี้

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที  6  โอริกียิงให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0
  • นาที 17 ชากิรียิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-0
  • นาที 21 คีนยิงให้เอฟเวอร์ตันตามมา 2-1
  • นาที 31 โอริกียิงให้ลิเวอร์พูลนำ 3-1
  • นาที 45 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 4-1
  • นาที 45+3 ริชาร์ลิสันยิงให้เอฟเวอร์ตันตามมา 4-2
  • นาที 90 ไวจ์นัลดุมยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 5-2

เกมในครึ่งแรก

เกมที่ 15 ของลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก เป็นการรับการมาเยือนของเอฟเวอร์ตันตัน โดยลิเวอร์พูลต้องการยืดสถิติไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ต่อไป

เพียงหนึ่งนาที ลิเวอร์พูลได้ขึ้นเกมทางกราบซ้าย และโยนเข้ากลางให้มาเน่เข้าโหม่ง แต่บอลไม่เข้ากรอบ และใน 5 นาทีต่อมา ลิเวอร์พูลโต้กลับอย่างสวยงาม จากลัลลานา ที่ผ่านมาให้มาเน่ ก่อนที่จะจ่ายบอลด้วยน้ำหนักที่พอดีไปที่โอริกีล็อกหลบพิกฟอร์ดหนึ่งจังหวะ ก่อนจะยิงเข้าไปโล่งๆ

เอฟเวอร์ตันโหมเกมบุกในนาที 13 และได้โอกาสยิง แต่บอลออกหลังไป แต่ในนาที 17 ลิเวอร์พูลได้ประตูที่ 2 ของเกม เมื่อเทรนต์วางบอลยาวมาให้มาเน่ก่อนที่จะแทงบอลยาวไปที่ว่างให้ชากิรีสอดเข้ามายิง อย่างสวยงาม

เอฟเวอร์ตันได้ฟรีคิก และลูกเตะมุมติดต่อกันในนาที 20 ก่อนที่คีนจะยิงในนาที 21

จากนั้นเอฟเวอร์ตันโหมเข้าบุกอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ฟาน ไดจ์ค จะเข้าสกัดบอลในนาที 26 ไว้ได้ ทำให้ลิเวอร์พูลรอดการเสียประตู

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ 3-1 ในนาที 31 เมื่อลอฟเรนวางบอลยาวจากหลังให้โอริกีวิ่งทะลุไปรับ ก่อนที่จะแปยิงเข้าไปอย่างสวยงามมากๆ

ก่อนหมดครึ่งแรก 5 นาที เอฟเวอร์ตัน ได้ฟรีคิกที่เส้นหลัง ก่อนที่ลุกเปิดจะเลยออกไป และลูกโยนที่วางย้อนมาใหม่ก็ออกหลัง

ในนาที 44 ลอฟเรนสกัดด้วยปลายสตั๊ด ก่อนที่เอฟเวอร์ตันจะเข้ามาชาร์จ

ก่อนจบครึ่งแรก ลิเวอร์พูลมาได้ประตูนำ 4-1 ในนาที 45 เมื่อมาเน่ประสานงานกับเทรนต์ ก่อนจะได้บอลจากเทรนต์อีกครั้งและยิงเข้าไปตุงตาข่าย

ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 3 นาที

แต่เอฟเวอร์ตันมาได้ประตูจากริชาร์ลิสันให้ตามมา 4-2 ก่อนหมดครึ่งแรกเพียงไม่กี่วินาที

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในครึ่งหลัง และเป็นเอฟเวอร์ตันที่ได้ยิงฟรีคิกในนาที 52 แต่ฟรีคิกของดิญไม่เข้ากรอบ

จังหวะเปิดของเทรนต์ขึ้นหน้าให้โอริกีจับบอลก่อนถูกสกัดออกหลังในนาที 55 แต่จังหวะเตะมุมยังไม่คมพอ แต่จากนั้นลัลลานาได้บอลจากมิลเนอร์ ก่อนม้วนตัวแล้วยิง แต่บอลโด่งออกไป และกรรมการให้เป็นจังหวะล้ำหน้าในนาที 60

ในช่วงนาที 70 ลิเวอร์พูลทำเกมบุกอย่างใจเย็น ด้วยการต่อบอลไปมาจนสุดท้ายบอลไปตกที่มาเน่ที่พยายามพาขึ้นหน้าแต่ถูกสกัดออกข้าง และในนาที 72 เฮนเดอร์สัน และเฟอร์มิโน่ ลงมาแทนลัลลานา และโอริกี ที่ทำไปสองประตูคนเดียวในค่ำคืนนี้

ก่อนหมดเวลา 10 นาที เทรนต์ถูกแย่งบอลไปก่อนที่เอฟเวอ์ตันจะโยนเข้ากลาง และถูกสกัดออกไปได้ เอฟเวอร์ตันได้เตะมุม แต่ไม่ได้เปรียบ

ลิเวอร์พูลเล่นเกมโต้กลับได้อย่างสวยงามในนาที 81 ก่อนที่มาเน่จะจับบอลในเขตโทษ และยิงเฉี่ยวเสาไปอย่างน่าเสียดาย

โกเมซลงมาแทนเทรนต์ในนาที 83 และในนาที 85 มาเน่ได้หลุดเดี่ยวก่อนที่จะล็อกหลบพิกฟอร์ด แต่กลับไม่มีจังหวะยิง

ในขณะเดียวกันคีนได้หลุดขึ้นมาเช่นกัน แต่ยิงเฉี่ยวเสาออกไปในนาที 86

หลังจากทำได้ใกล้เคียงหลายจังหวะก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูลมาได้ประตูนำ 5-2 จากจังหวะที่เฟอร์มิโน่ผ่านบอลมาให้ไวจ์นัลดุมยิงเข้าไป

กรรมการทำเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 3 นาที ทำให้จบเกมลิเวอร์พูลเก็บแต้มไปรวม 43 แต้ม และนำ 8 แต้มเป็นจ่าฝูงต่อไป