เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอมรับว่าฟอร์มการเล่นของลิเวอร์พูลไม่ดีพอให้เก็บผลการแข่งขันที่ดีกว่านี้จากเกมที่เรอัล มาดริด เอาชนะไป 3-1 ในเกมเลกแรก ของแชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายที่เอสตาดิโอ อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน่

การที่ลิเวอร์พูลได้ประตูทีมเยือน และซาดิโอ มาเน่ถูกทำฟาวล์ก่อนประตูที่สองของเรอัลหรือไม่

อย่างแรก และนั่นคือเรื่องที่สำคัญที่สุด ผมคิดว่าเราทำได้ไม่ดีพอที่จะชนะในค่ำคืนนี้ เราเล่นได้ไม่ดีพอที่จะชนะ และนั่นอาจจะเป็นความกังวลอย่างแรกของผม (และ) สิ่งที่ผมคิดถึง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งแรก เราครองบอลทำเกมไม่เพียงพอ

เราเพรสใส่พวกเขาได้โอเค พวกเขาถูกกดัน พวกเขายิงไกลโดยไม่ตรงกรอบจริงๆ เราแย่งบอลจังหวะเหล่านี้ได้ แต่เราเสียบอลจังหวะสองเป็นส่วนใหญ่ซ้ำๆ ซึ่งนั่นไม่ช่วยอะไรเลย

เกมคือบทสรุปของโมเมนตัม ถ้าคุณอยากรู้ และตอนที่เรามีโมเมนตัมดีๆ และเราแย่งบอลได้ เราเปลี่ยนแปลงมันกลายเป็นเสียบอลทันที ฟุตบอลเป็นเกมที่ความผิดพลาดเป็นเรื่องที่ปกติอย่างมาก แต่คุณพลาดได้ในพื้นที่ที่เหมาะสมเท่านั้น

ถ้าคุณทำอย่างนั้น คุณสามารถแย่งบอลกลับได้ด้วยการเคาน์เตอร์-เพรสซิ่ง และอะไรแบบนี้ แต่เมื่อคุณอยู่ในสถานการณ์ที่คาดอะไรไม่ได้เลย จ่ายบอลไปเข้าเท้าคู่แข่ง มันยิ่งยุ่งยากมากขึ้น

ซึ่งเราเสียประตูแรก แน่นอนว่าลูกที่สองเป็นการเสิร์ฟใส่จาน แต่มันไม่ใช่ปัญหาที่แท้จริงของเกม… ครึ่งหลังเราทำได้ดีกว่ามาก เราเล่นฟุตบอลได้ดีขึ้น เราพยายามสร้างสรรค์โอกาส

เห็นได้ชัดว่าหลังจากนั้นมันค่อนข้างยากกับทีมที่กระตือรือร้นมาก และตั้งรับลึกอย่างเรอัล มาดริดที่อันตรายในจังหวะโต้กลับอย่างที่พวกเขาเป็น แต่เราทำประตูของเราได้ ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นแง่บวก แง่บวกเดียวในค่ำคืนนั้น และมันเป็นอย่างที่มันเป็น

เราน่าจะสมควรได้อะไรมากกว่า 3-1? ผมไม่แน่ใจถ้าพูดตามตรง จังหวะของซาดิโอ ผมต้องบอกว่าสิ่งที่ผู้ตัดสินทำในค่ำคืนนี้ผมไม่เข้าใจ

สำหรับนี่เป็นแบบส่วนตัวโดยเฉพาะ เพราะว่าเขารับมือกับจังหวะของซาดิโอ ซึ่งชัดเจนว่าเป็นฟาวล์ เหมือนว่ามันจะเป็นพุ่ง หรืออะไรก็ตาม และจากจังหวะนั้นตอนที่ซาดิโอล้มลง เขาไม่ได้อะไร และมันแค่ไม่ถูกต้อง

