จอร์แดน เฮนเดอร์สันกัปตันทีมลิเวอร์พูลคว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีประจำฤดูกาล 2019-20 จากสมาคมผู้สื่อข่าว

กองกลางลิเวอร์พูลได้รับการยืนยันการคว้ารางวัลอันทรงเกียรติประจำปีที่ตัดสินจากผลโหวตของนักข่าวอาชีพสายฟุตบอล และนักจัดรายการทั่วประเทศ หลังจากชูถ้วยพรีเมียร์ลีกให้หงส์แดงที่แอนฟิลด์สองวันก่อนหน้านี้

เฮนเดอร์สันได้รับคะแนนโหวตมากกว่า 1 ใน 4 เอาชนะในการแข่งขันกับเควิน เดอ บรอยน์ และมาร์คัส แรชฟอร์ด เช่นเดียวกันกับเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และซาดิโอ มาเน่เพื่อนร่วมทีม

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และอลิสสัน เบ็คเกอร์ก็อยู่ในกลุ่มนักเตะจากทีมแชมป์ที่ติดโผในการโหวตด้วยเช่นกัน

เฮนเดอร์สันกล่าวว่า “อยากจะบอกว่าผมรู้สึกซาบซึ้งในการสนับสนุนของผู้ที่ลงคะแนนให้กับผม และสมาคมนักข่าวฟุตบอลโดยทั่วไป คุณต้องดูรายชื่อผู้ชนะรางวัลนี้ในอดีต ผมโชคดีมากที่ได้ลงเล่นร่วมกับเขาที่ลิเวอร์พูล อย่างเช่นสตีวี่(เจอร์ราร์ด), หลุยส์(ซัวเรซ) และโม(ซาลาห์)ที่ทำให้รู้ว่ามันทรงเกียรติแค่ไหน”

“แต่ไม่แพ้ความรู้สึกขอบคุณที่ผมมี ผมไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองจะรับรางวัลนี้เพียงคนเดียว ผมไม่ได้รู้สึกว่าอะไรก็ตามที่ผมประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้ หรือตามความเป็นจริงตลอดทั้งอาชีพทั้งหมดผมทำด้วยตัวเอง ผมเป็นนี้ผู้คนมากมาย แต่ไม่มีใครมากกว่าเพื่อนร่วมทีมปัจจุบันของผม ที่เพิ่งทำสิ่งทีเหลือเชื่อ และสมควรรได้รับทุกอย่างที่ผมได้รับ”

“เราบรรลุความสำเร็จในสิ่งที่เราทำได้ เพราะสมาชิกทุกคนในทีมของเรายอดเยี่ยม และไม่ใช่แค่ในเกมต่างๆ ไม่ใช่แค่ในช่วงเวลาที่ขึ้นพาดหัว และอยู่บนหน้าข่าวหลังจากนั้น แต่เป็นทุกๆ วันในการฝึกซ้อม”

“นักเตะที่เป็นตัวจริงในเกมส่วนใหญ่ของเราในฤดูกาลนี้ทำได้ดีอย่างที่พวกเขาทำ เพราะวัฒนธรรมของเรา และสภาพแวดล้อมของเราที่เมลวู้ด ไม่ใช่แค่คนเดียวที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ มันคือความพยายามร่วมกัน และนั่นคือมุมมองของผมต่อการรับรางวัลอันทรงเกียรตินี้”

“ผมยอมรับมันในนามของทีมทั้งหมด เพราะถ้าไม่มีพวกเขาผมจะไม่อยู่ในตำแหน่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้ เด็กๆ เหล่านี้ทำให้ผมเป็นนักเตะที่เก่งขึ้น เป็นผู้นำที่ดีขึ้น และเป็นคนที่ดีขึ้น”

“หากมีสิ่งใดที่ผมหวังว่าผู้ที่โหวตให้ผมทำนั้นส่วนหนึ่งคือการตระหนักถึงการมีส่วนร่วมของทีมทั้งหมด”

“รางวัลส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่ดี และมันพิเศษมาก และผมจะยึดมั่นในเรื่องนี้ แต่รางวัลส่วนตัวที่ปราศจากความสำเร็จโดยส่วนรวมจะไม่มีความหมายมากมายนักสำหรับผม ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น”

เฮนเดอร์สันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปี โดยเขาพลาดแค่ 4 เกมลีกก่อนได้รับบาดเจ็บในช่วงปลายเดือนนี้ และทำไป 4 ประตู หลังจากคว้าแชมป์ยูฟา ซูเปอร์ คัพ และฟีฟา คลับ เวิลด์ คัพ ในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา

นอกสนามนักเตะวัย 30 ปียังมีส่วนสำคัญในการช่วยเหลือชุมชนในช่วงการระบาดของโควิด-19 รวมถึงการบริจาคเงินช่วยเหลือโครงการธนาคารอาหารของเมอร์ซีย์ไซด์ และมีบทบาทสำคัญกับแนวคิด #PlayersTogether ในการสนับสนุนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในระบบดูแลสุขภาพแห่งชาติ

เฮนเดอร์สันเป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนที่ 12 ที่คว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ หลังจาก เอียน คัลลาแฮน (1974), เควิน คีแกน (1976), เอ็มลีน ฮิวจ์ส(1977), เคนนี ดัลกลิช(1979 and 1983), เทอร์รี แม็คเดอร์ม็อตต์ (1980), เอียน รัช (1984), จอห์น บาร์นส์ (1988 และ 1990), สตีฟ นิโคล (1989), สตีเวน เจอร์ราร์ด (2009), หลุยส์ ซัวเรซ (2014) และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ (2018).