วันเสาร์นี้ลิเวอร์พูลจะเปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของบอร์นมัธ ที่ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กำลังหาทางกลับไปเป็นทีมนำในพรีเมียร์ลีก

ถึงแม้ว่าหงส์แดงจะตามหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยผลต่างประตูได้-เสีย แต่พวกเขามีเกมในมือมากกว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ซึ่งจะเล่นกับเชลซีในวันอาทิตย์นี้อยู่ 1 นัด

ลิเวอร์พูลเคยบุกไปเอาชนะบอร์นมัธ 4-0 ที่ไวทาลิตี สเตเดียม ที่ทำให้ทีมไม่แพ้ทีมใด 20 เกมติดต่อกัน และส่งให้ขึ้นไปเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนน

ขณะที่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมาเดอะ เชอร์รีส์เคยอัดเชลซี ทีมที่กำลังไล่ล่าพื้นที่แชมเปียนส์ลีกไปถึง 4-0 แต่ตามมาด้วยความผิดหวังของการพ่ายแพ้ให้กับคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ จากการลงสนามหนล่าสุด

แต่เราสามารถจะคาดหวังอะไรจากทีมของ เอ็ดดี ฮาว ในเกมที่แอนฟิลด์ได้บ้าง? เราได้นั่งคุยกับ เนด เพย์น หัวหน้านักข่าวกีฬาของบอร์นมัธ เดลี เอ็คโค่ เพื่อได้รับข้อเท็จจริง...

ผ่านมาแล้ว 2 เดือนมาแล้วนับตั้งแต่ที่เราได้พูดคุยกันครั้งล่าสุด คุณมีความเห็นเกี่ยวกับฤดูกาลของบอร์นมัธ นับจนถึงตอนนี้อย่างไร

โดยรวมแล้วมันเป็นฤดูกาลที่ดี บอร์นมัธเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างสุดยอด และนั่นให้รากฐานที่แข็งแกร่งกับพวกเขาซึ่งจะนำไปต่อยอด

นับตั้งแต่เริ่มต้นเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมาหลายๆ สิ่งมีความยากมากขึ้นเนื่องด้วยการแพ้ 10 จาก 15 เกมพรีเมียร์ลีก แต่ชัยชนะอีกซัก 2-3 เกมจะเพียงพอกับการทำให้พวกเขาอยู่รอดต่อไป

ในบางครั้งทีมของฮาวเอาแน่เอานอนไม่ได้ สัปดาห์ที่ผ่านมาพวกเขาทำให้หลายๆ คนพูดถึงอย่างมากเมื่อพวกเขาไล่ถล่มเชลซีก่อนจะแพ้ที่คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ แต่ทีมไม่มีตรงไหนที่ใกล้เคียงกับการตกชั้น

จากการที่ดาวซัลโวสูงสุดอย่าง คัลลั่ม วิลสัน และเพลย์เมคเกอร์อย่าง เดวิด บรู๊คส์ ได้รับบาดเจ็บ ใครจะเป็นตัวอันตรายของบอร์นมัธ

มีเพียง เอเด็น อาซาร์ ที่มีแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้มากกว่า ไรอัน เฟรเซอร์

แข้งทีมชาติสก็อตแลนด์รายนี้เคยสร้างความผิดหวังอย่างมากให้กับลิเวอร์พูลมาแล้วเมื่อเขาลุกออกมาจากม้านั่งสำรองในชัยชนะ 4-3 ของบอร์นมัธเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2016 และตอนนี้เขาเป็นผู้เล่นที่ดีกว่าเดิม

กองหลังส่วนใหญ่ไม่สามารถจะต้านทานความเร็วสูงของเฟรเซอร์ได้ ขณะที่การผ่านบอล, การยิง และการเปิดฟรีคิกของเขาในช่วงไม่กี่ปีมานี้ดีขึ้นมาก

เดอะ เชอร์รีส์ เคยแพ้ 0-4 ที่ไวทาลิตี สเตเดียมในโปรแกรมกลับกันเมื่อช่วงก่อนหน้านี้ของฤดูกาล ทีมของเอ็ดดี ฮาว จะทำอะไรที่แตกต่างจากเดิมในเกมนี้

