ลิเวอร์พูลจบฤดูกาลพรีเมียร์ลีกโดยคว้าชัยชนะเหนือคริสตัล พาเลซ 2-0

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, รีห์ วิลเลียมส์, ฟิลลิปส์, โรเบิร์ตสัน, ฟาบินโญ่, ไวจ์นัลดุม, ติอาโก้, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: อาเดรียน, มิลเนอร์, เฮนเดอร์สัน, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โจนส์, โชต้า, ซิมิกาส, ชากิรี, โอริกี และเนโก้ วิลเลียมส์

 

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที 36 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0
  • นาที 74 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 38 ในพรีเมียร์ลีก โดยรับการมาเยือนของคริสตัล พาเลซ

นาที 4 อลิสสันได้เซฟตั้งแต่ต้นเกมหลังจากซาฮายิงทางฝั่งซ้ายของเขตโทษ ลิเวอร์พูลเสียฟรีคิก ก่อนที่อลิสสันจะต้องออกแรงป้องกันอีกครั้ง

ลิเวอร์พูลได้ลุ้นในจังหวะหลุดขึ้นนหน้าของเทรนต์ในนาที 8 แต่เปิดไปติด

ลิเวอร์พูลต้องเล่นเกมรับถึงสองจังหวะติดต่อกัน โดยนาที 13 ทาวน์เซนด์ยิงไกล ตรงตัวอลิสสัน แต่ในจังหวะต่อมา แนตถูกฉกบอลไปก่อนที่ทาวน์เซนดฺจะยิงอีกครั้ง แต่ไม่เข้ากรอบ

เทรนต์ได้ยิงฟรีคิกในนาที 18 แต่ข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย ก่อนที่ในนาที 19 ซาลาห์ได้ตวัด แต่ยังติดกองหลัง ลิเวอร์พูลได้เตะมุม รีห์หลุดขึ้นมาโหม่งแบบไร้ตัวประกบแต่ข้ามคาน และในนาที 21 ที่ซาลาห์ยังซัดข้ามคาน

นาที 26 โรเบิร์ตสันขึ้นมาลองส่องทำประตู ลูกไม่ตรงกรอบ และเกมหยุดชั่วคราวหลังแนตมีแผลแตกที่คิ้วในนาที 30 ก่อนที่ในนาที 32 มาเน่ได้บรรจงยืนปั่นบอลไปที่เสาไกล ลูกเหินข้ามคาน  

นาที 36 ซาดิโอ มาเน่ ยิงบอลที่หลุดมาเข้าทางเขาหลังจากเตะมุม ทำให้ลิเวอร์พูลออกนำ 1-0  

นาที 45 เฟอร์มิโน่ซัดบอลจากนอกเขตโทษ ลูกไม่ตรงกรอบ ก่อนกรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 5 นาที

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลลงเล่นในครึ่งหลัง   โดยมี 45 นาที ให้สู้ต่อ

ลิเวอร์พูลมาได้จังหวะใกล้เคียงในนาที 53 เฟอร์มิโน่ได้โขก โดนปัดออกไป เตะมุมถัดมาการโหม่งของวิลเลี่ยมส์ไปติดบล็อค ยังไม่ได้ประตูเพิ่ม และในนาที 55 หลังโรเบิร์ตสันได้ป้ายบอลเข้ากรอบ แต่โมเข้ามาไม่ทัน

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูในนาที 74 ลิเวอร์พูลนำห่าง 2-0 ได้ประตูจากการยิงไปที่เสาแรกของ มาเน่!

นาที 77 มิลเนอร์ลงมาแทนไวจ์นัลดุม ก่อนที่นาที 84 ซาลาห์ได้ยิง แฉลบเกมรับพาเลซ เฟอร์มิโน่จะตามไปซ้ำแต่ไม่ได้

นาที 90+2 ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวอีก 2 คน โดยโชต้า และอ็อกซ์ ลงมาแทนเฟอร์มิโน่ และโรเบิร์ตสัน แม้ลิเวอร์พูลไม่สามารถทำประตูได้เพิ่ม แต่ก็เพียงพอต่อการยึดอันดับ 3 พร้อมไปเล่นแชมเปียนส์ลีก