ลิเวอร์พูลยังคงรักษาฟอร์มอย่างต่อเนื่อง เมื่อบุกไปชนะบอร์นมัธด้วยสกอร์ 3-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, โกเมซ, ลอฟเรน, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, เฮนเดอร์สัน ©, มิลเนอร์, เกอิต้า, และอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: อาเดรียน, มาเน่, ชากิรี, โอริกี, โจนส์, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และเอลเลียต

อัพเดตทีม:  คล็อปป์เปลี่ยนแปลงทีม 7 ตำแหน่งจากเกมเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี โดยอลิสสันพ้นโทษแบนลับมา ขณะที่โกเมซกลับมาประจำการในแนวรับ ส่วนในแดนกลาง เฮนเดอร์สัน และเกอิต้า มีชื่อในเกมนี้ โดยมีอ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่ ในแนวรุก

แต่ในรายของไวจ์นัลดุม และลัลลานา ไม่มีชื่อในทีมชุดนี้เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที   35 อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0
  • นาที 44 เกอิต้า ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-0

เกมในครึ่งแรก

เกมที่ 16 ของลิเวอร์พูลในพรีเมียร์ลีก เป็นการไปเยือนบอร์นมัธ

เพียง 7 นาที โกเมซได้โอกาสสร้างสรรค์จังหวะที่ใกล้เคียงให้ลิเวอร์พูลก่อนเป็นครั้งแรกในเกม โดยผ่านบอลให้ซาลาห์ในกรอบเขตโทษ จากนั้นซาลาห์เข้าซ้ายก่อนยิงไปถูกเซฟ

ลิเวอร์พูลเพรสซิ่งบอร์นมัธอยู่นาน แต่การเข้าทำในจังหวะสุดท้ายยังทำได้ยาก เพราะบอร์ทมัธตั้งรับกันหนาแน่นในพื้นที่ แต่บอร์นมัธเองก็ได้โอกาสใกล้เคียงจากโซลันกี แต่ถูกลอฟเรนสกัดออกหลัง ได้เตะมุมในนาที 20

บอลโด่งของโรเบิร์ตสันในนาที 24 ที่ให้ซาลาห์ น่าเสียดายที่ซาลาห์ตอกส้นให้อ็อกซ์แต่ถูอาร์เก้สกัด ก่อนที่มิลเนอร์จะยิง และไม่เข้ากรอบ

บอร์นมัธเล่นบอลยาวก่อนวางไปที่หน้าประตู แต่ล้นออกหลังไปในนาที 26

ลิเวอร์พูลเข้ากดดันอย่างหนักในนาที 28 แต่กองหลังบอร์นมัธยังป้องกันได้ในทุกจังหวะ แต่บอร์นมัธก็อาศัยจังหวะโต้กลับที่น่ากลัว และฟาน ไดจ์ค ต้องเข้าดักโซลันกีที่ได้บอลแทงมา ในนาที 29 หลังเกอิต้าเสียบอลในแดนกลาง

และในนาที 35 อ็อกซ์มีชื่อเป็นผู้ทำประตูขึ้นนำ 1-0 ให้ลิเวอร์พูล เมื่อรับบอลวางยาวมาจากเฮรเดอร์สันก่อนยิงผ่านผู้รักษาประตูไปอย่างสวยงาม

แต่ไม่ถึง 5 นาที หลังจากนั้น คล็อปป์ต้องส่งเทรนต์ลงมาแทนลอฟเรน

ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 2-0 ก่อนหมดครึ่งแรก จากการประสานงานของซาลาห์ และเกอิต้า ก่อนที่เกอิต้าจะจิ้มเข้าไปไม่พลาด กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 3 นาที 

ในช่วงก่อนหมดครึ่งแรก ลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูที่ 3 หลังเฟอร์มิโน่โขกเช็ดมาที่เสาสอง แต่ซาลาห์เข้าชาร์จไม่ถนัด บอลจึงโด่งออกหลังไป

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลยังคงใช้นักเตะชุดเดิมจากครึ่งแรก

นาที 54 ลิเวอร์พูลออกนำ 3-0 จากแอสซิสต์ของเกอิต้า

นาที 67 บอร์นมัธนส่งบอลไปกองก้นตาข่ายได้แล้ว แต่เป็นการล้ำหน้าชัดเจน

นาที 75 โจนส์ได้ประเดิมพรีเมียร์ลีกเมื่อลงมาแทนโรเบิร์ตสัน ตอนนี้มิลเนอร์ขยับไปเล่นแบ็กซ้าย ก่อนทีโจนส์มาอยู่แผงมิดฟิลด์

ลิเวอร์พูลทำได้ใกล้เคียงในนาที 79 จากจังหวะที่มิลเนอร์หยอดไปเสาไกลให้เทรนต์เข้ามาแป แต่บอลไม่เข้าประตูและกรรมการเป่าล้ำหน้า

ชากิรีลงมาแทนอ็อกซ์ ในนาที 87 และได้วางบอลให้โจนส์ยิง แต่บอลโด่งออกไป

ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มสำเร็จ