การระบาดของ COVID-19 อาจจะหมายถึงแฟนๆลิเวอร์พูลไม่สามารถจะหนุนหลังทีมแบบเข้ามาชมเกมได้, แต่ เจอร์เก้นคล็อปป์ ยืนยันว่าเขา และผู้เล่นของเขารู้สึกถึงการสนับสนุนของพวกเขา

หงส์แดงกลับมาชนะเมื่อกลางสัปดาห์เนื่องด้วยชัยชนะ 2-0 เหนือทางอาร์เบ ไลป์ซิคในการแข่งขันแชมเปียนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรกที่บูดาเปสต์

ผลการแข่งขันเกิดขึ้นหลังจากความพ่ายแพ้ 3 เกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีกสำหรับทีมแชมป์เก่า

อย่างไรก็ตาม, จากการเขียนในบันทึกต่างๆของเขากับสมุดโปรแกรมการแข่งขันอย่างเป็นทางการสำหรับเกมนี้กับเอฟเวอร์ตัน, คล็อปป์บอกอย่างละเอียดว่าการสนับสนุนของกองเชียร์มาถึงเขา และกลุ่มนักเตะของเขาได้อย่างไร - และความร่วมมือร่วมใจกันอย่างมากคือกุญแจสำคัญสำหรับลิเวอร์พูลมากเพียงใดในการเรียกฟอร์มท่ีพวกเขาแสดงให้เห็นจาก 2 ฤดูกาลก่อน

เขากล่าวว่า: “อย่างที่มันเป็นเคสเสมอมานับตั้งแต่ผมเข้ามาที่ลิเวอร์พูล, การแก้ไขสำหรับทุกๆปัญหาเกิดขึ้นภายในทีมเราเองมันสามารถจะได้รับการแก้ไขในสนามซ้อม, ในห้องแต่งตัว, ในการประชุมการวิเคราะห์หลังจากนั้นสุดท้ายแล้วในสนามกับเกมการแข่งขัน”

“อีกประการหนึ่งผมต้องการให้คุณเข้าใจ, เรายังคงอยู่ในช่วงเวลานี้ ในพรีเมียร์ลีกตารางคะแนนสูสีกันมากๆ และดังนั้นสถานการณ์ ณ ตอนนี้อาจจะเป็นสำหรับทุกๆสโมสรมีความไม่มั่นคงยกเว้นแมน ซิตี้ หนึ่งผลการแข่งขันกับไลป์ซิค, ไม่สำคัญว่าจะน่าพอใจเพียงใด, ไม่ได้ช่วยอะไรเราในวันนี้ เราต้องทำมันทั้งหมดอีกครั้งกับคู่แข่งที่มีแรงกระตุ้นอย่างมาก”

“ผมคาดหวังมาโดยตลอดว่าฤดูกาลมันจะเป็นแบบนี้ ผมไม่ได้คาดหวังว่าเรานั้นจะมีปัญหาการบาดเจ็บมากมายที่เรามีในหนึ่งตำแหน่งที่สำคัญมากๆ, แต่ผมรู้ว่ามันจะเป็นฤดูกาลซึ่งมันจะเป็นการแข่งขันที่ดีไปจนกระทั่งจบจริงๆจากการที่เราจะไปถึงเกมสุดท้าย”

“การรักษาความเชื่อมั่นในตัวคุณเอง และคนเหล่านั้นซึ่งแคร์เกี่ยวกับการช่วยคุณเป็นสิ่งสำคัญอย่างที่สุด แน่นอนว่ามันถูกทดสอบ, ช่วงเวลาที่ยากทำแบบนั้น สำหรับทุกคนของเรา”

“แต่นี่คือเหตุผลว่าทำไมผมจึงชี้ให้เห็นถึงประเด็น, หลายๆครั้ง, เกี่ยวกับหลายๆส่วนของเกมต่างๆกับ 2 ทีม ‘ซิตี้’ [เลสเตอร์ซิตี้ และแมนเชสเตอร์ ซิตี้] ซึ่งผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมสำหรับเรา ในฟุตบอล และทุกๆกีฬาผลการแข่งขันคือ 1, 2 และสิ่งเดียวเท่านั้นที่สำคัญ ผลการแข่งขันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ในอังกฤษ, สำคัญมากยิ่งกว่าดังนั้นผมเรียนรู้”

“ดังนั้นเราให้ความสำคัญกับผลการแข่งขันเป็นลำดับแรกเสมอ, แต่ผมไม่ได้ปิดตาของผมเกี่ยวกับฟอร์มการเล่น”

