เจอร์เก้น คล็อปป์ ยินดีกับข่าวที่ลิเวอร์พูลจะกลับมาทำงานที่เมลวู้ดได้อีกครั้งในสัปดาห์นี้ ตามข้อกำหนดการฝึกซ้อมของพรีเมียร์ลีกที่ประกาศเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

นักเตะหงส์แดงจะกลับมาฝึกซ้อมกลุ่มย่อยเป็นครั้งแรกในวันพุธนี้ หลังกิจกรรมทั้งหมดที่เมลวู้ดถูกระงับไปตั้งแต่ 13 มีนาคม เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 และนี่คือสิ่งที่ผู้จัดการทีมสัมภาษณ์พิเศษกับ Liverpoolfc.com กับสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาเตรียมตัวจะทำอย่างปลอดภัยที่สุด...

เจอร์เก้น การฝึกซ้อมจะกลับมาเริ่มต้นที่เมลวู้ดอีกครั้งในสัปดาห์นี้ คุณมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไรกับข่าวนี้ และคุณสามารถบอกเราเกี่ยวกับแผนที่วางไว้ได้หรือไม่?

ผมดีใจสุดๆ ผมจะบอกอย่างนั้น ผมแทบรอไม่ไหวสักพักจนถึงตอนนี้ ซึ่งผมมีความสุขจริงๆ ที่เราสามารถทำเรื่องนี้ได้อีกครั้ง การกลับมาที่เมลวู้ด ฝึกซ้อมกลุ่มย่อย และอะไรต่างๆ เหล่านี้

มันจะเข้มข้นมาก โดยเฉพาะสำหรับโค้ช เพราะว่านักเตะหลายคนๆ ในกลุ่มย่อยๆ แปลว่าจะมีเซสซั่นเยอะมาก แต่เรามีเวลาพักพอสมควร ดังนั้นเราไม่มีปัญหา มันแทบรอไม่ไหว เราต้องทำการทดสอบในสัปดาห์นี้ การตรวจหาเชื้อโควิด และเรายังต้องรอผลตรวจ

ถ้าผลทุกคนออกมาเป็นลบ ซึ่งจะเป็นข่าวดี หลังจากนั้นเราจะเริ่มฝึกซ้อมแบบเต็มๆ เกือบจะทั้งกลุ่ม มันเป็นวันที่ดีมาก ที่สุดท้ายพวกเขาตัดสินใจจะทำอย่างนี้ ผมพูดเสมอว่าเราไม่อยากจะเร่งอะไร แต่ผมไม่คิดว่ามันจะต้องรีบ มันเป็นก้าวแรก สำหรับการฝึกซ้อมแบบรักษาระยะห่างทางสังคม และเราจัดกลุ่ม 5 คน

สำหรับทุกคนรู้ว่า สนามฟุตบอลใหญ่ขนาดไหน และจะมีนักเตะ 4 คนกับผู้รักษาประตูหนึ่งคน หรือนักเตะห้าคน และผู้รักษาประตูแยกลุ่มในอีกวัน นั่นคือเรื่องที่เป็นไปได้เช่นกัน แต่คุณต้องนึกภาพว่าพวกเขาจะใช้พื้นที่มากแค่ไหนกับสิ่งที่พวกเขาต้องทำ

สำหรับทุกเรื่องที่เราต้องทำในวงการฟุตบอลเท่าที่จำเป็น จากความเห็นด้านกายภาพ เด็กๆ อยู่ในสภาพที่ดีตามที่ผมคิด หลังจากนั้นเราจะเริ่มใช้พื้นที่ของสนาม ใส่รองเท้าสตั๊ด และลูกบอลอีกครั้ง มันคืองานของเรา นั่นคือสิ่งที่เราทำ ซึ่งเราต้องทำความคุ้นเคยกับเรื่องนี้อีกครั้ง

