เจอร์เกน คล็อปป์ได้สรุปความมุ่งมั่นของลิเวอร์พูลที่จะปิดฉากเส้นทางเอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ อย่างงดงามที่สุดที่เวมบลีย์ ในเกมชิงชนะเลิศครั้งที่สองในฤดูกาลที่สนามแห่งนี้

และการได้ลงพบกับเชลซีอีกครั้ง คล็อปป์ได้พูดคุยเจาะลึกกับ Liverpoolfc.com ในการเจอกับทีมของโธมัส ทูเคิล…

เจอร์เก้น มันรู้สึกเหมือนมีเกมที่ยิ่งใหญ่ทุกๆ สองสามวัน แต่เกมเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศเป็นเรื่องที่พิเศษมาก ซึ่งระดับความคาดหวังที่นี่เป็นอย่างไร?

มีความคาดหวังมากถ้าพูดตามตรง มันเป็นเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศครั้งแรกของเรา แต่เราเล่นคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศมาแล้วสองครั้ง แพ้หนึ่งครั้ง ชนะหนึ่งครั้ง   ดังนั้นเราสัมผัสได้ถึงบรรยากาศนิดหน่อย ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ผมชอบคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศในปีนี้ มันเป็นเกมที่น่าเหลือเชื่อ มันเป็นการพบกับเชลซี และ 120 นาที  บ้ามาก! ดังนั้น ใช่เลย มีเกมใหญ่มากกำลังจะมาถึง และคุณพูดถูก นัดชิงชนะเลิศหลังจากนัดชิงชนะเลิศหลังจากนัดชิงชนะเลิศ แต่เรายังคงสร้างความแตกต่าง นี่คือนัดชิงชนะเลิศที่แท้จริง ไม่มีเกมตามมาหลังจากนั้น ดังนั้นใช่แล้ว เราตั้งหน้าตั้งตารอคอยมัน มันจะเป็นเกมใหญ่

นักเตะหลายคนมากที่ช่วยลิเวอร์พูลเข้าถึงนัดชิงชนะเลิศในครั้งนี้ มันน่าภาคภูมิใจแค่ไหนกับการที่คุณทำทีมชุดนี้ รวมถึงการประเดิมสนามของนักเตะจากอะคาเดมี นั่นมีส่วนช่วยมากแค่ไหน?

รายการ ‘ที่สอง’ อย่างคาราบาว คัพ   ผมชื่นชอบมันมาก และตอนนี้เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศเหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่เราชื่นชอบเกี่ยวกับมันที่สุด ที่เราสามารถพูดได้จริงๆ ว่าเรามาถึงนัดชิงชนะเลิศ และเราได้ใช้ทีมเกือบทั้งหมด และทีมขนาดใหญ่ถ้าคุณต้องการ มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่สำหรับเด็กๆ สำหรับเคด(กอร์ดอน), สำหรับเอลิจาห์ (ดิ๊กสัน-บอนเนอร์), พระเจ้าช่วย! ผมสามารถจดจำใบหน้าของเขาตอนที่เขามา และอะไรทุกอย่างเหล่านี้

 

มันเป็นเรื่องยอดเยี่ยม และเด็กๆ ในทีมชุดใหญ่ พวกเขาจะเห็นตรงกันทุกประการ เมื่อคุณมีการเดินทางแบบนี้มันจะนำคุณมาใกล้ชิดกัน เราทำมันอย่างนี้เสมอ แต่มันไม่ได้ยาวนานอย่างนี้ถ้าพูดตามตรง มันเริ่มเหมือนกับประสบการณ์คล้ายกัน แต่สิ้นสุดเร็วกว่า ดังนั้นปีนี้มันพิเศษจริงๆ และมันเป็นเรื่องใหญ่มาก มันเป็นครั้งแรกของเรา และเราเป็นทีมที่แตกต่างออกไปกว่าที่เรามีในอดีต เด็กเหล่านี้ตอนนี้พร้อมที่จะทุ่มเทเพื่อรายการที่ใหญ่ที่สุด และเอฟเอ คัพเป็นรางวัลใหญ่ ซึ่งเราจะพยายามจะเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด และนำมันกลับบ้าน

