พรีเมียร์ลีกได้ออกแถลงการณ์ดังต่อไปนี้ ก่อนการบอยค็อตต์โซเซียล มีเดีย โดยสโมสรต่างๆ ในสุดสัปดาห์นี้จะเริ่มขึ้น

บริษัทโซเซียลมีเดียต่างๆ ต้องลงมือทำอะไรมากกว่านี้ ในการหยุดการละเมิดทางออนไลน์ และนั่นคือเหตุผลว่า ทำไมสุดสัปดาห์นี้พรีเมียร์ลีก และสโมสรของเราจะเข้าร่วมกับลีกอื่นๆ รวมทั้งหน่วยงานที่กำกับดูแล และองค์กรต่างๆ ในวงการฟุตบอลอังกฤษ และกีฬาในวงกว้าง เพื่อบอยค็อตต์ โซเซียล มีเดีย และเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

พรีเมียร์ลีก และสโมสรของเราจะระงับบัญชีเฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ และอินสตาแกรม ทั้งหมด ตั้งแต่เวลา 15.00 น.ของวันศุกร์ที่ 30 เมษายน จนถึงเวลา 23.59 น. ของวันที่ 3 พฤษภาคม (ตามเวลาประเทศอังกฤษ) ลีกยังจะหยุดการแพร่ภาพทางช่องยูทูประหว่างการบอยค็อตต์

ทำไมเราต้องบอยค็อตต์โซเซียล มีเดีย?

เราต้องการให้บริษัทโซเซียล มีเดีย ทำอะไรมากกว่านี้ในการป้องกันการละเมิดทางช่องทางออนไลน์ ที่นักเตะ และคนอื่นๆ มากมาย ได้รับทั่วโลก ซึ่งผู้กระทำผิดไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยในชีวิตจริง

เรารู้ว่าการบอยค็อตต์เพียงลำพังจะไม่มีผลอะไรกับเรื่องนี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องดำเนินการในเชิงรุกเพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง เราจะไม่หยุดกระตุ้นบริษัทโซเซียล มีเดีย จนกว่าการละเมิดทางออนไลน์จะถูกลบไปจากเกมของเรา และสังคมในวงกว้าง

การเปลี่ยนแปลงอะไรที่เราอยากจะเห็น?

เราเรียกร้องการดำเนินการที่สำคัญจากบริษัทโซเซีย มีเดีย ดังนี้:

  • มาตรฐานป้องกันคัดกรอง และปิดกั้นเพื่อหยุดยั้งการส่งข้อความการละเมิดการเลือกปฏิบัติ หรือปิดกั้นการมองเห็น
  • ความรับผิดชอบเพื่อความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม และการปกป้องผู้ใช้งาน ด้วยการตรวจสอบที่มีประสิทธิภาพ
  • ตรวจสอบผลที่ตามมาในชีวิตจริงสำหรับการเลือกปฏิบัติทางออนไลน์ : แบนผู้กระทำผิด, หยุดยั้งการลงทะเบียนบัญชีใหม่ และสนับสนุนการบังคับใช้ทางกฎหมาย
  • การขึ้นข้อความเตือนหากผู้ใช้เขียนข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อกำหนดในการป้อนข้อมูลส่วนบุคคลหากต้องการส่งข้อความ
  • แพลตฟอร์มที่มีมาตรฐานที่แข็งแกร่ง โปร่งใส และรวดเร็ว หากมีการส่ง หรือโพสต์เนื้อหาที่ไม่เหมาะสม
  • รายงานเฉพาะเกี่ยวกับงานที่บริษัทโซเซียล มีเดีย กำลังทำททั้งงภายใน และภายนอก เพื่อกำจัดการเลือกปฏิบัติจากการละเมิดบนแพลตฟอร์ม

นอกจากนี้เรายังเรียกร้องให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรตรวจสอบให้แน่ใจว่า Online Safety Bill จะออกกฎหมายที่เข้มงวดเพื่อให้บริษัทโซเซียล มีเดีย รับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มของตนมากขึ้น

