ก่อนเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ มีนักเตะเพียง 6 คนที่เคยทำ 50 ประตูในพรีเมียร์ลีกให้กับลิเวอร์พูล

ร็อบบี ฟาวเลอร์, ไมเคิล โอเว่น, สตีเวน เจอร์ราร์ด, เฟร์นานโด ตอร์เรส, หลุยส์ ซัวเรซ, เดิร์ก เคาต์... จนมาถึงแดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ปั่นบอลโค้งเสียบสามเหลี่ยมอย่างแม่นยำ

มันฟังดูดีใช่ไหม?

“ใช่มันเป็นแบบนั้น ผมไม่รู้ว่ามีว่ามีนักเตะกี่คนที่ทำได้ ดังนั้นใช่ มันทำให้ผมรู้สึกดี” สเตอร์ริดจ์กล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างภาคภูมิใจกับ Liverpoolfc.com

“ผมรู้สึกเหมือนกับว่าผมต้องใช้เวลาสักพักเลย ผมโชคร้ายตลอด 2-3 ปีหลังที่มีการบาดเจ็บแปลกๆ ตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง แต่การทำประตูมาถึงเลขหลักนี้มันเป็นเรื่องเยี่ยมสำหรับผม ชัดเจนว่ามันน่าจะมาถึงมันเร็วกว่านี้ แต่อย่างน้อยผมทำได้ในท้ายที่สุด!”

“แต่ผมขอขอบคุณพระเจ้า และเพื่อนร่วมทีม ทีมบริหาร และทุกๆ คนที่ช่วยให้ผมมาถึงตรงนี้ เพื่อนร่วมทีมของผมบางคนส่งบอลใส่พานให้ผมในบางครั้ง ซึ่งคุณต้องใช้คนเหล่านี้ช่วยให้คุณได้ประตูง่ายๆ!”

“ดังนั้นมันเป็นเรื่องเยี่ยมที่ทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ และหวังว่ามันจะเป็นอย่างนี้ไปอีกนาน ที่ผมสามารถมีส่วนร่วมกับทีม และทำประตู และช่วยให้เราชนะเกมต่างๆ”

เมื่อถามถึงประตูที่ยอดเยี่ยมอย่างในเกมกับเชลซี หรือย้อนไปถึงลูกชิพที่เหนือชั้นในเกมกับเวสต์บรอมในแอนฟิลด์ในฤดูกาล 2013-14

“ใช่เลย มันเกือบจะเป็นตำแหน่งเดียวกันจริงๆ กับประตูนั้น” สเตอร์ริดจ์ย้อนรำลึก

“มันต้องโยนเหรียญเลือกระหว่างสองประตูนั้น ผมต้องบอกอย่างนั้น ผมชอบประตูกับเอฟเวอร์ตันในบ้านเมื่อ 2-3 ปีก่อนเช่นกัน แต่ผมรู้สึกเหมือนกับกับประตูทั้งหมด มันทั้งหมดทำให้รู้สึกยอดเยี่ยม”

“มันไม่สำคัญว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนของเกม ตอนไหน ที่ไหน ผมรู้สึกเหมือนกับว่า เมื่อทำประตูได้ มันรู้สึกยอดเยี่ยม ทั้งความรู้สึก และอารมณ์ คุณรู้สึกได้จากภายในเมื่อมันเกิดขึ้นได้ว่า มันคือสิ่งที่พิเศษ”

สเตอร์ริดจ์ยังอธิบายเมื่อถูกถามถึงความแตกต่างระหว่างการยิงคู่แข่งแต่ละทีมว่า “มันเป็นเรื่องยาก เพราะว่าผมรู้สึกชัดเจนว่ากับบางทีมให้ความรู้สึกที่แตกต่าง เมื่อคุณเล่นกับแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อคุณปะทะกับเอฟเวอร์ตัน ประตูเหล่านี้แตกต่างจากเกมอื่นๆ”

“แน่นอนว่ามันเป็นการยิงทีมเก่าของผม (เชลซี) ซึ่งผมต้องเคารพหลายๆ อย่าง ผมมีเพื่อนบางคนที่ยังเล่นอยู่ที่นั่น ซึ่งคุณรู้ดี นั่นเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม แต่ผมคิดว่าประตูกับเอฟเวอร์ตันหากคุณยิงได้ และประตูกับแมนฯ ยูไนเต็ดมักจะรู้สึกพิเศษกว่าประตูอื่นๆ ตามที่ผมคิด”

เจ้าของเบอร์ 15 ยังยืนยันว่าไม่คิดจะหยุดสถิติไว้เท่านี้ โดยกล่าวต่อไปว่า “ผมมักจะพยายามผลักดันตัวเองไปอีกระดับ และช่วยเหลือทีมให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้เพื่อให้เราประสบความสำเร็จ”

“ผมรู้สึกราวกับว่าเราโชคร้ายมากๆ จริงๆ ตลอด 2-3 ปีหลังที่ไม่ชนะอะไรเลย ดังนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่านี่จะเป็นฤดูกาลที่ถึงตอนที่เราจะประสบความสำเร็จ”

“แต่เส้นทางยังอีกยาวไกล มีอุปสรรคมากมายที่ต้องเอาชนะก่อนจะไปถึงจุดที่เราสามารถพูดถึงถ้วยรางวัล และเรื่องเหล่านี้ มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องโฟกัสกับแต่ละเกมที่เรามี ต้องไม่คาดหวังมากเกินไปเช่นกัน และสำหรับทุกๆ คนต้องเยือกเย็น และถ่อมตัวกับทุกๆ เรื่อง”

“เรามีทีมที่ยอดเยี่ยม แต่มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรักษาโฟกัสไปตลอดทั้งฤดูกาลไปจนจบ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีอะไรที่น่าตื่นเต้นในตอนจบ”