 

อีกวันสำคัญในการเดินทางคือชัยชนะในรอบที่สี่เหนือคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ซึ่งเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ของฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ในขณะที่เขากลับมาจากการบาดเจ็บด้วยการทำประตู

จริง จริง จริงมาก คุณจำได้ ผมไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว! (ผมจำได้)เกมล่าสุดที่เราเล่นในเอฟเอ คัพ กับซิตี้ที่เวมบลีย์ แต่ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องสำคัญ มันเป็นเรื่องใหญ่ และตอนนี้ผมยิ่งรู้ว่าเขายิงประตูยังไง มันเป็นเรื่องน่าทึ่งที่เห็นว่าพ่อของเขาแสดงปฏิกิริยาอออกมายังไงบนอัฒจันทร์ ยิ่งใหญ่มาก!

 

ทุกๆ เกมยากมาก เพราะโปรแกรมก็บ้าบอมาก และการลงเล่นเกมเหล่านี้ทั้งหมด เราต้องเปลี่ยนตัว ไม่อย่างนั้นเราจะไม่มีทาง มันไม่ได้เกี่ยวกับคุณภาพส่วนบุคคลที่คุณอาจจะมีในสนาม มันเกี่ยวกับสปิริต และความปรารถนาที่คุณจะสร้างขึ้นในสนามเพื่อต่อสู้กับคู่แข่งที่สำหรับพวกเขาอาจจะเป็นเกมแห่งฤดูกาล ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงโชคดีจริงๆ กับการตัดสินใจที่เราทำก่อนเกม เพราะว่าทีมพร้อมเสมอ พร้อมจริงๆ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยู่ที่นี่

หลังจากเกมนั้นเป็นเกมกับนอริช ซิตี้ และน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่มีความยืดหยุ่น และหลังจากนั้นแมนฯ ซิตี้ ในรอบรองชนะเลิศ การพบกับทีมของเป็บ กวาร์ดิโอล่ามักจะเป็นเหตุการณ์สำคัญเสมอ แต่คุณคุมทีมทำผลงานได้ดีมาก

ใช่แล้ว เราเพิ่งลงเล่นสองวันก่อนหน้านั้นในลีกกับพวกเขา เมื่อคุณรู้ว่าคุณไม่น่าจะทำมันอย่างนี้ มันเป็นเรื่องที่ดีเสมอที่คุณสามารถแสดงให้เห็นทันทีว่าคุณจะทำมันได้อย่างไรตั้งแต่เริ่มต้น และนั่นเป็นวิธีที่เราเริ่มต้นเกมส่วนใหญ่ มันเป็นกมที่ค่อยข้างจะแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก

แต่คุณพูดตัว น็อตติ้งแฮมเป็นตัวอย่าง เป็นเรื่องที่ยากอย่างที่สุด เรารู้มันก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าน็อตติ้งแฮมกำลังฉลุยภายใต้การคุมทีมของสตีฟ คูเปอร์ การลงเล่นฤดูกาลที่สุดยอด อาจจะไม่ได้เริ่มต้นดีมาก แต่หลังจากนั้นตั้งแต่สตีฟอยู่ที่นั่น หลังจากนั้นคุณไปอยู่ระหว่างกลาง ผมไม่รู้กับเกมที่เรามี เรารู้ว่าเราต้องชนะเกมพรีเมียร์ลีก และอะไรแบบนี้ และการไปที่นั่น การเปลี่ยนตัว…