สำหรับร่างกายนี่คือ ความท้าทายที่ใหญ่มาก เพราะว่ามีการพลิกนิดหน่อย และอะไรแบบนี้ เรื่องเฉพาะตัวของการเล่นฟุตบอล มันสร้างความแตกต่างทุกอย่าง

มันเป็นเหมือนกับตอนที่คุณกลับมาจากการบาดเจ็บ เด็กๆ ฟิตสมบูรณ์จริงๆ ในแง่ของความอึด พวกเขาน่าจะวิ่งมาราธอนได้สบาย! แต่ในตอนที่คุณเริ่มเล่นฟุตบอลคุณจะมองเห็นว่า เป็นเรื่องที่แตกต่างออกไปแค่ไหน

นั่นคือเรื่องที่เราต้องผ่านไปให้ได้ และเราจะผ่านมันไป มันชัดเจน เราต้องทำมันทีละขั้น และผมคิดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ

ในแง่ของการกลับมาฝึกช่วงต้นๆ เซสซั่นแรกๆ จะออกมาเป็นยังไง?

การกลับไปใช้ลูกบอลในสนาม และใส่รองเท้าสตั๊ด มันเป็นอย่างนั้น และการจ่ายบอล เรามักจะต้องผสมผสานกับในส่วนของแท็กติก ซึ่งกับนักเตะสี่คนมันฟังดูเหมือนกับการเรียงแถวสี่คน ซึ่งคุณสามารถทำอะไรอย่างนี้ได้นิดหน่อย แต่เหนือสิ่งอื่นใดมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทำความคุ้นเคย

มันจะเป็นการจ่ายบอลแล้วพลิก ไม่มีการอนุญาตให้เข้าปะทะ ดังนั้นเราจะไม่ทำการเข้าปะทะ ซึ่งเป็นส่วนใหญ่ของเกมฟุตบอล แต่มันจะไม่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ เราต้องมีความคิดสร้างสรรค์ และเราจะต้องสร้างสรรค์

ผมคิดว่า น่าจะมีภาพบางส่วนออกมาทาง LFCTV ถ้าคุณอยู่ห่างจากกล้องมากพอ คุณจะบันทึกภาพได้ และผู้คนน่าจะได้เห็นมัน มันจะสนุกดีสำหรับเด็กๆ พวกเขาน่าจะรอไม่ไหวแล้วเช่นกัน ปฏิกิริยาในกลุ่ม (นักเตะ) ยอดเยี่ยมมากในตอนนี้ เมื่อทุกอย่างกระจ่างชัด

มันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนาน มันผ่านมานานมา มันยังคงดำเนินต่อ แต่การพัฒนาทุกอย่างจะเป็นไปในทิศทางที่ถูกต้อง และมันช่วยได้ ผมคิดว่าการที่ฟุตบอลกำลังจะกลับมาเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับผู้คนเช่นเดียวกัน

มีการโฟกัส และการอภิปรายเรื่องต่างๆ ในการประชุม ซึ่งคุณมีส่วนร่วม อะไรคือกระบวนการที่ทำให้มาถึงจุดนี้?

การประชุม ที่เรามีการพูดคุยกันนิดหน่อย และการได้รับข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดทางการแพทย์ ซึ่งส่วนใหญ่มันเป็นอย่างนั้น

ชัดเจนว่า มีทางเลือกอื่นๆ ที่แตกต่างออกไปอะไรแบบนั้น และอีกครั้งที่ไม่มีใครอยากจะให้ใครไปเสี่ยง แต่ผมคิดว่ากับทุกเรื่องที่เรารู้ การยึดมั่นกับกฎการรักษาระยะห่างทางสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนแรก กับการตรวจหาเชื้อที่บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ และอะไรแบบนี้ นักเตะจะปลอดภัย

เยอรมนีแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างแล้ว นักเตะสองสามคนมีผลตรวจเป็นบวกในระหว่างช่วงเวลาอันยาวนาน พวกเขาฝึกซ้อมมา 5 สัปดาห์ และตอนนี้พวกเขาเล่นไปแล้ว อะไรอย่างนั้น และพวกเขา 10-15 คนมีผลตรวจเป็นบวก นั่นแสดงว่าเราสร้างสังคมที่เหมือนกันแบบนี้ และสังคมนี้เราแค่ต้องทำให้แน่ใจว่า จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี้

มันจะเป็นยังคงเป็นช่วงเวลาที่ยากสำหรับเด็กๆ เพราะว่าเด็กๆ ยังคงต้องกักตัว มีความแตกต่างนิดหน่อยที่ตอนนี้พวกเขาจะต้องมายังสนามซ้อมโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง เราจะเปลี่ยนจากที่บ้าน มาฝึกซ้อมกันที่นี่

ถ้าฝนตก เรามีพื้นที่ขนาดใหญ่ที่พวกเขาสามารถปรับเปลี่ยนได้อีกครั้ง แต่จะไม่ได้อาบน้ำ ต้องขึ้นรถ ขับไป อาบน้ำที่บ้านของคุณเอง และอะไรทุกอย่างเหล่านี้

มันยังคงเป็นช่วงล็อกดาวน์ มันไม่ใช่ชีวิตปกติ มันเป็นเพียงเรื่องของธุรกิจ เพื่อทำงานของเรา เราได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านได้ สำหรับทุกอย่างที่เหลือ ชัดเจนว่า กฎเกณฑ์เหมือนกับคนอื่นๆ

ผมหวังว่า ตอนนี้ในอังกฤษเราจะอยู่ในส่วนที่ถูกต้อง ซึ่งแปลว่าทุกอย่างเกี่ยวกับว่าเมื่อไหร่เท่านั้น แต่คุณต้องค่อนๆ กลับมาเปิดส่วนต่างๆ ในชีวิตของคุณทีละขั้นๆ อีกครั้ง และทุกๆ คนเห็นด้วยกับเรื่องนี้ มันแค่เกี่ยวกับว่าเมื่อไหร่

ผมคิดว่า ตอนนี้วิธีที่เราทำมันในพรีเมียร์ลีก ตอนนี้มันเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะทำมันสำหรับทีมฟุตบอล แน่นอนว่าเรื่องอื่นๆ จะตามมา

อีกครั้งที่ต้องบอกว่า มันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญที่สุด เพราะว่าชัดเจน การรับมือกับสถานการณ์ การรับมือกับไวรัส การทำให้แน่ใจว่า คนอื่นๆ ทั้งหมดปลอดภัย ช่วยเหลือกันและกัน และพยายามอยู่ที่บ้านให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ทำเรื่องที่คุณทำได้อย่างถูกต้องให้มากที่สุดต้องบอกแบบนั้น แต่หลังจากนั้นในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง คุณต้องเริ่มเดินหน้าไปกับอนาคตอีกครั้ง ตอนนี้เป็นก้าวเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก แต่เป็นก้าวเล็กๆ

ตามความเห็นส่วนตัวที่ผมพูดได้ มันจะเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญ สำคัญมากๆ เพราะว่าผมชอบมากที่อยู่ร่วมกันกับอุลล่า (ภรรยาของคล็อปป์) ที่บ้าน ยอดมาก และมีเวลาทำเรื่องที่แตกต่างออกไป แต่ผมเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล และผมอยากจะอยู่ร่วมกันกับเด็กๆ ซึ่งตอนนี้เราสามารถอยู่ด้วยกันอย่างน้อย 5 คน ดังนั้น ผมแทบรอไม่ไหวแล้ว

คุณสามารถอธิบายได้ไหมว่า คุณรอคอยจะได้เจอกับเด็กๆ ขนาดไหน?