ผมไม่แน่ใจว่าจะมีความประหลาดอย่างใหญ่หลวงเท่าไหร่ จากมุมมองทางด้านแทคติค บอร์นมัธเล่นเกมโต้กลับได้ดีมากๆ ดังนั้นพวกเขาจะตั้งเป้าเล่นในการงานลิเวอร์พูลจากแง่มุมนั้น

ชัดเจนว่าการตั้งรับให้ดีกว่านี้จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทำ

นาธาเนียล ไคลน์ (ยืม) และ โดมินิก โซลันกี (ย้ายถาวร) อำลาแอนฟิลด์เพื่อไปร่วมทีมเดอะ เชอร์รีส์ พวกเขาปรับตัวเป็นอย่างไรบ้าง

ไคลน์มีช่วงเวลาที่ยากในการเจอกับคาร์ดิฟฟ์ แต่โดยทั่วๆ ไปแล้วเขาเริ่มต้นได้ดี

สไตล์การเล่นเกมบุกแบบจู่โจมของเขาเหมาะกับวิธีการเล่นของบอร์นมัธอย่างพอดิบพอดีมากๆ และเขาได้จ่ายบอลสุดสวยให้กับ จูเนียร์ สตานิสลาส ในการขึ้นเกมรุกซึ่งนำไปสู่ประตูที่ 3 เกมกับเชลซี ผู้เล่นวัย 27 ปียังมีส่วนร่วมของเขากับการเก็บคลีนชีท 2 ครั้งด้วย

โซลันกีประเดิมสนามนัดแรกของเขาเกมกับคาร์ดิฟฟ์หลังจากกลับมาจากการบาดเจ็บ แต่เขาแทบไม่ได้บอล และมีการสัมผัสลูกในกรอบเขตโทษที่จะบุกแค่ 1 ครั้งเท่านั้น เขาต้องการเวลาลงเล่น และยังไม่มีการตัดสินอะไรได้

คุณมีความเห็นเกี่ยวกับฤดูกาลของลิเวอร์พูลจนถึงตอนนี้อย่างไร

ความเห็นของคุณอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรได้ แต่ก็ชื่นชมงานที่คล็อปป์ได้ทำมา

สำหรับช่วงเวลาโดยส่วนใหญ่ของฤดูกาล ทีมมีความยอดเยี่ยม แม้ไม่นานมานี้ระดับของพวกเขาอาจจะตกลงนิดหน่อย แต่ยังคงเป็นทีมที่น่าเกรงขาม

ช่วงเริ่มต้นฤดูกาลผมเคยทำนายว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้จะคว้าแชมป์ลีก และผมจะยังคงยืนยันอย่างนั้นอยู่ แต่ลิเวอร์พูลจะไม่ห่างไกลนัก

คุณคาดว่าบอร์นมัธจะจัดทีมอย่างไร

โบรุค, สมิธ, อาเก้, คุ๊ก, ดาเนี่ยลส์, เฟรเซอร์, กอสลิ่ง, เซอร์แมน, สตานิสลาส, คิง และโซลันกี

เกมจะชนะหรือแพ้กันที่ตรงไหน

หากบอร์นมัธตั้งรับได้แบบวิธีการที่พวกเขาทำกับคาร์ดิฟฟ์ มันสามารถจะเป็นช่วงบ่ายที่ยากมากๆสำหรับพวกเขา

หากพวกเขาตั้งรับได้แบบที่ทำกับเชลซี พวกเขามีโอกาสที่จะได้อะไรบางอย่างออกไปด้วยเกมจากการที่บรรดาผู้เล่นแนวรุกของพวกเขาสามารถจะสร้างปัญหาต่างๆ ได้

คำทำนายของคุณสำหรับเกมนี้

บอร์นมัธไม่เคยชนะที่ลิเวอร์พูลเลย และไม่เคยได้ 3 คะแนนนอกบ้านมาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม

ลิเวอร์พูลแข็งแกร่งมากๆ ในทุกๆ พื้นที่ และพวกเขาน่าจะชนะ 2-0