ลิเวอร์พูลยังคงโชว์ฟอร์มร้อนแรงพร้อมสถิติไม่แพ้ใครในพรีเมียร์ลีกต่อไป หลังจากบุกไปถล่มแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 5-0

รายชื่อนักเตะ  

11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกนาเต้, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, เฮนเดอร์สัน, มิลเนอร์, เกอิต้า, โชต้า, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: อาเดรียน, มาเน่, โกเมซ, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, โจนส์, มินามิโนะ, ซิมิกาส, โอริกี และมาติป

จังหวะที่สำคัญ

  • นาที 5 เกอิต้ายิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-1
  • นาที 13 โชต้ายิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-2
  • นาที 38 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-3
  • นาที 45+3 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-4
  • นาที 50 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 0-5
     

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 9 ในพรีเมียร์ลีกด้วยการไปเยือนแมนฯ ยูไนเต็ด ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

เมื่อเริ่มเกม เจ้าบ้านได้โอกาสก่อนในนาที 4 เมื่อแฟร์นานด์สได้บอลก่อนยิงไม่เข้ากรอบ

 แต่เพียงนาทีเดียวหลังจากนั้น เกอิต้า หลุดไปยิงสวนตัวเด เคอาเข้าไปให้ลิเวอร์พูลบุกนำ 1-0!

หลังจากได้ประตูแรก ลิเวอร์พูลพยายามทำประตูเพิ่ม แต่เด เคอา ป้องกันจังหวะยิงของเฟอร์มิโน่ในนาที 7 จากนั้นในนาที 9 ซาลาห์ขึ้นมาทางขวาก่อนจะพาบอลตัดเข้ากลางแล้วยิง ลูกไม่เข้ากรอบ

แต่ลิเวอร์พูลมาได้ประตูที่สองของเกมในนาที 13 ดิโอโก โชต้า ชาร์จจ่อๆเข้าไปให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 2-0!

จากนั้นในนาที 26 ลิเวอร์พูลต้องเปลี่ยนตัวคนแรก เมื่อมิลเนอร์เล่นต่อไม่ไหว โจนส์ลงมาแทน

นาที 31 ซาลาห์หลุดไปยิงทางฝั่งขวา เด เคอาออกมาป้องกันได้อีกครั้ง

นาที 38 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ บวกประตูที่ 3 ให้ลิเวอร์พูลนำห่างจากการวิ่งเข้าไปยิงเปลี่ยนทางบอลของเทรนต์

ทดเจ็บครึ่งแรก 3 นาที

ก่อนหมดครึ่งแรก เกมที่ดูเหมือนจะจบลงที่สามประตู แต่ในนาที 45+3 โม ซาลาห์ ทำประตูที่ 2 ของเขาทำให้ลิเวอร์พูลนำห่าง 4-0 ด้วยการยิงในเขตโทษแบบไม่จับ

เกมในครึ่งหลัง

เริ่มครึ่งหลังได้เพีงแค่ 5 นาที ซาลาห์ หลุดไปซัดแฮตทริกให้ลิเวอร์พูลนำ 5-0!

จากนั้นในนาที 52 คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำประตูให้แมนยูไล่มา 1-5 แต่กรรมการเช็ค VAR และให้เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน

แม้จะนำห่าง แต่ลิเวอร์พูลยังคงบุกอย่างต่อเนื่อง โดยในนาที 56 ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิก ซาลาห์ยิงติดกำแพง แต่จากนั้นลิเวอร์พูลยังได้เตะมุม

ทีมเจ้าบ้านต้องเหลือเพียง 10 คน เมื่อในนาที 60 ป็อกบารับใบแดงหลังจากเข้าบอลหนักใส่เกอิต้า

จากนั้น นาที 63 ลิเวอร์พูลต้องเอาอ็อกซ์มาแทนเกอิต้าที่เจ็บ

ในขณะที่เกมช้าลง ในนาที 71 เทรนต์ได้ยิงเต็มแรง เด เคอาต้องออกแรงพุ่งเซฟ และนาที 76 มาเน่ได้ลงสนามมาแทนเฟอร์มิโน่

จบเกม ลิเวอร์พูลได้ชัยชนะอันสวยหรู กับฟอร์มสุดยอด!