“ผมเอ่ยถึงการรักษาความเชื่อมั่นในตัวคุณเอง - และนั่นไม่ใช่เรื่องส่วนตัวสำหรับผม ผมไม่ได้อ้างอิงถึงผมเป็นพิเศษ ผมกล่าวถึงทุกๆคนของเราในครอบครัวลิเวอร์พูล ผู้เล่นทั้งหลาย, กองเชียร์ และผม และสต๊าฟฟ์ของผมก็ด้วย ทุกๆคนของเรา”

“เราเป็นกลุ่มที่แข็งแกร่งมากๆนับตั้งแต่ผมเข้ามาที่นี่ - เราร่วมมือร่วมใจกันเพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และมันได้สร้างช่วงเวลาที่สวยงามที่เราจะมีตลอดไป แต่ตอนนี้มันสำคัญมากกว่าที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้”

“เราไม่ได้สูญเสียมันแต่อย่างใด! ไม่มีโอกาสที่เราจะเสียมัน, แต่มันมีค่าเสมอกับการเตือนตัวเราเองว่ามันสำคัญมากเพียงใดกับสิ่งที่เรามองหาเพื่อที่จะประสบความสำเร็จ ฟุตบอลอาชีพไม่ใช่วันหยุดพักร้อน มันยาก - มันเรียกร้องการทำงานหนัก และบ่อยครั้งมันสามารถจะให้การโดนเตะมากกว่าที่มันจะให้อ้าแขนที่อบอุ่นกับคุณ นี่คือสิ่งที่ทำให้มันน่าตื่นเต้นมากๆ มันคือสิ่งที่ทำให้มันมีคุณค่ามากๆด้วย และมันคือเหตุผลว่าทำไมเราทุกคนที่อยู่ในมันจึงรู้สึกเป็นเกียรติมากๆ”

“การที่สามารถจะจัดการกับเสียงโจมตีต่างๆ, ทำไปด้วยกัน - และลุกขึ้นแล้วตอบโต้, ทำไปด้วยกัน, คือหนึ่งในประสบการณ์ที่ดีที่สุดที่คุณสามารถจะมีในฐานะกลุ่ม มันทำให้ผมรู้สึกขอบคุณมากๆที่ผมรู้สึกตกหลุมรักกับฟุตบอลในตอนแรก ทำไมมันจึงกลายมาเป็นส่วนสำคัญมากๆในชีวิตของผม”

“ไม่มีใครควรจะรู้สึกเห็นใจเรา การเกาะกลุ่มกันไว้ และการร่วมใจกันมากขึ้นไปด้วยกันไม่ได้เกี่ยวกับการความสงสาร มันเกี่ยวกับการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน”

“ในฐานะสโมสร - และในฐานะชุมชน - เรารับนำเอาไอเดียที่ว่าการแข่งขันสามารถจะทำให้เกิดความสนุกได้เสมอ... แต่ในเชิงการโดนโจมตีคุณจะประสบความสำเร็จกับสิ่งนี้ได้ก็ต่อเมื่อมันจากความสามัคคี และความร่วมมือร่วมใจกัน”

“ในช่วงหลายสัปดาห์ท่ีผ่านมาผมสัมผัสได้อย่างแท้จริงถึงความรัก และการสนับสนุนจากครอบครัวลิเวอร์พูล ผู้เล่นของเราก็ด้วย พวกเขารู้ว่ากองเชียร์ของเราเจ็บปวดไปกับเรา, ในแบบเดียวกันกับที่พวกเขาฉลองร่วมกับเรา มันทำให้ที่แห่งนี้มีความพิเศษ, เอาตรงๆ

“ดังนั้นวันนี้แฟนๆของเราจะไม่ได้อยู่ในแอนฟิลด์ สำหรับเกมดาร์บีผมคิดว่ามันจะเป็นความแปลกเป็นพิเศษ, ไม่สำคัญว่าเราจะเคยชินกับประสบการณ์การเล่นแบบ ‘ปิดสนาม’ นี้มากเพียงใด”

“แต่ผมต้องการให้ทุกๆคนซึ่งอ่านสิ่งนี้รู้ว่าเรารู้สึกว่าพวกเขาอยู่กับเรา และเรารู้ว่าพวกเขายืนเคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมกับเรา, ไม่ว่าจะสถานการณ์อะไรก็ตามแต่”

“เราจะไม่เคยมองข้ามมัน”