มันเป็นเกมแรกของผมที่ไปเยือนน็อตติ้งแฮม บรรยากาศน่าเหลือเชื่อมาก ซึ่งอะไรทุกอย่างเหล่านี้ มันเป็นเรื่องปกติของเอฟเอ คัพ เกมเยือนในบอลถ้วยเป็นเรื่องยากจริงๆ เพราะว่าผู้คนทำให้มันพิเศษหลายๆ อย่าง กับแฟนบอลทีมเยือนที่เป็นอย่างนั้น มันเข้มข้น และยากเสมอ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงพิเศษมากที่เรามาถึงตรงนี้ กับเกมทั้งหมดที่เด็กๆ ลงเล่นในระหว่างนั้น เรื่องที่เราเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นเรื่องที่พิเศษจริงๆ เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แล้ว แต่แน่นอนว่าเรารู้ว่าอะไรที่เราต้องทำ

คุณผ่านประสบการณ์ที่เวมบลีย์สองครั้งในฤดูกาลนี้ มันรู้สึกยังไงที่เดินออกมาตรงนั้น และเห็นลิเวอร์พูลไปจนไปจนสุดท้ายพร้อมกับธงเชียร์ และบทเพลงทั้งหมด?  คุณจะบรรยายอารมณ์ความรู้สึกเหล่านั้นอย่างไร

ผมเคยพูดมันหลังคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศ มันไม่ได้แตกต่างกับเกมนัดชิงแชมเปียนส์ลีก เมื่อสามปีก่อน ไม่แตกต่าง มันเป็นสีน้ำเงิน และสีแดง ปัง ทั้งสองทีมเดินหน้าหากันและกัน ซึ่งมันง่ายมากที่จะเห็นว่าเรา และคนอื่นๆ อยู่ตรงไหน บรรยากาศยิ่งใหญ่จริงๆ และชัดเจนว่าผมคาดว่ามันจะเหมือนกันอีกครั้ง มันยอดเยี่ยมมาก เวมบลีย์เป็นสเตเดียมที่ยอดเยี่ยม

 

มันคงจะดีมากถ้าได้ใกล้ชิดกับลิเวอร์พูลมาขึ้นอีกนิด ถ้าพูดตามตรง เพราะว่ามันเป็นทริปที่ลงตัว แต่นั่นเป็นแง่ลบอย่างเดียวที่ผมสามารถพูดถึงมัน ผู้คนมักจะพูดเสมอว่าผมไม่ใช่แฟนตัวยงของบอลถ้วยในประเทศ มันไม่ใช่ความจริง มันแค่ไม่เคยเกิดขึ้น ปีนี้มันเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สอง พูดตามตรงผมแทบรอที่จะสัมผัสบรรยากาศอีกครั้งไม่ไหว น่าเสียดายที่เราต้องสู้กับคู่แข่งที่ไม่น่าเชื่อ แต่นี่เป็นธรรมชาติของเรื่องนี้ในนัดชิงชนะเลิศที่คุณไม่ค่อยจะเจอกับทีมที่เล่นฟุตบอลไม่ได้

ชัดเจนว่ามันเป็นเกมรีแมตช์ในคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศ   ซึ่งในแง่ความตั้งใจของเชลซี คุณมองว่าพวกเขาจะวางแผนลงเล่นมันยังไง? พวกเขาอาจจะรู้สึกว่ามีแค้นที่ต้องชำระ…

 ‘แค้นที่ต้องชำระ’ ผมไม่ชัวร์ มันเป็นจุดโทษที่ยาวนานที่สุดเท่าที่ผมเคยมีส่วนร่วม! แน่นอนว่าผมรู้สึกโธมัส และผมรู้ว่านักเตะอยากจะมีฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จที่สุด มันเป็นฤดูกาลที่ดี ชัดเจนว่าพวกเขาผ่านเล่นไปเล่นแชมเปียนส์ลีกแล้ว

