อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน พูดถึงวัฒนธรรมที่เมลวู้ด: ไม่มีการอดกลั้นให้กับระดับที่ตกลง

ลิเวอร์พูลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และทำสถิติคว้าแชมป์โดยที่ยังเหลือเกมให้เล่นในฤดูกาลนี้อีกถึง 7 เกม 

อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ได้วางความสำเร็จนั้นลง เพื่อจะคงความปรารถนาที่จะปรับปรุงเกมให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามมาตรฐานของคล็อปป์

เมื่อถูกตามว่ามันเป็นอย่างไรที่ได้เล่นภายใต้การคุมทีมของผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กล่าวกับบีบีซีว่า “มันเข้มข้นมาก ไม่มีวันหยุดเลย และไม่มีการอดกลั้นให้ระดับที่ตกลง”

“ถ้าพวกเขาทำเป็นครั้งคราวในฐานะทีม เราก็จะถูกย้ำเตือนว่า นั่นไม่ดีพอ และนั่นไม่ใช่จุดที่เราต้องการจะเป็นเพื่อพัฒนาในอนาคต”

“ผมคิดว่า ช่วงเวลาแบบตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีอย่างมากสำหรับเรา เห็นได้ชัดว่า เราบรรลุในสิ่งที่เราทำสำเร็จในตอนนี้ และนั่นก็สำคัญสำหรับเราในฐานะทีม และสำคัญมากยิ่งกว่าสำหรับสโมสรฟุตบอลหลังจากเวลาที่แสนยาวนานสำรับบรรดาแฟน ๆ”

“มันเป็นบททดสอบแบบว่า ‘เอาล่ะ ตอนนี้เราจำเป็นต้องไปต่ออีกครั้ง และเราต้องการจะไปให้ถึงระดับขั้นถัดไป และเราจะผลักดันสิ่งนี้ไปได้ไกลแค่ไหน?’”

“เราไม่รู้ แต่เราต้องการจะทำทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่เราจะสามารถทำได้เพื่อพยายามและคงอยู่ในจุดที่เราเป็นอยู่ในตอนนี้ และพัฒนาอีกครั้ง เพราะลีกเองก็พัฒนาขึ้นในทุกปีและทุกทีมต่างก็แข็งแกร่ง”

“มันยากที่จะรักษาระดับเหล้านั้นไว้ และความคงเส้นคงวาแบบนั้นในทุกปี ตอนนี้ เราต้องการจะผลักดันตัวเราเองไปเรื่อย ๆ ต่อไป”

“การเล่นให้กับผู้จัดการทีมคนนี้ นั่นคือสิ่งที่เขาทำในทุกวันอย่างแท้จริง นั่นคือสิ่งที่เรารู้ดีและเป็นสิ่งที่เรามาเพื่อคาดหวัง นั่นเป็นเรื่องปกติในตอนนี้”

ตัวอย่างเช่น ความมุ่งมั่นที่ยังคงอยู่กับบทสรุปของฤดูกาล 2019-20 ในวิถีทางที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยการเก็บชัยชนะใน 6 เกมสุดท้าย โดยเริ่มต้นจากเกมเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของแอสตัน วิลลา ในวันอาทิตย์นี้

มีเพียงตอนจบของฤดูกาลที่จะทำให้อ็อกเหลด-แชมเบอร์เลนและเพื่อนร่วมทีมของเขายอมให้ตัวพวกเขาเองได้สะท้อนถึงประวัติศาสตร์ที่พวกเขาสร้างขึ้น

นักเตะหมายเลข 15 กล่าวต่อว่า “ผมรู้ว่ามันรู้สึกดี เพราะผมรู้ว่ามันมีความหมายที่จะรู้สึกอัศจรรย์ แต่ในนาทีนี้ มันยังไม่ได้จบจริง ๆ เพราะเกมยังมีมาอย่างต่อเนื่อง เรายังอยู่ในทัศนคติแบบเดิมที่จะจบฤดูกาลอย่างแข็งแกร่งและเอาชนะทุกเกม”

“ตามปกติ ผมเดาว่าเมื่อใครได้กลายเป็นแชมป์ มันจะมีอีกหนึ่ง บางทีก็สองเกม ที่เหลืออยู่ให้เล่น บางครั้งก็เป็นเกมสุดท้ายเลย และเมื่อมันจบ มันก็เป็นวันหยุดและมันคือเวลาทั้งหมดที่จะสะท้านถึงฤดูกาล”

“สำหรับเรา มันแปลก ๆ ไปนิดหน่อย เพราะเราไม่ได้มีโอกาสที่จะได้นั่งลงและย้อนกลับมาลำดับสิ่งที่เราทำไปในฤดูกาลนี้จริง ๆ”

“แต่ผมหมายถึงว่ามันก็รู้สึกอัศจรรย์อย่างเห็นได้ชัด ที่ได้รู้ว่าเราทำมันสำเร็จแล้วและเราคว้าถ้วยรางวัลให้สโมสรได้แล้ว เราไม่ได้มีเวลาที่จะหยุดและรับทุกสิ่งทุกอย่างอย่างเหมาะสมเลยจริง ๆ”