ผมคิดว่า ผมเพิ่งแสดงออกไปเมื่อกี้! เยอะมาก มันดีมาก แต่ยังเป็นเรื่องที่แตกต่างออกไป เราไม่ได้สัมผัสกันจริงๆ คุณจะเห็นที่เมลวู้ด สิ่งที่เรย์ เฮาแกนจัดการที่นั่น มันน่าเหลือเชื่อมาก มันเป็นการเข้าออกแบบวัน-เวย์ ดังนั้นเราจะไม่ได้เจอกัน

เราเจอกันในสนามซ้อม และถ้าคุณเห็นบางคนจากทางด้านหลัง หรือถ้าพวกเขาหันมาคุณจะเห็นหน้าของพวกเขา แต่หลังจากนั้นคุณต้องเดินไป เพราะว่าคุณต้องรักษาระยะห่าง

ถ้าคุณอยู่ผิดจุด และอยากจะไปห้องน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่กลางแจ้ง อย่างส่วนก่อสร้าง แล้วมันอยู่ไกลจากห้องน้ำ เพราะว่าคุณหันหลัง และเดินกลับไปไม่ได้ คุณต้องไปให้สุดทาง

เราทำอะไรก็ได้ที่เราต้องทำ เราทำอะไรก็ได้ที่ปลอดภัย แต่เช่นกันที่ต้องให้คนอื่นๆ ปลอดภัยด้วย และยังคงสามารถเล่นฟุตบอลได้

ดังนั้น ผมรอคอยจริงๆ ที่จะได้เห็นหน้าเด็กๆ แต่มันยังคงแปลกๆ และแตกต่าง เพราะว่าเราไม่สามารถใกล้ชิดคนอื่นๆ ได้จริงๆ แต่เราจะได้เห็น มันจะดีขึ้นเรื่อยๆ

มันเกิดขึ้นส่วนใหญ่ใน 2-3 สัปดาห์ล่าสุดทั่วโลก ดังนั้นมันจะเกิดขึ้นอีกเยอะในอีก 2-3 สัปดาห์ เราจะรอดูว่าเราจะปรับตัวอย่างไรหลังจากนั้น แต่เราต้องยอมรับมันอย่างที่มันเป็น เรากลับมาในทิศทางที่ดี และนั่นคือข่าวดี

คุณพูดถึงบุนเดสลีกาในช่วงต้นของถาม-ตอบ ชัดเจน และเข้าใจได้ว่า มีความสนใจ และโฟกัสเยอะมากในอังกฤษถึงการกลับมาของฟุตบอลเยอรมันสุดสัปดาห์นี้ ไม่น้อยเลยเช่นกันในลิเวอร์พูล อะไรที่คุณเรียกว่า ‘new normal’ ‘บรรทัดฐานใหม่’?

ดูสิ ผมรักมัน ในส่วนนี้ผมเป็นคนแปลกๆ ตอนที่ดูฟุตบอล เกมอื่นๆ ไม่ใช่เกมของเรา ส่วนใหญ่ผมไม่ชอบเปิดเสียง เพราะผมไม่อยากฟังคำบรรยาย ผมแค่สนใจเกม ดังนั้นตอนนี้สำหรับผมมันปกติมาก เมื่อดูเกมของทีมอื่นๆ

ผมรักเกม ผมสนใจสิ่งที่พวกเขาทำ และอะไรเหล่านี้ มันจะ 100 เปอร์เซ็นต์ ถ้ามีคนมาเต็มสนามฟุตบอล เต็มแอนฟิลด์ สองทีมที่ดีต่อสู้กัน มีประตูสวยๆ และในท้ายที่สุดลิเวอร์พูลชนะ

มันเป็นวันแข่งที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งหลายๆ เรื่องเหล่านี้เป็นไปได้ แต่แอนฟิลด์จะไม่มีผู้ชมสักระยะ ซึ่งนั่นคือสิ่งที่เราต้องยอมรับ มันเป็นเรื่องเดียว ผมรู้ ฟุตบอลแบบเล่นไม่มีคนดูมันไม่เหมือนเดิม

