หลังจากเป็นฝ่ายตามหลังตั้งแต่ต้นเกม แต่ลิเวอร์พูลสามารถพลิกกลับมาเอาชนะเซาท์แฮมป์ตันได้ด้วยสกอร์ 3-1 ที่เซนต์ แมรีส์

รายชื่อนักเตะ

11 ตัวจริง: อลิสสัน, อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, มาติป, ฟาน ไดจ์ค ©, โรเบิร์ตสัน, ไวจ์นัลดุม, ฟาบินโญ่, เกอิต้า, ซาลาห์, มาเน่, และเฟอร์มิโน่

สำรอง: มินโญเลต์, ลอฟเรน, มิลเนอร์, เฮนเดอร์สัน, โมเรโน่, ชากิรี  และโอริกี


Team News อัพเดตก่อนเกม: ลิเวอร์พูลเปลี่ยนสองตำแหน่งจากเกมที่แล้ว โดยฟาบินโญ่ และเกอิต้า มีชื่อในแผงมิดฟิลด์แทนที่มิลเนอร์ และเฮนเดอร์สัน

จังหวะสำคัญในเกม

  • นาที  9 ลองยิงให้เซาท์แฮมป์ตันนำ 1-0
  • นาที 36 เกอิต้าโหม่งให้ลิเวอร์พูลตีเสมอ 1-1
  • นาที 80 ซาลาห์ยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 2-1
  • นาที 86 เฮนเดอร์สันยิงให้ลิเวอร์พูลนำ 3-1

เกมในครึ่งแรก

ลิเวอร์พูลลงเล่นเกมที่ 33 ในพรีเมียร์ลีกด้วยการไปเยือนเซาท์แฮมป์ตันที่เซนต์ แมรีส์ ด้วยเงื่อนไขเดิมคือการเก็บ 3 แต้มให้ได้เพื่อกลับมานำจ่าฝูงอีกครั้ง

แต่ทีมต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับตั้งแต่ใน 5 นาทีแรก เมื่อเจ้าบ้านบุกหนัก และเล่นเกมสวนกลับ ซึ่งในนาที 5 ฟาน ไดจ์ค สามารถโหม่งบอลเปิดเข้ามาไว้ได้อย่างหวุดหวิด แต่ในนาที 9 เชนลองยิงให้เจ้าบ้านนำไปก่อน 1-0

หลังจากถูกขึ้นนำ ลิเวอร์พูลยังไม่สามารถขึ้นเกมได้เลยจนถึงนาที 16 เมื่อมาติปพาบอลขึ้นก่อนส่งให้ซาลาห์หยอดให้มาเน่โม่งลงพื้น ก่อนที่จะถูกปัด เกอิต้าเข้าซ้ำแต่ไม่เข้ากรอบ

แต่เซาท์แฮมป์ตันก็ยังคงขึ้นบุกเพื่อตอบโต้ในนาที 19 เบอร์ทรานด์ได้เปิดเข้ากรอบ แต่ฟาน ไดจ์ค สกัดบอลข้ามคานไปนิดเดียว

ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะที่เทรนต์วางบอลจากเส้นหลังให้เกอิต้าพุ่งเข้ามาโหม่ง 1-1 

หลังจากถูกตีเสมอ เซาท์แฮมป์ตันก็พยายามสวนกลับด้วยเกมโต้กลับเร็ว แต่ฟาน ไดจ์ค ยังคงเคลียร์จังหวะสุดท้ายไว้ได้หลายครั้ง ก่อนที่กรรมการจะทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรกแค่ 1 นาที

เกมในครึ่งหลัง

ลิเวอร์พูลยังต้องเล่นเกมรับในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่กองหลังลิเวอร์พูลยังพยายามช่วยกันป้องกันประตูไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่สามารถขึ้นบอลบุกกดดันเจ้าบ้าน

เกอิต้าได้บอลทะลุเข้าไปในเขตก่อนที่จะถูกสกัดล้มลงในนาที 58 แต่กรรมการไม่ให้จุดโทษ

จากนั้นคล็อปป์ส่งมิลเนอร์มาแทนไวจ์นัลดุม และเฮนเดอร์สันลงไปแทนอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

ลิเวอร์พูลได้เตะมุมจากจังหวะยิงของฟาบินโญ่ที่ไปแฉลบออกหลัง ก่อนที่ทั้งมิลเนอร์ และเฟอร์มิโน่จะได้ยิงไกลในนาที 61 แต่ยังไม่ผ่านแนวรับเจ้าบ้าน รวมทั้งโอกาสทองในนาที 63 ที่มาเน่เปิดบอลจากเส้นหลัง ตวัดเข้ากลาง แต่เฟอร์มิโน่ยิงไม่เข้ากรอบ

ในช่วงนาที 66 ลิเวอร์พูลป้วนเปี้ยนอยู่หน้าประตูเซาท์แฮมป์ตัน แต่กองหลังยังเล่นเกมรับอย่างเหนียวแน่น

มิลเนอร์ได้เปิดในนาที 72 แต่เฟอร์มิโน่โหม่งไม่ถึงจึงถูกสกัดออกหลัง

เซาท์แฮมป์ตันได้ขึ้นบุกบ้างในนาที 80 และได้เตะมุมหลังเฟอร์มิโน่ขึ้นโหม่งเคลียร์

ในขณะที่ลิเวอร์พูลที่ยืนอยู่ในบนหมดเพื่อเล่นเกมรับ แต่บอลจังหวะสองที่เคลียร์มาไปเข้าทางซาลาห์ ก่อนที่กองหน้ารายนี้ขึ้นบอลควบขึ้นหน้าก่อนยิงเข้าไปให้ทีมขึ้นนำ 2-1 ในนาที 80

จากนั้นลิเวอร์พูลขึ้นนำ 3-1 จากประตูของเฮนเดอร์สัน เมื่อได้บอลจ่ายของเฟอร์มิโน่ ก่อนแปเข้าไป ในนาที 86

ช่วงก่อนหมด 90 นาที โรเบิร์ตสันได้ใบเหลืองหลังจากเสียหลักก่อนเข้าทำฟาวล์ แต่ฟรีคิกของเซาท์แฮมป์ตันไม่อันตราย

จากนั้นกรรมการทดเวลาบาดเจ็บ 4 นาที และฟรีคิกในนาทีสุดท้ายของเซาท์แฮมป์ตันก็ยังไม่สามารถทำอะไรลิเวอร์พูลได้ จบเกมลิเวอร์พูลจึงคว้าสามแต้มพร้อมขยับขึ้นจ่าฝูงอีกครั้ง ด้วยคะแนน 82 คะแนน หลังผ่านไป 33 นัด