ลิเวอร์พูลเก็บสามแต้มเต็มอีกครั้งในเกมที่ 2 ของพรีเมียร์ลีก เมื่อบุกไปเอาชนะคริสตัล พาเลซ ด้วยสกอร์ 2-0 จากลูกจุดโทษของมิลเนอร์ และประตูของมาเน่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โกเมซ, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, มิลเนอร์ ©, ไวจ์นัลดุม, เกอิต้า, มาเน่, ซาลาห์ และเฟอร์มิโน่   

สำรอง: มินโญเลต์, เฮนเดอร์สัน, สเตอร์ริดจ์, โมเรโน่, ลัลลานา, ชากิรี และมาติป  

Team News อัพเดตก่อนเกม: คล็อปป์ใช้นักเตะชุดเดิมจากเกมเปิดฤดูกาลที่ชนะเวสต์แฮม ยูไนเต็ด

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที 45 มิลเนอร์ยิงจุดโทษให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0
  • นาที 90+3 มาเน่ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-0

 

เกมในครึ่งแรก

เกมที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกของลิเวอร์พูล โดยไปเยือนคริสตัล พาเลซ ของรอย ฮ็อดจ์สัน ที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ก

เกมใน 10 นาที แรกยังเป็นการรอดูท่าทีกัน แม้ว่าในนาทีที่ 3 ซาลาห์ได้โอกาสพาบอลเข้าไปในกรอบ แต่ก็ถูกตัดไปได้ก่อนจะอันตราย จนถึงในนาที 12 โรเบิร์ตสันเติมขึ้นมารับบอลก่อนตวัดเข้ากลาง แต่เข้ามือผู้รักษาประตู และในนาที 14 มิลเนอร์ได้โยนที่กราบซ้าย แต่ผู้รักษาประตูออกมาปัดไว้ได้ก่อน

บอลเข้าประตูพาเลซในนาที 21 แต่กรรมการให้เป็นจังหวะฟาวล์ของมาเน่ที่ชนเฮนเนสซี ผู้รักษาประตูไปก่อน และในนาที 23 ซาลาห์ได้บอลจากเกอิต้าที่จ่ายจากครึ่งสนาม แต่กระดกบอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

แต่ในขณะเดียวกันพาเลซก็ทำได้ใกล้เคียงมากในนาที 25 เมื่อทาวน์เซนด์ปั่นบอลโค้งชนคาน

เกมเป็นไปอย่างสูสี เฮนเนสซีเซฟลูกยิงมุมแคบของเกอิต้าในนาที 27

พาเลซได้ฟรีคิกในนาที 41 ก่อนจะเปิดหยอดเข้าไป แต่อลิสสันวิ่งออกมาชกบอลไว้ได้ก่อนเบนเตเก้ที่เข้ามาชาร์จ กรรมการเป่าให้เป็นจังหวะล้ำหน้าของพาเลซ

ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกบ้างในนาที 43 หลังมิลเนอร์ถูกทำฟาวล์ แต่ก็ยังไม่มีจังหวะจากลูกเซตพีซในจังหวะนี้

กรรมการเป่าให้ลิเวอร์พูลได้จุดโทษในนาที 44 เมื่อซาลาห์ถูกซาโก้ดึงล้มลงในกรอบเขตโทษ ก่อนที่มิลเนอร์รับหน้าที่ยิงเข้าไปในนาที 45 ให้ลิเวอร์พูลนำ 1-0 ก่อนกรรมการเป่าหมดครึ่งแรก

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลเกือบได้นำเพิ่ม เมื่อซาลาห์ได้โอกาสในนาที 49 ขณะที่ลิเวอร์พูลเล่นสวนกลับ แต่จังหวะยิงถูกเฮนเนสซีนิดหนึ่ง บอลเปลี่ยนทิศทาง ก่อนที่ซาลาห์จะวิ่งไปเอาบอลและจ่ายให้เกอิต้าที่ขึ้นมาเติม แต่เกอิต้ายิงไม่เข้ากรอบ

เกอิต้าพาบอลขึ้นมาจากกลางสนาม ก่อนจะถูกสกัดออกหลังในนาที 50 ลิเวอร์พูลได้เตะมุม แต่เบนเตเก้โหม่งไว้ได้ พาเลซจึงเล่นสวนกลับทันที อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำฟาวล์ พาเลซได้ฟรีคิกระยะใกล้ แต่อลิสสันพุ่งเหินปัดลูกยิงของทาวน์เซนด์ไว้ด้วยสองมือ!!!

ลิเวอร์พูลได้โอกาสจากซาลาห์ในนาที 60 แต่ถูกกองหลังพาเลซโหม่งทิ้งไว้ได้ก่อน

คล็อปป์ส่งเฮนเดอร์สันลงมาแทนมิลเนอร์ในนาที 67

เทรนต์ได้แทงบอลเข้าไปในกรอบ ซาลาห์วิ่งเข้าไปรับบอลแต่เกี่ยวไม่ติด และกรรมการเป่าให้เป็นจังหวะล้ำหน้าในนาที 69

พาเลซได้ครองบอลในเกมบุกมากขึ้นในนาที 73 และหลังจากถ่ายบอลไปมาเพื่อหาช่อง ซาฮาก็ได้โอกาสยิงในกรอบ แต่อลิสสันยืนอยู่ตรงจุด รับไว้ได้พอดี

ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกระยะใกล้นอกกรอบในนาที 75 หลังซาลาห์ได้บอลหลุดเดี่ยววิ่งขึ้นมา หลังได้บอลชิ่งมาจากเฟอร์มิโน่ ก่อนที่วาน-บิสซาก้า จะเข้าตัดบอลจากข้างหลัง และกรรมการให้เป็นใบแดงทันที

ซาลาห์เป็นผู้ยิงฟรีคิก บอลแฉลบทอมส์กินที่ตั้งกำแพงอยู่ออกหลังในนาที 77 เทรนต์เปิดลุกเตะมุมเข้ามา เฮนเนสซียังโชว์ฟอร์มป้องกันประตูได้สองจังหวะติดต่อกัน

ไวจ์นัลดุมเข้าจิ้มบอลไว้ได้ก่อนในนาที 82 กรรมการไม่ว่าอะไร ก่อนที่เฮนเนสซีจะซูเปอร์เซฟอีกครั้ง เมื่อปัดลูกโหม่งของซาลาห์ด้วยปลายนิ้ว ในนาที 84

ลัลลานาลงสนามมาแทนเกอิต้าในนาที 87

กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 4 นาที

พาเลซได้ฟรีคิกในนาที 90+2 จากจังหวะฟาวล์ของลัลลานา ก่อนที่จะได้เตะมุม

ลิเวอร์พูลมาได้ประตู 2-0 จนได้ในนาที 90+3 เมื่อ ซาลาห์ได้บอล และเล่นโต้กลับ ก่อนจะส่งให้มาเน่วิ่งหลุดเดี่ยวขึ้นไป และทำประตูได้ในที่สุดแม้จะถูกเบียดจนเกือบล้ม จากนั้นคล็อปป์ส่งสเตอร์ริดจ์ลงมาแทนเฟอร์มิโน่ ก่อนที่กรรมการจะเป่าจบเกม