การร่วมแบ่งปันความรับผิดชอบร่วมกันเป็นหัวในในการเดินทางของลิเวอร์พูลสู่การเป็นแชมป์ยุโรป แชมป์โลก และแชมป์พรีเมียร์ลีกในตอนนี้จากการยืนยันของโจ โกเมซ

“ผมคิดนี่คือสิ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของเราในปีนี้ นั่นคือ ระดับความรับผิดชอบร่วมกันในหมู่พวกเราทุกคน” กองหลังกล่าวในการให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมในซีรีส์ Champions 

“ผมคิดว่า มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจนถึงจุดที่มันไม่ต้องคำนึงในใจ ผู้คนทำอะไรมันไม่ได้ คุณมีผู้นำหลายคนในทีมอย่าง เดอะ มิลลีส์, เดอะ เฮนโดส์, เดอะ เวอร์จิลส์ แม้แต่คนอื่นๆ อย่างร็อบโบ้ที่สามารถเดินเข้ามาหาผม และพูดว่า ‘เอาเลยโจ มันไม่ดีพอ’ “

“มันเป็นสภาพแวดล้อมที่นาอยู่มา เมื่อคุณสามารถพูดกันอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งๆ หน้า และบอกว่าคุณน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ผมยอมรับมัน เพื่อนๆ คนอื่นๆ ก็ยอมรับมัน ผมคิดว่านี่คือสิ่งที่สำคัญมากในปีนี้ และมันเกิดขึ้นหลายๆ ครั้งในหลายๆ เกม มันน่าจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เรายังคงตื่นตัว”

“หรือก่อนเกม มันมักจะไม่เคยหยุดนิ่ง หรือไม่พอใจ หรือนิ่งนอนใจ มันคือสิ่งทีเป็นหัวใจสำคัญของความสม่ำเสมอ”

โกเมซเป็นตัวจริงแค่เกมเดียวจนถึงเดือน ธ.ค. แต่ไม่เคยหันหลังกลับเมื่อเขายึดตำแหน่งยืนอยู่กับเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค หลังจากนั้นที่ทีมเก็บได้ถึง 10 คลีนชีตจาก 11 เกมลีกที่ช่วยให้ทีมนำจ่าฝูงหายห่วง และในวัยเพียง 23 ปีเขายังเป็นตัวจริง 21 จาก 23 เกมลีกสูงสุดสุดท้าย และมีส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมของคล็อปป์มีแนวรับที่ดีที่สุดในฤดูกาล

ความอดทน และการเตรียมตัวให้ผลตอบแทนกลับมา

“มันยากมาก” เจ้าของเสื้อเบอร์ 12 เล่า “ผมหมายถึง ผมไม่เคยมีช่วงเวลาที่นานมากๆ ที่ผมผิดสมบูรณ์ แต่ไม่ได้ลงเล่น แต่มันเป็นส่วนหนึ่งในการอยู่ที่นี่ และจุดนี้ของสโมสร”

“ผมแค่ต้องรอเวลาของผม และทำงานหนักต่อไปในการฝึกซ้อม มันไม่มีทางง่ายสำหรับนักเตะที่ต้องนั่ง และดูเพื่อนจากข้างสนามเป็นเวลานานอย่างนี้ แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของการอยู่ที่นี่อย่างที่ผมพูดไป”

“เรื่องโชคร้ายเกิดขึ้น และนักเตะได้รับบาดเจ็บ ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องสำคัญที่ในจุดนั้นผมต้องเป็นส่วนหนึ่งของทีม แน่นอนว่าเราอยู่ในจุดที่ดีอยู่แล้วในเดือนธันวาคม หลายๆ อย่างเป็นไปในแง่ดี จุดที่เราอยู่ในลีก ผมกระหายในเรื่องที่ไม่อยากให้ใครผิดหวัง หรือแค่พยายามรักษาระดับ และมีส่วนร่วม”

“มันเป็นช่วงเวลาที่ยาก แต่มันช่วงกำหนดรูปร่างของผมในวิธการแตกต่างออกไป (จากที่) เคยเจอการบาดเจ็บ ผมดูแลตัวเอง และทุ่มเททุกอย่าง และเข้าใจว่าผมต้องอดทนที่นี่ และยอมรับมันในจุดนี้”