ลิเวอร์พูลกลับมาลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีกหลังพักเบรกทีมชาติ ด้วยฟอร์มสุดร้อนแรงเมื่อเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ ที่มาเยือนไปด้วยสกอร์ 3-0

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, มิลเนอร์, ฟาบินโญ่, มาติป, โรเบิร์ตสัน, ไวจ์นัลดุม, เกอิต้า, โจนส์, โชต้า, มาเน่, และเฟอร์มิโน่

สำรอง: อาเดรียน, มินามิโนะ, ซิมิกาส, โอริกี, ฟิลลิปส์, คลาร์กสัน และเนโก้ วิลเลียมส์

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที 21 อีแวนส์โหม่งเข้าประตูตัวเอง ให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0
  • นาที 41 โชต้ายิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-0
  • นาที 86 เฟอร์มิโน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 3-0

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 9 ในพรีเมียร์ลีก ด้วยการรับการมาเยือนของเลสเตอร์ ซิตี้ โดยในช่วงวอร์มอัพ แผนกผู้รักษาประตูของทีมลิเวอร์พูลได้นำพวงหรีดไปวางไว้อาลัยแด่เรย์ คลีเมนซ์ อดีตตำนานผู้รักษาประตูของทีมที่จากไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เพียง 2 นาทีแรกของเกม ลิเวอร์พูลเกือบทำประตูขึ้นนำได้ก่อน หลังมิลเนอร์เตะมุม บอลมาเข้าทางมาเน่ที่โหม่งสวนไป แต่เสียดายที่บอลไม่เข้ากรอบ
เกมในวันนี้ ลิเวอร์พูลมีจังหวะที่ใกล้เคียงติดๆ กัน 2 ครั้ง หลังจากลิเวอร์พูลเล่นเกมโต้กลับในนาที 10 แต่ชไมเคิลเซฟลูกยิงของโจนส์ไว้ได้ด้วยขาที่เสาแรก ส่วนโชต้าก็ได้โอกาสเช่นกันในนาที 13 แต่ยังไม่ผ่าน

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำในนาที 21 จากจังหวะเตะมุมที่อีแวนส์โหม่งเข้ากลางประตูไปแบบโล่งๆ

เกอิต้าจ่ายบอลทะลุให้มาเน่พาบอลขึ้นหน้าก่อนที่อีแวนส์จะเข้ามาสกัดในนาที 31 ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกนอกกรอบ ก่อนที่มาติปจะโหม่งบอลย้อนเข้ามาให้เฟอร์มิโน่เข้าชาร์จ แต่ไม่เข้า

มาเน่ทำได้ใกล้เคียงในนาที 39 เมื่อได้บอลขึ้นหน้าอีกครั้ง แต่ยิงไปแฉลบและเข้ามือชไมเคิล

แต่ในนาที 41 โชต้า ทำประตูได้อีกครั้ง เมื่อโฉบเข้ามาโหม่งจังหวะเปิดของโรเบิร์ตสันเข้าไปให้ลิเวอร์พูลนำ 2-0

ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 1 นาที

เกมในครึ่งหลัง

 เริ่มครึ่งหลังมาได้ไม่นาน ลิเวอร์พูลต้องถูกบีบให้เปลี่ยนตัวเป็นคนแรก เมื่อเกอิต้ามีอาการบาดเจ็บ ทำให้คล็อปป์ต้องส่งเนโก้ วิลเลียมส์ ลงมาแทน

แต่หลังจากเปลี่ยนตัว มาเน่ได้โอกาสยิง ชไมเคิลปัดและบอลกำลังจะย้อยเข้าประตู แต่ฟุกช์มาโหม่งเคลียร์ออกไปได้ในนาที 54 ก่อนที่ในนาที 56 โชต้าได้ลุ้นทำประตูที่ 2 ของเขาแต่ไม่ผ่านเซฟของชไมเคิ่ล บอลทะลักมาเข้าทางโชต้าอีกครั้งเขาจึงเปิดยัดไปหน้าประตู เฟอร์มิโน่เข้าชาร์จ ลูกไปชนเสา

นาที 61 เลสเตอร์เล่นฟรีคิกในจังหวะอันตรายแต่แนวรับลิเวอร์พูลยังช่วยกันเคลียร์กันได้ สุดท้ายทีมเยือนทำเสียไปเอง

จังหวะนี้น่าจะเป็นังหวะที่ใกล้เคียงที่สุดของเฟอร์มิโน่ เมื่อกองหน้ารายนี้ได้บอลในนาที 77 ก่อนหลบโฟฟาน่า และลากเข้าไปยิง บอลไปชนเสา มาเน่จะซ้ำก็ยังไม่ได้ประตู  

ในที่สุดเฟอร์มิโน่ก็มีชื่อในสกอร์บอร์ดที่แอนฟิลด์ เมื่อมิลเนอร์เปิดเตะมุมให้ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ โขกเข้าไปให้ลิเวอร์พูลนำห่างเลสเตอร์เป็น 3-0 ในนาที 86

ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 4 นาที

ลิเวอร์พูลเก็บ 3 แต้มได้สำเร็จ ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 2 แต้มเท่า แต่ลูกได้เสียน้อยกว่า แต่ทีมก็ทำสถิติไม่แพ้ใครที่แอนฟิลด์ 64 เกม