ริชาร์ด มาสเตอร์ส ผู้บริหารระดับสูงของพรีเมียร์ลีกกล่าวว่า “พฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติในรูปแบบใดๆ เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และเป็นการละเมิดทที่น่ากลัวจากที่เราเห็นผู้เล่นได้รับจากแพลตฟอร์มโซเซียล มีเดีย ซึ่งไม่ควรปล่อยให้ดำเนินต่อไป”

“พรีเมียร์ลีก และสโมสรของเรายืดหยัดเคียงข้างวงการฟุตบอล ในการจัดเตรียมการบอยค็อตต์ในครั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วนที่บริษัทโซเซียล มีเดีย ต้องดำเนินการมากขึ้น ในการขจัดความเกลียดชังด้านเชื้อชาติ เราจะไม่หยุดท้าทายบริษัทโซเซียล มีเดยีย และต้องการเห็นการปรับปรุงนโยบาล และกระบวนการ เพื่อจัดการกับการละเมิดทางออนไลน์บนแพลตฟอร์มของพวกเขา”

“ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีความหลากหลาย ซึ่งรวบรวมชุมชน และวัฒนธรรมจากทุกภูมิหลัง และความหลากหลายนี้ทำให้เกิดการแข่งขันที่แข็งแกร่งขึ้น No Room For Racism แสดงถึงงานทั้งหมดที่เราทำเพื่อส่งเสิรมความเท่าเทียมกัน ความหลากหลาย และการยอมรับ และการจัดการกับการเลือกปฏิบัติ”

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา พรีเมียร์ลีกได้เปิดตัวแผนปฏิบัติการ No Room For Racism โดยสรุปข้อผูกผันต่างๆ ที่มุ่งสร้างโอกาส และความก้าวหน้าในอาชีพการงานของคนผิวดำ คนเอเชีย และชนกลุ่มน้อยอื่นๆ ในวงการฟุตบอล และการดำเนินการเพื่อขจัดอคติทางเชื้อชาติ

ความมุ่งมั่นที่สร้างขึ้นจากการดำเนินการที่มีอยู่ของพรีเมียร์ลีก และสโมสรต่างๆ เพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมความหลากหลาย และการยอมรับ

ผ่านระบบการตรวจสอบ และรายงานออนไลน์ของพรีเมียร์ลีก เราสนับสนุนผู้เล่น ผู้จัดการทีม และครอบครรัวของพวกเขาที่ประสบกาบการละเมิดทางออนไลน์เกี่ยวกับการเลือกปฏิบัติ เราจะดำเนินการทันทีในทุกกรณี และตรวจสอบทุกรายการที่ได้รับ พร้อมดำเนินการทางกฎหมายเท่าที่เป็นไปได้

คุณจะช่วยเหลือเราได้อย่างไร?

ด้วยการรายงานการละเมิดจากการเลือกปฏิบัติ คุณสามารถช่วยหยุดพฤติกรรมที่ไม่สามารถยอมรับได้นี้ และปกป้องไม่ให้บุคคลอื่นเห็นเนื้อหาที่เป็นการละเมิด ทุกคนต้องช่วยกันรับผิดชอบในการรายงานความเกลียดชังเหล่านี้ทางออนไลน์

หากคุณเคยมีประสบการณ์ หรือพบเห็นการเลือกปฏิบัติทางโซเซียล มีเดีย คุณสามารถรายงานผ่านแบบฟอร์มออนไลน์ของ Kick It Out หรือแอพรายงานที่มีให้บริการทั้งบน iOS และ Android นอกจากนี้คุณควรแจ้งให้กับตำรวจในพื้นที่ของคุณทราบด้วยการยื่นรายงานที่นี่

หากคุณเห็นโพสต์บนโซเซียล มีเดียที่คุณเชื่อว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ คุณสามารถรายงานไปยังเว็บไซต์ และแพลตฟอร์มที่โพสต์ได้ พวกเขาจะมีคนที่ตรวจสอบรายงานของคุณ และตัดสินใจว่าจะทำอย่างไน คลิกที่ลิงก์ด้านล่างเพื่อดูวิธีรายงานเกี่ยวกับแต่ละรายการ

แพลตฟอร์ม: Facebook | Instagram | Twitter | TikTok | Snapchat | YouTube