ซาดิโอ มาเน่ ย้ายไปร่วมทีมบาเยิร์น มิวนิกเรียบร้อยในวันนี้

กองหน้าเซเนกัลย้ายไปร่วมทีมจากบุนเดสลีกา หลังจากหกฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับลิเวอร์พูล

เขาอำลาแอนฟิลด์พร้อมกับคำอวยพรจากทุกคน และเก็บเหรียญรางวัลครบทั้งพรีเมียร์ลีก, แชมเปียนส์ลีก, ฟีฟา คลับ เวิลด์ คัพ, ยูฟา ซูเปอร์ คัพ, เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ และคาราบาว คัพ

จาก 269 เกมที่ลงเล่นให้กับสโมสร มาเน่ทำไป 120 ประตู, 38 แอสซิสต์ พร้อมกับรอยยิ้ม และความทรงจำนับไม่ถ้วย

“เขาคือเครื่องจักร” เจอร์เก้น คล็อปป์ เขียนบทความในเดือนเมษายน “สิ่งที่เขาทำให้กับสโมสรแห่งนี้ และยังทำมาต่อเนื่องทำให้เขาเข้าไปอยู่ในกลุ่มของ ‘ตำนาน’ “

ตั้งแต่เซ็นย้ายจากเซาท์แฮมป์ตันในช่วงซัมเมอร์ปี 2016   มาเน่เป็นกำลังหลักในทีมของคล็อปป์ที่คุมทีมลิเวอร์พูลเต็มฤดูกาลเป็นครั้งแรก และช่วยให้พวกเขาคว้าอันดับที่ 4 ในพรีเมียร์ลีก และกลับไปเล่นในแชมเปียนส์ลีก

ระดับการเล่นของเขา เช่นกันกับทีมยังพรุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องปีแล้วปีเล่า ในฐานะส่วนหนึ่งในแนวรุกที่ร้อนแรงในทีมของคล็อปป์

มาเน่ทำลายสถิติยิงเกิน 20 ประตูในทุกรายการตลอดฤดูกาล 2017-18 โดย 10 ประตูเกิดขึ้นในแชมเปียนส์ลีกที่หงส์แดงผ่านเข้าชิงชนะเลิศที่เคียฟ ที่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ต่อเรอัล มาดริด

อย่างไรก็ตามสิบสองเดือนต่อมา เขาได้ชูถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฟุตบอลสโมสรยุโรป หลังจากเป็นดาวเด่นในชัยชนะเหนือท็อตแนม ฮอตสเปอร์ในมาดริด

มาเน่ลงเล่นทุกเกมระหว่างเส้นทางชูถ้วยแชมเปียนส์ลีก และทำผลงานของตัวเองได้ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกกับ 22 ประตูที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำร่วมกับโมฮาเหม็ด ซาลาห์ และปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

ฤดูกาลต่อมายังคงเป็นฤดูกาลแห่งความทรงจำทั้งโดยส่วนตัว และทีมโดยรวม

เจ้าของรางวัลนักเตะแอฟริกันแห่งปีของซีเอเอฟปี 2019 ช่วยให้ทีมของคล็อปป์สร้างประวัติศาสตร์ยุติการรอคอย 30 ปีในการชูถ้วยแชมป์พรีเมียร์ลีก

มาเน่ทำไป 22 ประตู และ 12 แอสซิสต์ในทุกรายการตลอดฤดูกาล 2019-20 ที่ลิเวอร์พูลกลายเป็นแชมป์ลีก, ฟีฟา คลับ เวิลด์ คัพ และยูฟา ซูเปอร์ คัพ

แม้ว่าจะเป็นความท้าทายอย่างมากในฤดูกาล 2020-21 สำหรับทีม และตัวนักเตะเอง มาเน่เป็นส่วนหนึ่งในทีมลิเวอร์พูลที่โชว์ฟอร์มในโค้งสุดท้ายที่คว้าตั๋วไปเล่นแชมเปียนส์ลีก โดยทำไปสองประตูในวันสุดท้ายที่ช่วยให้ทีมจบด้วยอันดับที่สามในลีก

ในฤดูกาล 2021-22 เขาเรียกความกระปรี้กระเปร่าเมื่อแฟนบอลกลับมาเต็มความจุของสนามอีกครั้ง และเติบโตขึ้นจากการเปลี่ยนตำแหน่งในช่วงกลางของฤดูกาล

มาเน่ทำประตูที่ 100 ของเขากับสโมสรในเกมกับคริสตัล พาเลซในเดือนกันยายน และหนึ่งเดือนต่อมาเขาทำประตูที่หนึ่งในร้อยในพรีเมียร์ลีก กลายเป็นนักเตะแอฟริกันคนที่สามเท่านั้นที่ยิงได้ถึงเลขสามหลัก

หลังจากนำเซเนกัลคว้าแชมป์แอฟริกา คัพ ออฟ เนชันส์เป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน เขากลับมาเมอร์ซีย์ไซด์พร้อมกับความกระหายที่จะคว้าถ้วยรางวัลมากขึ้น ในฤดูกาลที่หงส์แดงลงเล่นทุกโปรแกรมที่เป็นไปได้สำหรับพวกเขา

เขาเป็นตัวจริงในชัยชนะเหนือเชลซีในคาราบาว คัพ นัดชิงชนะเลิศ   มาเน่ยังคงรับหน้าที่กองหน้าตัวเป้าอย่างต่อเนื่องสำหรับการลุ้นสามถ้วยรางวัลที่เหลือ

เหรียญเอฟเอ คัพ เพิ่มเข้ามา ในวันแห่งความทรงจำที่เวมบลีย์ในเดือนพฤษภาคม แม้ว่าอาชีพของเขากับลิเวอร์พูลจะจบลงพร้อมกับความผิดหวัง จากการพลาดแชมป์พรีเมียร์ลีก และแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศแบบหวุดหวิด

แต่ยังไงก็ตามความผิดหวังในสัปดาห์นั้นไม่สามารถบดบังความสุข และคุณภาพที่มาเน่นำมาให้กับสโมสรตลอดหกปีที่อยู่กับสโมสร

นักเตะที่มีประสิทธิภาพในการเล่นงานคู่แข่งกับบุคลิกที่ถ่ายทอดให้กับคนอื่น ความตั้งใจที่เขามี ทำให้เขาสมควรเข้าไปอยู่เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์อันโด่งดังของลิเวอร์พูล

เราขอขอบคุณซาดิโอสำหรับทุกอย่างที่เขาทำ และอวยพรให้เขาโชคดีในช่วงที่เหลือในอาชีพของเขา