นั่นคือสิ่งที่ผมคุยกับเขาหลังเกม และผมคิดว่าไม่ยุติธรรมกับซาดิโอ และมันเป็นอย่างนั้น แต่มันเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อีกแล้ว เขาไม่ได้ทำให้แพ้เกมนี้ เราไม่ดีพอที่จะได้ผลการแข่งขันที่ดีกว่านี้

การเปลี่ยนตัวนาบี เกอิต้าในครึ่งแรกเป็นเรื่องของแท็กติก หรือเนื่องจากการบาดเจ็บ

มันเป็นเรื่องของแท็กติก มันเป็นเรื่องทางแท็กติก นี่คือส่วนที่ผมไม่ชอบในงานอะไรแบบนี้ คุณทำอย่างนี้ และหลังจากนั้นมันเหมือนกับนักเตะคนเดียวต้องรับผิดชอบจากฟอร์มในครึ่งแรก นาบีไม่ต้องรับผิดชอบในเรื่องนี้ เขาไม่ได้ลงเล่นมากสักพัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการลงตัวจริง และอะไรแบบนี้

เราไม่ดีพอในเกม นาบีไม่ดีพอในเกม แต่เราทุกคนเห็นเกมซึ่งพูดตามตรงผมน่าจะเปลี่ยนเพิ่มสองสามอย่างในเวลานั้น ซึ่งมันไม่ได้เกี่ยวกับนาบี แต่ผมทำมัน และตอนนี้ผมไม่มีความสุขกับมัน เพราะเราพูดเหมือนเป็นความรับผิดชอบของนาบี มันไม่ใช่ แต่มันเป็นเรื่องของแท็กติก มันเป็นอย่างนั้น

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์จะเรียนรู้จากความผิดพลาดของเกมในจังหวะเสียประตูที่สองให้กับเรอัลหรือไม่…

ใช่เลยแน่นอน มันคือสถานการณ์ ความผิดพลาดแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นในทันที ทุกอย่างเกิดขึ้นต้องมีประวัติอะไรนิดๆ หน่อยๆ มาก่อน และเรื่องราวนิดๆ หน่อยๆ หลังจากนั้น และอะไรแบบนี้

ผมไม่ชอบเกมของเราในครึ่งแรก เราแค่ไม่อยู่ในเกมจริงๆ มันคือความผิดพลาดของเรา และชัดเจนว่านั่นคือจุดที่เราต้องวิจารณ์ตัวเองถ้าพูดตามตรง

หลังจากอะไรแบบนี้เกิดขึ้น เราตัดสินสถานการณ์ผิดพลาด เราส่งบอลกลับไปให้โกล…ในเวลานั้นเทรนต์กับลูกโหม่ง แต่จังหวะอื่นๆ เราปล่อยให้พวกเขาได้โอกาสใช้ความเร็วที่พวกเขามีในการกลับไปด้านหลังง่ายๆ กับการเสียบอลในจังหวะที่ผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง

เพราะตอนที่คุณวิเคราะห์เรอัล มาดริด คุณภาพตามธรรมชาติทั้งหมดที่พวกเขามี หลายๆ อย่างทั้งการสลับฝั่ง และเร่งความเร็ว (และ) จ่ายบอลตัดหลัง พวกเขามีสามกองกลางที่ดีที่สุดในโลก (ที่) ชัดเจนว่าเล่นด้วยกันมาจนรู้สึกเหมือนจะ 20 ปี

ถ้าพวกเขาแย่งบอลได้หลังจากนั้นโมดริช และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโคร และกาเซมิโร่ พวกเขาวางบอลไปตรงนั้น และหลังจากนั้นคุณจะตกอยู่ภายใต้ความกดดัน และคุรไม่รู้ว่าศูนย์หน้าอยู่ตรงไหน เพราะว่าพวกเขาวิ่งไปรอบๆ ความพลาดเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้

นั่นไม่ใช่ปัญหาของผมในเกม เพราะว่าเรื่องอะไรแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับเรอัล มาดริด แต่ถ้าคุณแค่เสียบอลลูกหนึ่งมันก็เกิดขึ้นได้ แต่เราเสียบอลมากเกินไป