ปีที่แล้วพวกเขาได้แชมป์ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ปีนี้พวกเขาถูกน็อกตกรอบโดยอีกทีมที่เข้าชิง ซึ่งผมคิดมันเกิดขึ้นได้ ดังนั้น(พวกเขา)มีฤดูกาลที่ดีในปีที่ยาก ใช่ พวกเขาจะทุ่มเทเพื่อมันอย่างแน่นอน และพวกเขามีคุณภาพ และมีนักเตะหลายคน คุณไม่รู้ว่าพวกเขาจะจัดตัวอย่างไร อะไรแบบนี้ ทางเลือกแตกต่างออกไป อะไรทำนองนี้ ดังนั้การเตรียมตัวจะน่าสนใจมาก

นัดชิงชนะเลิศจบลงด้วยการดวลจุดโทษที่ 11-10 ถ้ามันไปไกลอีกในครั้งนี้ คุณมั่นใจไหมว่าจะยิงจุดโทษเข้าทั้ง 11 ลูกอีกครั้ง? ประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำร้อย

ใช่แล้ว! ผมจะพูดอะไรได้? ผมคิดว่าเราต้องยิง 11 ก่อนเกมนั้นไหม? ไม่ และไม่สองสามอย่างที่ตอนนั้นผมคิดว่า ‘โอ้เ จริงๆ ใช่ พวกเขายิงอย่างนั้น?’ แต่พวกเขาฉลุยในค่ำคืนนั้น ดังนั้นมันยอดเยี่ยมมาก แต่นั่นคือวิธีการของฟุตบอล และนั่นคือสิ่งที่เราไม่ชอบเกี่ยวกับการดวลจุดโทษ มีบ่อยบมากสำหรับผู้แพ้ต้องบอกอย่างนั้น และโลกภายนอกเห็นว่าใครล้มเหลวในเวลานั้น ผมไม่ชอบเรื่องนี้ แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของงาน ดังนั้นต้องพยายามตัดสินมันใน 90 นาที มันคงจะยอดเยี่ยมมาก

คุณกำหนดความสำเร็จในแต่ละฤดูกาลอย่างไร? ง่ายๆ คือมันเกี่ยวกับถ้วยรางวัล หรือคุณมองภาพรวมยิ่งกว่านั้น?

มันไม่ได้มีวิธีการเดียวที่จะมองมัน แน่นอนว่ามีวิธีการที่มองมัน คุณชนะแทบจะทุกอย่าง นั่นเป็นเรื่องไม่มีทางเป็ฯไปได้ อย่างน้อยมันก็ยากมาก และหลังจากนั้นอีกเรื่อง คุณต้องมองว่าอะไรที่คุณชนะ และคุณจะต้องคิดเก่ยวกับว่ามัน ‘มันคือความสำเร็จใช่ไหม?’ ฤดูกาลนี้จนถึงเวลานี้ ผมคิดว่าเราทุกคนเห็นตรงกัน ว่าเป็นฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จมาก แต่ถ้าไม่ชนยะอะไร มันจะไม่ใช่ฤดูกาลนั้น ดังนั้นต้องรอดูว่ามันจะเป็นยังไง

เราได้แชมป์คาราบาว คัพมาแล้ว แต่เราคือลิเวอร์พูล เราเป็นสโมสรระดับโลก เราเป็นทีมระดับโลก ดังนั้นมันอยากจะให้นิยามฤดูกาลที่ประสบความสำเร็จอย่างสมบูรณ์ที่สุดถ้าคุณได้แชมป์แค่คาราบาว คัพ กับการเข้าชิงด้วยต่างๆ ทั้งหมด ดังนั้นเรารู้เรื่องนี้ ส่วนที่จะชี้ขาดกำลังจะมา ไม่มีปัญหาเลย ฤดูกาลจนถึงเวลานี้ มันเป็นครั้งแรกที่ทีมที่ลุ้นแชมป์ และเข้าชิงสามรายการ ดังนั้นมีเหตุผลสำหรับมัน เพราะว่ามันยากจริงๆ และเข้มข้นจริงๆ การได้มาอยู่ที่นี่เป็นเรื่องที่ดี แต่ส่วนเติมเต็มอาจจะขาดหายไป และตอนนี้เราต้องทำงานในเรื่องนี้