ทำไมต้องพูดถึงเรื่องนี้? เราทุกคนชื่นชอบตอนที่เรามีสัมพันธ์กัน ตอนที่ผู้คนคอยเชียร์เรา ตอนที่พวกเขาผลักดันให้เราวิ่งไกลขึ้น และอะไรต่างๆ เหล่านี้ เราชื่นชอบมัน แต่เราไม่อาจจะมีมันได้ ทำไมเราคิดถึงเกี่ยวกับเรื่องที่คุณทำไม่ได้ในตอนนี้? ใช้สิ่งที่คุณมีในขณะนี้

และมันดูเหมือนว่า จะเป็นไปได้ และในเยอรมนีมันเป็นไปได้แล้วกับการเล่นแบบไม่มีคนดู และเกมฟุตบอลดีมาก มีประตูสวยๆ การต่อสู้ที่แท้จริง เกมที่สูสี เกมที่ชัดเจน ผลการแข่งขันที่ชัดเจน การต่อสู้ที่แท้จริง

ลองนึกภาพค่ำคืนแรกมันอาจจะเหมือนกับ ‘ลองดูตรงนั้นตรงนี้ มันจะออกมาดีไหม มันจะรู้สึกยังไง?’ แต่ในเยอรมนีหลายๆ ทีมเล่นเพื่อเกือบจะทุกอย่าง พวกเขาอยากจะอยู่รอดในลีก และชัดเจนว่า มันเหมือนกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอังกฤษ

ตอนที่เราเริ่มทุกอย่างมันจะกลับมาอีกครั้ง การแข่งขันจะเข้มข้น ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับ ‘โอ้ ลิเวอร์พูลต้องชนะสองเกม’ ยังไงก็ตามเราต้องชนะสองเกมตั้งแต่ต้น มันไม่ใช่ ‘แค่สองเกม’ มันเป็นประมาณนั้น

เราต้องชนะมัน มันไม่ใช่เรื่องที่เราอยากจะชนะสองเกมสุดท้าย หรืออะไรก็ตาม และผ่านมันมาได้อย่างนั้น เราอยากจะลงเล่นฟุตบอลที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ดีกว่าทีมอื่นๆ ที่ต่อสู้เพื่อแชมเปียนส์ลีก ต่อสู้เพื่ออยู่ต่อในลีก

คุณจะเห็นมันในวันแรกของการแข่งขัน แต่ตอนนี้ความเข้มข้นจะยิ่งเพิ่มขึ้น และตัวเลขเกี่ยวกับกายภาพของเกมในเยอรมนีสูงขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ ซึ่งน่าจะเป็นการวิ่งต่อเกม 117-118 กม. โดยไม่มีใครตระโกนใส่คุณเรื่องที่คุณต้องวิ่ง

แค่เพราะว่าคุณต้องการมัน เพราะว่าคุณต้องทำมันเพื่อเพื่อนร่วมทีมของคุณ ชัดเจนว่านั่นคือสิ่งที่เราต้องทำเช่นกัน เราเล่นเพื่อสโมสรแห่งนี้ เราเล่นเพื่อกันและกัน 100 เปอร์เซ็นต์ เราจะวิ่ง และสู้เพื่อกันและกัน 100 เปอร์เซ็นต์

เราต้องทำมัน โชคร้ายมาก โดยไม่มีตัวกระตุ้นที่ดีที่สุดในโลก และเอาชนะในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในโลกจากผู้ชมในแอนฟิลด์ แต่มันเป็นอย่างนั้น ผมไม่เคยเข้าใจในชีวิตว่า ทำไมคุณมักจะต้องการสิ่งที่คุณไม่มี คุณไม่อาจจะมีได้ ในช่วงเวลานี้ เราไม่มีเรื่องนี้ ดังนั้นต้องยอมรับที่เหลือ และทำมันให้ดีที่สุด

More news