นั่นคือเรื่องราวของผม และถ้าเราอยากจะเข้ารอบรองชนะเลิศ และมันโอเค และยุติธรรมดี คุณต้องคู่ควรกับมันด้วยฟอร์มการเล่นที่คุณใส่ไปในสนาม และคืนนี้เราไม่ดีพอที่จะชนะเกมนี้ ข่าวดีเดียวคือมีอีกเกมแต่มันไม่ใช่ว่าเราจะได้เปรียบในตอนนี้ แน่นอนว่าเราตกอยู่ภายใต้ความกดดัน และเราต้องแสดงให้เห็นว่าเราสามารถรับมือกับเรื่องนี้

การจัดการคว้าท้าทายในการไล่ล่าท็อป 4 ในพรีเมียร์ลีก และพยายามคัมแบ็กผ่านทะลุเข้ารอบ…

เราไม่สามารถจู้จี้จุกจิกกับเรื่องนี้ได้ เราต้องเดินหน้าเพื่อทุกอย่าง มันไม่ใช่ราวกับว่าตอนนี้เราต้องตัดสินใจหลังจเกมว่าไม่มีทางแล้วอีกต่อไปในแชมเปียนส์ลีกสำหรับเรา ในพรีเมียร์ลีกเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันในทุกสัปดาห์ เราต้องสู้ไปจนจบ และเราจะทำ

คืนนี้นี่คือผลการแข่งขันที่ดีจริงๆ สำหรับเรอัล มาดริด และมันไม่ใช่เรื่องที่เราจะได้เปรียบอะไรแบบนั้น แต่กับแต่ละวัน และแต่ละนาทีที่ผ่านมาจนถึงเกมหน้า 3-1 จะไม่ดีอีกต่อไปสำหรับเรา และไม่แย่อีกต่อไปสำหรับเรา เพราะแน่นอนว่าตรงนี้ยังมีโอกาส

แต่เราต้องเล่นฟุตบอลให้ดีกว่านี้ (และ) เราไม่สามารถเล่นได้อย่างคืนนี้ ยกตัวอย่างเช่นสองสามปีก่อนตอนที่เราเล่นกับบาร์เซโลนา และแพ้ 0-3 เราเล่นเกมนั้นได้อย่างสุดยอด

ความแตกต่างอย่างมาก และคืนนี้เราทำไม่ได้ แต่เราสามารถเล่นได้ดีกว่านี้ และเราสามารถสร้างความยุ่งยากมากกว่านี้ค่ำคืนนี้สำหรับใครที่จะเจอกับเกม และนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำให้แน่ใจในสัปดาห์หน้า ตอนนี้เราต้องพักฟื้นเป็นอันดับแรก และหลังจากนั้นมีสมาธิในเกมกับแอสตัน วิลลา ซึ่งเป็นเกมที่สำคัญมากสำหรับเราไม่เพียงเพราะว่าผลการแข่งขันระยะหลังของเรา หรือในฤดูกาลนี้กับพวกเขา

แผนการเล่นของลิเวอร์พูลในค่ำคืนนี้

มันเป็นอย่างนี้ตอนที่คุณแพ้ คุณจะต้องเจอกับคำวิจารณ์ทุกอย่าง และผมไม่มีปัญหากับเรื่องนี้ ผมเห็นจังหวะเพรสซิ่งดีๆ หลายจังหวะถ้าพูดตามตรง

คุณรู้ว่าตอนที่เรอัล มาดริด ถูกบีบให้เล่นบอลยาวด้วยการพักอกของเซนเตอร์ฮาล์ฟของเราโดยไม่มีศูนย์หน้าอยู่ใกล้ๆ มันเป็นสถานการณ์ที่ดี คุณไม่สามารถแย่งบอลเหล่านี้ได้ตลอดแบบที่คุณอยากจะแย่งมัน ปัญหาในเรื่องนี้คือเราเสียบอลง่ายเกินไป

