Match Report: ลิเวอร์พูลเอาชนะไลป์ซิกก่อนผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ชปล.
ลิเวอร์พูลสามารถเก็บชัยชนะในเกมเลกที่ 2 ของแชมเปียนส์ลีกรอบ 16 ทีมสุดท้าย หลังเอาชนะอาร์เบ ไลป์ซิก พร้อมทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟิลลิปส์, คาบัค, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, ไวจ์นัลดุม, ติอาโก้, มาเน่, ซาลาห์ และโชต้า
สำรอง: อาเดรียน, ฮาร์วีย์ เดวิส, มิลเนอร์, เกอิต้า, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โจนส์, ซิมิกาส, ชากิรี, โอริกี, เบน เดวีส, รีห์ วิลเลียมส์ และเนโก้ วิลเลียมส์
จังหวะสำคัญในเกม
- นาที 70 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0
- นาที 74 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-0
เกมในครึ่งแรก
ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมแชมเปียนส์ลีก นัดที่สอง ของรอบ 16 ทีมสุดท้าย กับอาร์เบ ไลป์ซิก โดยต้องเดินทางมายังประเทศฮังการี เพื่อลงเล่นในสนามกลางที่ปุสกัส อารีนาเช่นเดียวกับเกมที่แล้ว ที่ทีมเก็บชัยชนะตุนไว้ 0-2
และเพื่อเป็นการการันตีในการตีตั๋วสู่รอบถัดไป ลิเวอร์พูลจึงเดินหน้าทำเกมบุก ตั้งแต่เริ่มเกม
โดยในนาที 7 มาเน่หลุดไปรับบอลของไวจ์นัลดุมก่อนจะได้ยิง ลูกข้ามคานออกไป แต่ในนาที 10 อลิสสันป้องกันการยิงของอัลโม่เอาไว้ได้เยี่ยม
ลิเวอร์พูลมาบุกใส่แบบไม่ยั้งใน นาที 19 โชต้าได้โหม่งเตะมุมแบบเน้นๆ ไปติดเซฟของกูลาชี่ ก่อนที่นาที 24 ซาลาห์ได้หลุดมายิงทางฝั่งซ้าย ไม่ผ่านกูลาชี่ มาเน่จะตามมาโหม่งซ้ำแต่ไม่ได้ สุดท้ายเป็นบอลของไลป์ซิก จากนั้นในนาทีต่อมา ติอาโก้ได้กระโดดตีลังกาตรงริมกรอบเขตโทษ กูลาชี่รับเอาไว้ได้ ก่อนที่ในนาที 29 ซาลาห์เปลี่ยนทางบอลของเทรนต์หน้าประตู ลูกแฉลบออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย จังหวะเตะมุมที่ตามมาโชต้าโหม่งไปตรงตัวกูลาชี่
ไลป?ซิกได้บุกบ้างใน นาที 32 ฟอร์สเบิร์กได้จังหวะยิงเลียดด้วยเท้าซ้ายในเขตโทษ บอลไม่เข้ากรอบ
ในช่วงก่อนจบครึ่งแรก นาที 41 โชต้าทะลุขึ้นมายิงตรงกลางประตูในจังหวะโต้กลับ แต่ยังไม่ผ่านกูลาชี่ และนาที 43 เอ็นคุนคูลากจากทางฝั่งซ้ายก่อนตัดเข้ากลางแล้วยิงไกล บอลหลุดกรอบออกหลัง
เกมในครึ่งหลัง
เกมในครึ่งหลังดำเนินมาครบ 1 ชั่วโมง ก็ยังเสมอกัน 0-0 จนกระทั่งนาที 70 ลิเวอร์พูลออกนำ 1-0 จากการยิงเบียดเสาเข้าไปของ โม ซาลาห์ ก่อนที่ในนาที 72 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวสำรอง 2 คน โดยโอริกี และเกอิต้า ลงมาแทนโชต้า และติอาโก้
ลิเวอร์พูลนำห่างเป็น 2-0 ในนาที 74 ซาดิโอ มาเน่ เข้าชาร์จบอลของโอริกีที่เสาไกลทำประตู
ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวอีกครั้งในนาที 82 โดยมิลเนอร์ลงมาแทนไวจ์นัลดุม และในจังหวะต่อมา โอริกีมีลุ้นเป็นผู้ทำประตูแต่บอลไปเข้าข้างตาข่าย
นาที 89 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวอีก 2 คนสุดท้าย โดยส่งซิมิกาสมาแทนโรเบิร์ตสัน และมาเน่
จากนั้นไม่มีจังหวะเพิ่มเติมใดๆ ลิเวอร์พูลจบสองนัดด้วยสกอร์รวม 4-0 เหนือไลป์ซิก และผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ได้สำเร็จ