ทีมลิเวอร์พูล ชุดยู-23 ทำผลงานที่ยอดเยี่ยม เมื่อสามารถเอาชนะชรูว์บิวรี ไปด้วยสกอร์ 1-0 ในเกมรีเพลย์ ที่แอนฟิลด์ ก่อนผ่านเข้ารอบ 5 เอฟ เอ คัพ ได้สำเร็จ

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง:  เคลเลเฮอร์, วิลเลียมส์, ฮูเฟอร์, ฟาน เดน เบิร์ก, เลวิส, ชิริเบย่า, คลาร์กสัน, เคน, เอลเลียตต์, โจนส์ และมิลลาร์

สำรอง: จารอส, ฮาร์ดี, กัลลาเชอร์, ดิกสัน-บอนเนอร์, บอยส์, แบร์น, นอร์ริส

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที 75 วิลเลียมส์ ทำเข้าประตูตัวเองให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมนัดรีเพลย์ เอฟเอ คัพ กับชรูว์สบิวรี ที่แอนฟิลด์

ในช่วง 10 นาทีแรกของเกม ทั้งอยู่ยังไม่มีจังหวะเข้าทำอย่างชัดเจน จนในนาที 25 ชรูว์สบิวรีได้เตะมุม แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างจังหวะอันตรายได้พอ

และต่อจากนั้นเพียง 3 นาที โจนส์ถูกสกัด ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกนอกกรอบ ก่อนที่โจนส์จะยิงไปตรงตัวโอ’ เรียลี ผู้รักษาประตู

จากนั้นเกมหยุดชั่วคราวในนาที 29 หลังจากโจนส์ปะทะกับนักเตะชรูวส์บิวรีตรงเส้นหลัง แพทย์ต้องเข้าไปปฐมพยาบาล ห้ามเลือดที่จมูก ลิเวอร์พูลต้องเล่น 10 คน ในจังหวะเตะมุม แต่ลูกโยนของคลาร์กสันถูกสกัดออกมา

วิลเลียมส์ล้มลงไปหลังถูกสกัดในนาที 33 กรรมการเป่าหยุดเกมชั่วคราวเพื่อปฐมพยาบาลอีกครั้ง ก่อนที่ลูกฟรีคิกของเอลเลียตต์จะถูกบล็อกออกมา ก่อนที่วิลเลียมส์จะได้ลากเข้ากรอบ และยิง แต่บอลเฉี่ยวเสาออกไปในนาที 35

วิลเลียมส์ได้โอกาสอีกครั้งในนาที 40 หลังสอดขึ้นมายิงในกรอบ แต่ถูกสกัด และได้ใบเหลืองจากจังหวะเข้าปะทะหลังจากนั้น

ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 3 นาที

เกมในครึ่งหลัง

เริ่มครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลได้เตะมุมในนาที 46 ก่อนที่วิลเลียมส์จะได้โอกาสหวดบอลในกรอบ แต่น่าเสียดายที่บอลเด่งข้ามคานออกไปในนาที 47

วิลเลียมส์ยังได้โอกาสอีกครั้ง หลังลิเวอร์พูลต่อบอลกันได้อย่างสวยงามในแดนหน้า แต่โอ’เลียรี เซฟได้ด้วยปลายเท้า ในนาที 53

ลิเวอร์พูลเริ่มครองเกมได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดในช่วงนี้ และวิลเลียมส์ได้ยิงอีกครั้งในนาที 56 แต่บอลไม่เข้ากรอบ

แต่ชรูวส์บิวรีกลับเป็นฝ่ายนำ 0-1 จากจังหวะที่ครอสบอลเข้ามาในกรอบ ก่อนที่เคลเลเฮอร์จะปัด และบอลมาเข้าทางวัลลีย์โหม่งเข้าไปในนาที 58 แต่หลังจากเช็ค VAR กรรมการไม่ให้เป็นประตู เพราะล้ำหน้าไปก่อน

เอลเลียตต์ได้โอกาสทำประตู แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถเปลี่ยนลูกครอสของเลวิสในนาที 68 ให้เป็นประตูได้ และในนาทีต่อมา โจนส์พลาดโอกาสทองในเกม หลังสอดขึ้นไปรับบอลที่ชิริเบย่าวางยาวมาให้ แต่เตะไม่เต็ม ก่อนที่จะพยายามยิงอีกครั้ง แต่ไม่เข้ากรอบ

ลิเวอร์พูลมาได้ประตู จากการทำเข้าประตูตัวเอง หลังวิลเลียมส์ได้บอล และหมายโยนยาวให้เอลเลียตต์ที่วิ่งตีคู่มา ก่อนที่วิลเลียมส์ กองหลังชรูวส์บิวรี จะโหม่งผิดเหลี่ยมเข้าประตูไป ลิเวอร์พูลนำ 1-0 ในนาที 75

คริตชลีย์ส่งฮาร์ดีมาแทนมิลลาร์ ในนาที 82

ในจังหวะโต้กลับของลิเวอร์พูลในช่วงท้ายเกม เอลเลียตต์เกือบจ่ายให้เพื่อนหลุดเดี่ยว แต่น้ำหนักแรงเกินไป ก่อนกรรมการทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที

จากนั้นไม่มีการทำประตูเพิ่ม ลิเวอร์พูลเอาชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 และผ่านเข้ารอบต่อไปโดยจะพบกับเชลซี ในรอบที่ 5