ลิเวอร์พูลทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อบุกไปถล่มวัตฟอร์ต 5-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก

รายชื่อนักเตะ  

11 ตัวจริง: เคลเลเฮอร์, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, เฮนเดอร์สัน, มิลเนอร์, เกอิต้า, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: อาเดรียน, โกนาเต้, โกเมซ, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, มินามิโนะ, โชต้า, ซิมิกาส, โอริกี และวิลเลียมส์

จังหวะที่สำคัญ

  • นาที 9 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-1
  • นาที 37 เฟอร์มิโน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-2
  • นาที 52 เฟอร์มิโน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-3
  • นาที 54 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-4
  • นาที 90+1 เฟอร์มิโน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-5

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 8 ในพรีเมียร์ลีก โดยเป็นการไปเยือนวัตฟอร์ด ที่วิคาเรจ โร้ด

เพียง 60 วินาที ลิเวอร์พูลได้โอกาสยิงชนคานโดยซาลาห์ แต่เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน จากนั้นลิเวอร์พูลได้เตะมุมสองครั้งแต่ยังเจาะเข้าไปทำประตูไม่ได้

แต่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 หลังซาลาห์แตะบอลมาให้ด้วยน้ำหนักพอดีก่อนที่มาเน่จะวิ่งฉีกกองหลังวัตฟอร์ตและยิงเข้าไปอย่างสวยงามในนาที 9

 ซาลาห์ได้โอกาสทำประตูในนาที 12 แต่ฟอสเตอร์ยังป้องกันเอาไว้ จากนั้นในนาที 20 เทรนต์จ่ายบอลให้ซาลาห์ขึ้นไปลุ้นทำประตูแต่ฟอสเตอร์ออกมาขวางได้เร็ว

ลิเวอร์พูลเกือบเสียประตูในนาที 26 โดยเคลเลเฮอร์ได้ออกแรงป้องกันเป็นครั้งแรกของเกมในจังหวะการพาบอลมาจบสกอร์ของคูโช่

ลิเวอร์พูลกลับมาเป็นฝ่ายบุก และได้เตะมุมในนาที 30 แต่ยังไม่วามารถสร้างจังหวะที่ใกล้เคียงได้

นาที 37 โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ ยิงจ่อๆบอลตบเข้ากลางของมิลเนอร์, เป็นประตูให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 2-0!

จากนั้นอีกสามนาที เกอิต้าได้ยิง แต่แฉลบออกหลัง

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกแค่นาทีเดียว และไม่มีการทำประตูเพิ่มระหว่างนั้น จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลจึงนำอยู่ 2 ประตู
 

เกมในครึ่งหลัง

เริ่มครึ่งหลังได้ไม่นาน ลิเวอร์พูลได้บุกแบบใกล้เคียง โดยนาที 49 ซาลาห์ปั่นโค้งบอลกำลังจะเสียบใต้คาน แต่ฟอสเตอร์ไม่ยอม พุ่งปัดออกไปได้ นาที 52 โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่ พุ่งเข้าไปซ้ำจังหวะที่ฟอสเตอร์รับบอลสกัดคืนหลังไม่อยู่ เป็นประตูให้ลิเวอร์พูลหนีไปเป็น 3-0!

จากนั้นลิเวอร์พูลขึ้นนำอีกครั้งในนาที 54 เมื่อซาลาห์ หลอกกองหลังหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยซ้ายเสียบเสาไกลเข้าไปให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 4 ประตู

นาที 56 คุกก้ายิงไกล เคลเลเฮอร์รับเข้าซอง ไร้ปัญหา

นาที 64 เทรนต์ยิงไปแฉลบโรสบอลเกือบลอยเข้าประตู ก่อนที่นาที 65 ลิเวอร์พูลพักเทรนต์กับโรเบิร์ตสัน ส่งซิมิกาสกับอ็อกซ์ลงมาแทน

นาที 72 มาเน่วิ่งเข้ามาแปทแยงสวนทางวิ่งของฟอสเตอร์แต่บอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ลิเวอร์พูลเปลี่ยนตัวอีกครั้งใน นาที 82 เนโก วิลเลี่ยมส์ ลงมาประจำการทางกราบขวาแทนที่ของมิลเนอร์

เจ้าบ้านตอบโต้บ้างในนาที 84 ซาร์ได้โอกาสยิง ก่อนเคลเลเฮอร์พุ่งปัดออกไปอย่างไรก็ตามมีธงขึ้นมาว่าล้ำหน้า

แต่หลังจากนั้นเฟอร์มิโน่มาทำแฮตริกได้จากประตูที่ 3 ของเขาในเกม ช่วยให้ลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มกลับเมอร์ซีย์ไซด์