Match Report: ลิเวอร์พูลออกไปพ่ายเร้ดสตาร์ในแชมเปียนส์ลีก
ลิเวอร์พูลต้องพบกับความพ่ายแพ้ในเกมที่ 4 ของรอบแบ่งกลุ่มแชมเปียนส์ลีก กลุ่ม C เมื่อออกไปเยือนเร้ดสตาร์ เบลเกรด และพ่ายไป 0-2
รายชื่อนักเตะ
11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดจ์ค, โรเบิร์ตสัน, ไวจ์นัลดุม, มิลเนอร์©, ลัลลานา, มาเน่, ซาลาห์ และสเตอร์ริดจ์
สำรอง: มินโญเลต์, ฟาบินโญ่, เกอิต้า, เฟอร์มิโน่, โกเมซ, โมเรโน่ และโอริกี
Team News อัพเดตก่อนเกม: มาติป, ลัลลานา และสเตอร์ริดจ์ มีชื่อใน 11 ตัวจริงในเกมนี้ โดยลงมาแทนโกเมซ, ฟาบินโญ่ และเฟอร์มิโน่
นอกจากนี้เกอิต้ายังกลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรอง หลังมีปัญหาบาดเจ็บแฮมสตริง
จังหวะสำคัญในเกม
- นาที 22 พาฟคอฟทำประตูให้เร้ดสตาร์นำ 1-0
- นาที 26 พาฟคอฟทำประตูให้เร้ดสตาร์นำ 2-0
เกมในครึ่งแรก
ลิเวอร์พูลเดินทางไปเยือนกรุงเบลเกรด ในเกมที่ 4 ของเกมแชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม C นัดที่ 4
ในช่วง 10 นาที แรก เป็นเร้ด สตาร์ เจ้าบ้านที่มีโอกาสใกล้เคียงที่สุดในนาที 10 เมื่อมีโอกาสบุกในนาที 10 แต่ยิงเข้าซองของอลิสสัน แต่ลิเวอร์พูลก็มีโอกาสทำขึ้นมาบ้างในนาที 11 เมื่อซาลาห์ได้บอลที่กราบซ้าย ก่อนตวัดเข้ากลางมาให้สเตอร์ริดจ์ที่ยืนรอปากประตู แต่ลูกโหม่งของสเตอร์ริดจ์โด่งออกไป
ในช่วง 15 นาที ลิเวอร์พูลต้องลงมาตั้งเกมรับเมื่อเจ้าบ้านบุกอย่างหนัก และจังหวะวอลเลย์หน้าประตูของข้ามคานไปนิดเดียว
ลิเวอร์พูลทำทางขึ้นมาได้สวย จากมาเน่ที่ตวัดเข้ากลางให้โรเบิร์ตสันที่วิ่งตัดเข้ามาเติม บอลเลยไปที่สเตอร์ริดจ์ได้โอกาสทอ งหน้าประตูแต่ยิงไม่เข้ากรอบในนาที 16
แต่หลังจากนั้น ลิเวอร์พูลมาเสียสองประตู ในนาที 22 โดยพาฟคอฟ โหม่งให้เร้ดสตาร์นำ 1-0 จากลูกเตะมุม และในนาที 29 ที่ยิงไกลเข้าไปอย่างสวยงาม หลังกระชากบอลหนีไวจ์นัลดุมมาได้ และตัดสินใจซัดทันที บอลหนีมืออลิสสันก่อนมุดเข้าประตูไป 2-0
ซาลาห์ได้โอกาสวอลเลย์บ้างหลังบอลจากลูกเตะมุมมาเข้าทางในนาที 31 แต่บอลไม่เข้ากรอบ ส่วนลูกโหม่งของลัลลานาก็แฉลบออกหลัง แต่ก็ยังไม่สามารถสร้างโอกาสจากจังหวะนั้นได้
หลังจากถูกนำ ลิเวอร์พูลพยายามขึ้นเกมบุกเพื่อทวงประตูคืน แต่ยังไม่มีโอกาสจะแจ้ง กรรมการเป่าทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกเพียง 1 นาที
เกมในครึ่งหลัง
คล็อปป์ตัดสินใจส่งเฟอร์มิโน่ และโกเมซ มาแทนสเตอร์ริดจ์ และอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงเล่นตั้งแต่เริ่มครึ่งหลัง แต่เกมบุกของลิเวอร์พูลยังขาดๆ เกินๆ ที่หน้าปากประตู และยังไม่มีโอกาสที่ใกล้เคียงในการทำประตูตีตื้นเลย
โอกาสที่ใกล้เคียงที่สุดของซาลาห์ เกิดขึ้นในนาที 71 ที่ยิงเข้ากรอบและแฉลบนักเตะ ก่อนที่ผู้รักษาประตูจะปัดออกหลัง และในจังหวะเตะมุมของลิเวอร์พูล บอลมาเข้าทางซาลาห์ที่ยิงสวนเข้าไปก่อนที่จะชนคาน
แต่ในขณะเดียวกัน ลิเวอร์พูลถูกโต้กลับ แต่บอลสุดท้ายของเจ้าบ้านล้นออกหลังไป
คล็อปป์ส่งโอริกีลงมาแทนลัลลานาในนาที 79 และในนาที 82 มาติปได้โหม่งจากจังหวะทุ่มของโกเมซ แต่พลาดเป้า ซาลาห์เข้าซ้ำไปตรงตัวผู้รักษาประตูทันที
ฟาน ไดจ์ค ได้โหม่งลูกเปิดของเฟอร์มิโน่ในนาที 85 แต่ข้ามคานออกไป
กรรมการทดเวลาบาดเจ็บครึ่งหลัง 5 นาที
โบยานล้มตัวคว้าลูกยิงของซาลาห์นาที 90+3
ลิเวอร์พูลไม่สามารถทวงประตูคืนได้ และเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป
จบเกมลิเวอร์พูลมี 6 แต้มเท่าเดิม ทำให้ต้องรอลุ้นเข้ารอบ โดยเหลือการแข่งขันอีก 2 นัด ในรอบแบ่งกลุ่มนี้