ลิเวอร์พูลคว้าสามแต้มได้สำเร็จหลังเอาชนะวัตฟอร์ดได้ 2-0 ที่แอนฟิลด์

รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดจ์ค, มิลเนอร์, เฮนเดอร์สัน ©, ไวจ์นัลดุม, ชากิรี, มาเน่ , ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: อาเดรียน, เกอิตา, โกเมซ, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ลัลลานา, โรเบิร์ตสัน และวิลเลียมส์
 

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที 38 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0
  • นาที 90 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-0

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 17 ของฤดูกาล โดยรับการมาเยือนของวัตฟอร์ด ที่แอนฟิลด์  และต้องการยืดสถิติไร้พ่ายต่อไป

ผ่านไป 15 นาที ของเกม ลิเวอร์พูลยังไม่สามารถสร้างจังหวะที่จะแจ้งในเกมเพื่อทำประตู จนถึงนาที 22 ที่เฮนเดอร์สันได้เก็บตกจังหวะสอง และนาที 25 ที่ซาลาห์ได้บอลจากเฟอร์มิโน่ก่อนยิง แต่ไม่เข้ากรอบ

นาที 35 เฟอร์มิโน่ได้บอลในกรอบก่อนโยกหลอกและเปิดเข้ากลาง แต่ถูกสกัดออกหลัง ก่อนจะได้เตะมุมสองครั้งแต่ก็ยังไม่มีจังหวะยิง

แต่ในนาที 36 เดมเบเล่ได้ยิงแต่ก็ถูกสกัดไว้ได้อย่างหวุดหวิด

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากซาลาห์ หลังได้บอลแล้วล็อกหลบและยิงโค้งด้วยเท้าขวาเข้าไปอย่างสวยงาม ในนาที 38

ก่อนจบ 45 นาที ลิเวอร์พูลเกือบถูกตีเสมอแต่ซาร์ยิงไม่โดน ทำให้จบครึ่งแรกโดยลิเวอร์พูลนำอยู่หนึ่งลูก

เกมในครึ่งหลัง

เมื่อเริ่มครึ่งหลัง วัตฟอร์ดทำเกมโหมบุก และซาร์พยายามยิงแต่ยังไม่ผ่าน แต่ในนาที 50 มาเน่โหม่งเข้าไปแต่ VAR ไม่ให้เป็นประตู

อลิสสันต้องออกมาสกัดในนาที 54 หลังเดโลเฟวหลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมา ก่อนที่นาที 56 วัตฟอร์ดจะได้ฟรีคิก แล้วหยอดมาหน้าประตู แต่อลิสสันก็ยังออกมารับไว้ได้

มิลเนอร์ได้รับใบเหลืองในนาที 57 หลังเข้าไปตัดเกมกลางสนาม แต่จินีล้มลงไปเจ็บ ก่อนที่จะส่งโรเบิร์ตสันลงมาแทนในนาที 59

เกมดำเนินมาถึงหนึ่งชั่วโมง เฮนเดอร์สันพยายามเล่นชิ่งกับมาเน่ แต่บอลสั้นเกินไปถึงไม่มีจังหวะยิง ส่วนนาที 63 เฟอร์มิโน่ได้ยิง แต่ถูกตะตุบไว้ไก่อน และในนาทีต่อมาซาลาห์เกือบได้หลุดเดี่ยวจากลูกแทงของมิลเนอร์ แต่ยังจบไม่ได้ รวมทั้งในนาที 64 ที่เฟอร์มิโน่เกือบได้หลุดเดี่ยว

คล็อปป์ส่งอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มาแทนชากิรี ในนาที 70 และในนาที 74 เฟอร์มิโน่ยิงยัดเข้าไป แต่ถูกสกัดไว้ลูกยิงจึงไม่แรงพอ และเข้าซองผู้รักษาประตู

ในนาที 76 อ็อกซ์ได้ยิง แต่แฉลบออกหลัง ก่อนที่ในนาที 77 โกเมซจะวิ่งลงมาสกัดจังหวะที่เกือบหลุดเดี่ยวของซาร์ได้อย่างหวุดหวิด

จังหวะคืนหลังในนาที 80 ของฟาน ไดจ์ค ให้อลิสสันไม่รู้กัน ทำให้สัยเตะมุม ก่อนที่ลูกเตะมุมจะโค้งชนเสา และในนาที 83 วัตฟอร์ดได้ฟรีคิกก่อนที่บอลมาตกที่ซาร์และได้ซัด แต่ไม่เข้ากรอบ

ลิเวอร์พูลได้โต้บ้างในนาที 84 แต่ยังไม่มีโอกาสจบสกอร์ ก่อนที่ลิเวอร์พูลจะได้เตะมุมในนาที 86 และในนาที 88 โอริกีลงมาแทนเฟอร์มิโน่

และเพียง 2 นาที โอริกีผ่านให้ซาลาห์แตะลอดขาเข้าไปเป็นประตูนำ 2-0 แม้กรรมการจะเช็ค VAR ว่าเป็นลูกล้ำหน้าหรือไม่

ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 4 นาที และไม่มีการทำประตูเพิ่ม ลิเวอร์พูลชนะสำเร็จ