ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์รายการฟีฟา คลับ เวิร์ล คัพ ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก เมื่อเฉือนฟลาแมนโก้ ไปด้วยสกอร์ 1-0 หลังต้องเล่นกันจนถึงช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง:   อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, เฮนเดอร์สัน, เกอิต้า,  อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง:  อาเดรียน, โลเนอร์แกน, ไวจ์นัลดุม, มิลเนอร์, ลัลลานา, ชากิรี, โอริกี, โจนส์, ฮูเฟอร์, เอลเลียตต์, ฟาน เดน เบิร์ก และวิลเลียมส์

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที   99 เฟอร์มิโน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมรอบชิงชนะเลิศ ฟีฟา คลับ เวิลด์ คัพ ที่กาตาร์ โดยพบกับทีมฟลาเมงโก้

ลิเวอร์พูลที่อยู่ในชุดเหย้า ทำเกมบุกได้ตั้งแต่นาทีแรก ลิเวอร์พูลได้โอกาสจากเฟอร์มิโน่ แต่ยิงข้ามคาน  จากนั้นในนาที 5 ซาลาห์จ่ายให้เกอิต้าเข้ามาสับ แต่ยังไม่เข้ากรอบ

แต่หลังจากนั้นเมื่อผ่านช่วง 15 นาทีของเกม กลับเป็นฟลาเมงโกที่เริ่มครองเกม และได้บุกเป็นระยะ แต่ก็ยังไม่มีจังหวะจะแจ้งในการทำประตู 

ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 1 นาที และมาเน่ได้ใบเหลืองในนาที 45 หลังมีการปะทะกับนักเตะฝ่ายตรงข้าม

เกมในครึ่งหลัง

เมื่อเริ่มครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลทำได้ใกล้เคียงที่สุดในนาที 47 เมื่อลูกยิงของเฟอร์มิโน่ไปชนเสา รวมทั้งในนาที 49 เมื่อเทรนต์ตวัดเข้ากลาง แต่ซาลาห์เข้ามาวอลเลย์แต่ไม่เข้ากรอบ

อลิสสันต้องพุ่งเซฟในนาที 53 หลังบาร์โบซาได้ยิงในกรอบ

ในขณะที่เหลือ 20 นาทีก่อนหมดเวลา บาร์โบซ่าได้จักรยานอากาศ แต่อลิสสันพุ่งตะครุบไว้ได้

เกมต้องหยุดชั่วคราวเมื่ออ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ล้มลงไปบาดเจ็บจากการปะทะในนาที 73 ก่อนที่คล็อปป์เตรียมส่งลัลลานาลงมาแทนในนาที 75

หลังจากซาลาห์ได้ยิง บอลล้นมาที่เทรนต์ก่อนได้ยิง แต่บอลเข้าหน้าต่างในนาที 79 จากนั้นในนาที 82 ซาลาห์ได้ใบเหลือง

เฮนเดอร์สันได้ยิงในนาที 86 แต่ผู้รักษาประตูบินปัดไว้ได้ ทำให้ยังเสมอกันจนถึงหมด 90 นาทีที่กรรมการทดเวลาบาดเจ็บ 5 นาที

และในนาที 90 กรรมการเป่าให้ลิเวอร์พูลได้จุดโทษ ก่อนที่จะเช็ควีเออาร์ และไม่ให้เป็นลูกจุดโทษ

ทั้งสองทีมเสมอใน 90 นาที จำเป็นต้องต่อเวลาพิเศษ

ลิเวอร์พูลมาขึ้นนำในนาที 99 เมื่อลิเวอร์พูลทำเกมโต้กลับ เฮนเดอร์สันวางบอลยาวให้มาเน่ ก่อนจะไหลให้เฟอร์มิโน่ล็อคหลบก่อนยิงอย่างใจเย็นเข้าไป

จากนั้นลิเวอร์พูลได้บุกเป็นระลอกและเกือบได้จากซาลาห์ แต่บอลที่ถูกป้องกันไว้ และในนาที 102 ฟลาเมงโกได้ฟรีคิกแต่บอลข้ามคาน

มิลเนอร์ได้ใบเหลืองจากการเข้าสกัดในนาที 105 และคล็อปป์ส่งโอริกีมาแทนเฟอร์มิโน่ ก่อนจบครึ่งแรกของการต่อเวลาพิเศษ

ในช่วงนาที 107 ของการต่อเวลาพิเศษครึ่งหลัง อลิสสันต้องพุ่งไปเซฟ แต่ดีที่บอลเฉี่ยวเสาออกไป

ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกในนาที 114 หลังลัลลานาโดนทำฟาวล์ ก่อนเทรนต์จะซัดฟรีคิกและถูกปัดออกมาได้ และในนาที 119 ลูกยิงของฟลาเมงโกมาเข้ากรอบ 

จากนั้นในนาที 120 คล็อปป์ส่งซาลาห์มาแทนชากิรี ก่อนทดเวลาบาดเจ็บ 2 นาที และลิเวอร์พูลสามารถคว้าแชมป์ได้ในที่สุด