สำหรับเกมที่ดีจริงๆ คุณจะเรียกความรู้สึกดีๆ ได้ที่ละขั้นๆและเราไม่เคยมีมันในครึ่งแรก มันไม่ได้รู้สึกดีจริงๆ สำหรับเรา ผมไม่คิดว่าเรายิงเข้ากรอบเลยในครึ่งแรก ซึ่งไม่ใช่สัญญาณที่ดีในเกมฟุตบอล และนั่นคือปัญหาที่เราผ่านไปไม่ได้

พักครึ่งสำคัญมาก การได้เบรก ได้โอกาสที่จะเริ่มต้นใหม่ นั่นคือสิ่งที่เราพยายามจะทำ เราทำประตูนี้ได้ และเราดีขึ้นในเกม ดีขึ้นมากในเกม

เราไม่ได้เหนือกว่า หรืออะไรแบบนั้น แต่เราเล่นได้ดีขึ้นมากในเกม และน่าจะทำประตูที่สองได้ และนั่นจะยอดมาำหสรัเบรา มันจะไม่ได้ทำให้ครึ่งเวลาแรกดีขึ้น แต่มันทำให้ผลการแข่งขันดีขึ้น นั่นคือสถานการณ์ในตอนนี้

กับปัญหาทุกอย่างที่เราเจอในค่ำคืนนี้ เรอัล มาดริด ต้องยิงได้อย่างน้อยหนึ่งประตูจากจังหวะที่เราปล่อยให้กับพวกเขา และประตูอื่นๆ ด้วยก็มาจากความผิดพลาดของเราเช่นกัน นั่นคือสถานการณ์ และถ้าเราไม่พลาดจังหวะเหล่านี้ และถ้าเราเล่นได้ดีขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างเราสามารถทำได้ หลังจากนั้นมันจะกลายเป็นเกมใหม่ และเราจะรอดูว่าผลการแข่งขันจะออกมาอย่างไรหลังจากนั้น

การกลับไปเล่นในแอนฟิลด์โดยไม่มีกองเชียร์คอยหนุนหลัง

แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง แตกต่างไปทุกอย่าง ถ้าคุณอยากจะได้รับความทรงจำที่น่าตื่นเต้นบางอย่างแล้วคุณต้องย้อนกลับไปดูเกมกับบาร์เซโลนา และ 80 เปอร์เซ็นต์ของเกมนั้นเป็นเรื่องของบรรยากาศในสนาม ซึ่งใช่ เราต้องทำมันโดยไม่มีเรื่องนี้

แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ผมจะนั่งลงตรงนี้ และคิดว่า ‘คัมแบ็กคือเรื่องของเรา เราทำได้ทุกครั้ง’ เราทำได้เป็นครั้งเป็นคราว แต่เรามักจะมีกองเชียร์ในสเตเดียม เราไม่มีมันในครั้งนี้ ซึ่งผมไม่รู้ว่าเราจะทำได้หรือไม่ แต่ผมสัญญากับคุรได้ว่าเราจะลองทำมัน

เด็กๆ ต้องการมัน แต่วันนี้ในครึ่งเวลาแรกเราไม่สามารถทำได้ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม และเราทำไม่ได้ ซึ่งคั่นคือสิ่งที่เราต้องค้นหา เปลี่ยนแปลงมัน และหลังจากนั้นไปต่ออีกครั้ง มันต้องเป็นงานยุ่งยากสำหรับเรอัล มาดริด ที่แอนฟิลด์ไม่ว่าจะมี หรือไม่มีกองเชียร์

ค่ำคืนนี้มันแปลกจริงๆ มันยากจริงๆ สถานการณ์แตกต่างออกไปกับสเตเดียม แต่แอนฟิลด์อย่างน้อยเป็นสเตเดยมที่ใช่ และมันจะดีสำหรับเรา