Match Report: ลิเวอร์พูลดวลจุดโทษชนะเลสเตอร์ พลิกเข้ารอบรองฯ คาราบาว คัพ

รายชื่อนักเตะ  

11 ตัวจริง: เคลเลเฮอร์, แบรดลีย์, คูเมติโอ, โกเมซ, ซิมิกาส, มอร์ตัน, เฮนเดอร์สัน, อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, วิลเลียมส์, มินามิโนะ และเฟอร์มิโน่

สำรอง: ปิตาลูก้า, โกนาเต้, มิลเนอร์, เกอิต้า, โชต้า, กอร์ดอน, เบ็ค, ควอนซาห์ และโวลต์แมน  

จังหวะที่สำคัญ

• นาที  9 วาร์ดียิงให้เลสเตอร์นำ 0-1
• นาที  13 วาร์ดียิงให้เลสเตอร์นำ 0-2
• นาที  18 อ็อกซ์ยิงให้ลิเวอร์พูลตามมา 1-2
• นาที  34 แมดดิสันยิงให้เลสเตอร์นำ 1-3
• นาที 68 โชต้ายิงให้ลิเวอร์พูลตามมา 2-3
• นาที 90+4 มินามิโนะตีเสมอให้ลิเวอร์พูล 3-3

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมคาราบาว คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย ด้วยการรับการมาเยือนของเลสเตอร์ ซิตี้ ที่แอนฟิลด์

แต่เจ้าบ้านถูกนำไปก่อน 2-0 ภายใน 13 นาที โดยวาร์ดี ในนาที 9 และนาที 13

หลังจากโดนนำเร็ว ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีคืนจากอ็อกซ์ ในนาที 18 เมื่อได้โอกาสซัดเต็มข้อหน้าเขตโทษ ให้ลิเวอร์พูลไล่มา 1-2

 จากนั้นนาที 26 เคลเลเฮอร์คว้าบอลที่แมดดิสันจ่ายจะให้วาร์ดี้แต่แฉลบโกเมซลอยเข้ามาหน้าประตูเอาไว้ได้

ลิเวอร์พูลได้บุกบ้างในนาที 29 มินามิโนะพาบอลเข้าเขตโทษ และกำลังจะได้ยิงแต่ถูกแนวรับทีมเยือนรุมแย่งก่อน

แต่ในนาที 34 เจมส์ แมดดิสัน ทำประตูให้เลสเตอร์นำ 3-1

นาที 35 มินามิโนะเข้ามายิงบอลของเฟอร์มิโน่ ลูกข้ามคานออกไป

ลิเวอร์พูลรอดเสียประตูหวุดหวิดในนาที 37 วาร์ดี้หลุดไปดวลกับเคลเลเฮอร์ก่อนจะยิงไปชนเสากระดอนออกมา

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก 4 นาที

เกมในครึ่งหลัง

เริ่มครึ่งหลังในนาที 46 มิลเนอร์, โชต้า และโกนาเต้ลงมาเล่นที่ของมอร์ตัน, แบรดลี่ย์ และคูเมติโอ

ลิเวอร์พูลยังต้องตั้งรับ ในนาที 52 เคลเลเฮอร์พุ่งสุดตัวเพื่อปัดการยิงของดรูว์สบิวรี่-ฮอลล์ออกไปได้อย่างหวุดหวิด  

เจ้าบ้านได้โอกาส ในนาที 57 เฟอร์มิโน่มีจังหวะยิงในเขตโทษ แต่โซยุนชูพุ่งเข้ามาบล็อคได้เร็ว

ก่อนเกมครบ 1 ชั่วโมง คล็อปป์เปลี่ยนเกอิต้าลงมาแทนที่ของเฮนเดอร์สัน

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูไล่ตามมาในนาที 68 โชต้า ยิงยัดสวนตัวชไมเคิ่ลเข้าไปให้ลิเวอร์พูลไล่มา 2-3!

นาที 74 แมดดิสันรับใบเหลืองจากการฟาล์วใส่เกอิต้า นาที 75 อ็อกซ์วิ่งเข้ามาซัดจากริมกรอบเขตโทษ บอลเหินข้ามคาน

นาที 78 เนโก้ยิงยัดไปเสาแรก บอลเข้าข้างตาข่าย เฟอร์มิโน่พาบอลหลุดไปกำลังจะมีโอกาสได้จบสกอร์แต่เป็นเอ็นดิดี้ที่ขวางเอาไว้ก่อน

นาที 80 ลิเวอร์พูลส่งเบ็คลงมาแทนซิมิกาส

นาที 81 โชต้าพุ่งโขกเปลี่ยนทางการยิงของเกอิต้า แต่เป็นชไมเคิ่ลที่ทุบทิ้งออกไปอย่างน่าเหลือเชื่อ

ทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 6 นาที

ลิเวอร์พูลได้โอกาสในนาที 90+2 อ็อกซ์ลองปั่นโค้งตรงกลางหน้าเขตโทษ ลูกข้ามคานออกไป

ก่อนหมดเวลา ในนาที 90+4 ลิเวอร์พูลตามตีเสมอได้สำเร็จจากมินามิโนะ!

จบเกมที่แอนฟิลด์ ต้องดวลจุดโทษตัดสินเพื่อหาผู้ชนะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ

รายชื่อนักเตะยิงจุดโทษ

ลิเวอร์พูล: มิลเนอร์, เฟอร์มิโน่, อ็อกซ์, เกอิต้า, มินามิโนะ (X), โชต้า

เลสเตอร์ ซิตี้: เตเลม็อง, แมดดิสัน, อัลไบรท์ตัน, โธมัส (X), อิเฮนาโช, เบอร์ทรานด์ (X)