Match Report: ลิเวอร์พูลเสมอแมนฯ ยูไนเต็ด แบบไร้สกอร์
ลิเวอร์พูลทำได้เพียงเก็บ 1 แต้มจากการรับการมาเยือนของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แอนฟิลด์
รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, โรเบิร์ตสัน, ไวจ์นัลดุม, ติอาโก้, ชากิรี, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่
สำรอง: เคลเลเฮอร์, มิลเนอร์, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โจนส์, มินามิโนะ, โอริกี, รีห์ส วิลเลียมส์, ฟิลลิปส์ และเนโก้ วิลเลียมส์
เกมในครึ่งแรก
ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 18 ด้วยการรับการมาเยือนของแมนฯ ยูไนเต็ด ที่แอนฟิลด์ โดยที่มีตำแหน่งจ่าฝูงเป็นเดิมพัน
โดยในก่อนเกมนี้จะมีการปรบมือเพื่อเป็นรำลึกถึง เจอร์รี มาร์สเดน บุคคลสำคัญที่ทำให้ You’ll Never Walk Alone กลายมาเป็นเพลงประจำสโมสรลิเวอร์พูลนับจนถึงตอนนี้
เมื่อเริ่มเกม ลิเวอร์พูลได้โอกาสก่อนตั้งแต่นาที 3 เมื่อโรเบิร์ตสันกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู บอลไปเข้าข้างตาข่าย จากนั้นในนาที 14 โรเบิร์ตสันได้ตั้งเท้ายิงในเขตโทษจังหวะบอลลอยมาเข้าทางเขา แต่ลูกเหินข้ามคานออกไป และในนาที 17 มาเน่ดึงเกมรับแมนยูมาก่อนจะจ่ายให้เฟอร์มิโน่ได้โอกาสยิง แต่บอลไม่เข้ากรอบ
ชากิรีรับใบเหลืองคนแรกในเกม เมื่อทำฟาล์วใส่ชอว์จากทางด้านหลัง ในนาที 33 ก่อนที่ นาที 34 บรูโน่ยิงฟรีคิกเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว
ในนาทีต่อมา เฟอร์มิโน่วิ่งเข้ามายิงการพามาเองของซาลาห์ บอลไม่แรง ตรงตัวเด เคอา จบ 45 นาทีแรกที่แอนฟิลด์ แม้ว่าลิเวอร์พูลจะมีโอกาสมากกว่าแต่เกมยังเสมอกันที่ 0-0
เกมในครึ่งหลัง
ยังไม่มีการเปลี่ยนตัวเมื่อเริ่มครึ่งหลัง และเป็นลิเวอร์พูลเช่นเดิมที่ได้โอกาสก่อนใน นาที 47 ที่ซาลาห์กระดกบอลไปที่เสาไกล มาเน่โหม่งไปติดวาน-บิสซาก้า
จากนั้นลิเวอร์พูลต้องเป็นฝ่ายตั้งรับ นาที 52 เทรนต์แย่งบอลจากบรูโน่ในจังหวะที่แมนยูจะบุก ส่วนนาที 53 ฟาบินโญ่พุ่งมาขวางจังหวะการลุ้นทำประตูของบรูโน่เอาไว้ได้
ลิเวอร์พูลได้โอกาสโต้กลับบ้างในนาที 54 แต่เด เคอาออกมาถึงบอลก่อนที่ซาลาห์จะมีโอกาสจบสกอร์ และนาที 55 เทรนต์ลองยิงเลียดจากทางฝั่งซ้าย บอลไปเข้ามือของเด เคอา และนาที 62 ซาลาห์หาโอกาสยิงในเขตโทษจนได้ แต่บอลแฉลบขากองหลังแมนยูออกหลัง
หลังจากบุกเข้าใส่ลิเวอร์พูลต้องเล่นเกมรับอีกครั้ง เริ่มตั้งแต่ในนาที 63 ฟาบินโญ่แหย่เท้าขวางบอลที่แมนยูจะโต้กลับเอาไว้ได้อีกครั้ง
นาที 64 บรูโน่ลองส่องไกลจากแถวสอง อลิสสันรับเข้าซอง ไม่มีปัญหา นาที 65 ฟาบินโญ่ตัดฟาล์วใส่คาวานี่ รับใบเหลือง และในนาที 71 ป็อกบาได้โหม่งเตะมุม ไม่เป็นอันตรายสำหรับอลิสสัน รวมทั้งนาที 75 บรูโน่ได้ยิงจ่อๆในเขตโทษ อลิสสันใช้ขาซ้ายเซฟเอาไว้ได้เยี่ยม
คล็อปป์ส่สำรองคนแรกลงสนาม โดยให้โจนส์ลงมาแทนชากิรี
ในช่วงท้ายเกม ทั้งสองทีมผลัดกันรุกอีกครั้ง โดยในนาที 78 ติอาโก้ยิงไกลเต็มเท้า เด เคอาพุ่งปัดออกไปได้ นาที 80 ติอาโก้วิ่งเข้ามายิงตรงหน้าเขตโทษ บอลไม่เข้าเป้าหมาย และนาที 83 อลิสสันตะปบเซฟการซัดเต็มแรงของป็อกบาเอาไว้ได้
คล็อปป์เปลี่ยนตัวอีกครั้งในนาที 85 โดยส่งโอริกีมาแทนเฟอร์มิโน่ และในนาที 89 ที่มิลเนอร์มาแทนไวจ์นัลดุม
ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 3 นาที ไม่มีการทำประตูเพิ่ม ลิเวอร์พูลจึงเก็บไปได้เพียงหนึ่งแต้มจากเกมนี้ และอยู่อันดับ 3 โดยมี 34 คะแนน