แอนดี โรเบิร์ตสัน เซ็นสัญญาระยะยาวฉบับใหม่กับสโมสรลิเวอร์พูล

แบ็กซ้ายรายนี้ตกลงเซ็นสัญญาที่แอกซ่า เทรนนิง เซ็นเตอร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และเขากล่าวด้วยความยินดีในเรื่องนี้

“ชัดเจนว่าเมื่อการเจรจาเริ่มต้นขึ้น และมันดูเหมือนว่าอนาคตของผมจะอยู่ที่นี่ยาวนานกว่าที่เป็นอยู่ ผมคิดว่ามันไม่ใช่ความลับอะไรที่ผมมีความสุขกับสโมสรแห่งนี้” โรเบิร์ตสันกล่าวกับ Liverpoolfc.com

“ผมอยากจะอยู่กับสโมสรแห่งนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และการได้ขยายเวลาที่ผมจะอยู่ต่อไป มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขเสมอสำหรับผม สำหรับครอบครัวของผม เราปรับตัวเข้ากับที่นี่ เรารักทุกอย่างเกี่ยวกับสโมสรฟุตบอลแห่งนี้ และผมยินดีที่การเดินทางจะดำเนินต่อไป”

นักเตะวัย 27 ปี ย้ายจากฮัลล์ ซิตี้มาอยู่หงส์แดงในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 ที่เขากลายเป็นแกนหลักจากการลงเล่น 177 เกมให้กับสโมสรจนถึงเวลานี้ รวมถึงคว้าเหรียญแชมป์พรีเมียร์ลีก, แชมเปียนส์ลีก, ฟีฟา คลับ เวิลด์ คัพ และยูฟา ซูเปอร์ คัพ ร่วมกับสโมสร

โดยเขากลายเป็นนักเตะรายที่ห้าถัดจากเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ฟาบินโญ่, อลิสสัน เบ็คเกอร์ และเวอร์จิล ฟาน ไดจ์คที่เพิ่งขยายสัญญาออกไปเมื่อไม่นานมานี้

โรเบิร์ตสันกล่าวต่อไปว่า “เมื่อคุณเซ็นสัญญากับสโมสรที่ยิ่งใหญ่ ผมยังคงจดจำได้เหมือนกับมันเพิ่งเกิดเมื่อวานนี้ตอนที่ผมเซ็นสัญญาที่นี่ และแน่นอนว่าคุณมีความทะเยอทะยานที่จะกลายเป็นนักเตะหลักให้กับลิเวอร์พูล คว้าถ้วยรางวัลมากมายกับสโมสรแห่งนี้ ทำทุกสิ่งทุกอย่าง แต่วิธีที่มันออกมานั้นยอดเยี่ยมมาก”

“แต่นับจากช่วงเริ่มต้นอาชีพ ผมมักจะมีหนึ่งในเรื่องที่รอคอยเสมอ ตั้งแต่ในอดีต มันคือเรื่องที่ผมสามารถนั่งกับคนที่อยากจะฟังผมตอนที่ผมแขวนสตั๊ด และเลิกเล่น และผมสามารถบอกเล่าให้พวกเขาฟังถึงเรื่องราวถึงสิ่งที่เราได้ทำ”

“แต่แน่นอนว่าผมเป็นเพียงคนเดียว และผมรู้ว่ามีผู้คนอีกมากมายในสนามซ้อมแห่งนี้ที่กำลังรอคอย และผู้คนที่ (ต้องการ)สร้างประวัติศาสตร์ เรื่องราวที่มากขึ้น หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนอื่นๆ จะเบื่อฟังผมตอนที่ผมเลิก และผมสามารถนั่งอยู่หลายๆ ชั่วโมง และเล่าให้พวกเขาฟังเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด!”

“พวกเขากำลังสร้างมันขึ้น แต่ผมอยากจะทำมันมากขึ้น และแน่นอนหวังว่าจะเริ่มตั้งแต่ฤดูกาลนี้ เราอยากจะประสบความสำเร็จมากขึ้น หวังว่าเราจะคว้าถ้วยรางวัลมากขึ้น นำความสุขมามอบให้กับสโมสรแห่งนี้มากขึ้น”

“ทางเดียวที่จะทำเรื่องนี้คือทำงานหนัก และทำในสิ่งต่างๆ เหมือนกับที่เราทำมานับจากวันแรก”