ลิเวอร์พูลเริ่มต้นพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2018-19 ด้วยการถล่มเวสต์แฮม 4-0 ที่แอนฟิลด์ ในเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งมีแง่มุมที่น่าสนใจมากมาย

พวกเขากลายเป็นทีมที่สองเท่านั้นในประวัติศาสตร์ที่ชนะคู่แข่งรายเดียว 4 ลูกขึ้นไป 2 ฤดูกาลติดต่อกัน หลังจากท็อตแนมทำไว้กับสโต๊ก ซิตี้ในแบบเดียวกัน โดยโดมินิก เรย์เนอร์ นักข่าวจากเว็บไซต์ทางการของสโมสรได้สรุป 5 ตัวเลขสถิติที่น่าสนใจไว้ดังต่อไปนี้...

1. มาเน่เริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างร้อนแรง

เจ้าของเสื้อเบอร์ 10 คนใหม่เปิดฤดูกาลพร้อมกับ 2 ประตูกับเวสต์แฮม และนั่นทำให้เขายิงให้หงส์แดงในเกมแรกเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกันเท่ากับที่ตำนานอย่างจอห์น บาร์นส์ ทำได้ระหว่างฤดูกาล 1989-90 ถึง 1991-92

เขาโซโล่เดี่ยวทำประตูอาร์เซนอลในชัยชนะสุดตื่นเต้น 4-3 ในฤดูกาล 2016-17 และยิงประตูสุดสวยในเกมเสมอวัตฟอร์ด 3-3 เมื่อปีที่แล้ว รวมกับสองประตูในเกมล่าสุดทำให้เข้าไปอยู่ในกลุ่มจอมทำประตูในสัปดาห์แรกของพรีเมียร์ลีกทันที

2. ซูเปอร์-ซับ สเตอร์ริจด์

สเตอร์ริดจ์ทำไป 6 ประตูจาก 9 เกมปรีซีซั่นในช่วงซัมเมอร์นี้ และใช้เวลาแค่ 24 วินาทีในการทำประตูในเกมอย่างเป็นทางการ เมื่อเขาลุกจากม้านั่งสำรองมาทำประตูขุนค้อน และเป็นสถิติเร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีกที่ตัวสำรองของหงส์แดงทำประตูได้ นับตั้งแต่ออปต้าเก็บสถิติในปี 2006

สเตอร์ริดจ์ลงแทนโมฮาเหม็ด ซาลาห์ในช่วง 2-3 นาทีสุดท้ายของเกม และเปลี่ยนลูกเตะมุมของเจมส์ มิลเนอร์เป็นประตูในจังหวะสัมผัสบอลครั้งแรก และตอนนี้เจ้าของเสื้อเบอร์ 15 ทำไปแล้ว 12 ประตูจากการลงเป็นตัวสำรองระหว่างอาชีพกับทีมหงส์แดง เป็นอันดับสองร่วมเท่ากับไรอัน บาเบล ตามเดวิด แฟร์คลัฟที่ทำไป 18 ประตูในสถิตินี้

3.  มิลเนอร์คุมเกมแดนกลางได้อย่างเหนือชั้น

นาบี เกอิต้า อาจจะประเดิมสนามให้ลิเวอร์พูลอย่างน่าประทับใจ แต่มิลเนอร์ คือ คนที่ทำผลงานได้ดีที่สุด เขาจับบอล 122 ครั้งมากที่สุดในสนาม จ่าย 102 ครั้ง และมากกว่าเพื่อนร่วมทีมทุกคนอย่างน้อย 23 ครั้ง รวมถึงมีความแม่นยำ 93.1 เปอร์เซ็นต์

การจ่ายบอล 57 ครั้งเกิดขึ้นในแดนของคู่แข่ง และเขายังสร้างโอกาสทำประตู 3 ครั้งรวมถึง 1 แอสซิสต์ นอกจากนี้มิลเนอร์ยังครอสมากที่สุด 7 ครั้ง และวิ่งมากกว่าเพื่อนร่วมทีมคนใดก็ตามที่ 12.55 กม.

4.   โรเบิร์ตสันอาละวาดไปทั่ว

ตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมหงส์แดงเมื่อปีที่แล้ว โรเบิร์ตสันแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทั้งความเหนียวแน่นในเกมรับ และอันตรายในการเล่นเกมรุกริมเส้นด้านซ้าย การวิ่งตัด และครอสเลียดให้ซาลาห์ทำประตูในเกมกับเวสต์แฮม

แอสซิสต์เป็นหัวใจสำคัญในเกมการเล่นของโรเบิร์ตสัน เมื่อเขาทำไป 5 ครั้งในฤดูกาลที่แล้ว จากการลงเล่นเพียง 22 เกมในลีกสูงสุด ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยดีที่สุดในกลุ่มฟูลแบ็ก และตอนนี้เขาเดินหน้าต่อในฤดูกาลใหม่แล้ว

5.  ซาลาห์ยังอยู่ในเส้นทางไล่ล่าประตู

และท้ายที่สุดยังมีเรื่องราวของ ซาลาห์ เช่นเคย เมื่อทำไป 35 ประตูในเกมที่ 50 ในพรีเมียร์ลีก เป็นรองเพียงแอนดี้ โคล และอลัน เชียร์เรอร์ ที่ทำได้เท่ากัน 41 ประตูจากการลงเล่นหลักครึ่งร้อย เขาใช้เวลาเพียง 19 นาทีในการทำประตูแรกในฤดูกาล 2018-19 และตอนนี้ 20 ประตูจาก 20 เกมพรีเมียร์ลีกที่ลงเล่นให้หงส์แดงในแอนฟิลด์