ลิเวอร์พูล ยู-18 คว้าถ้วยเอฟเอ ยูธ คัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ด้วยการดวลจุดโทษเอาชนะแมนฯ ซิตี้ 5-0 ในนัดชิงชนะเลิศ วันพฤหัสบดีทีผ่านมา

ทั้งสองทีมเสมอกัน 1-1 หลังผ่าน 1-1 ในเกมที่น่าสนใจที่ดิ อะคาเดมี สเตเดียม

นาบิล ตูไอซี ทำประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งแรก และลูกยิงของเขาดูเหมือนจะสร้างความแตกต่างให้กับทั้งสองทีม จนกระทั่งบ็อบบี้ ดันแคนจะปั่นโค้งระยะไกลสุดปลายมือของลูอี้ มาลเด้น ผู้รักษาประตูซิตี้เข้าไปในนาทีที่ 86

และหงส์น้อยของแบร์รี ลิวตัสคว้าถ้วยอันทรงเกียรติหลังการดวลจุดโทษ ในขณะที่ พอล กลัตเซล กัปตันเป็นคนสังหารจุดโทษคนที่ 5 ที่พวกเขายิงเข้าทุกคนคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ

สำหรับรายละเอียดของเกม เจ้าบ้านเริ่มต้นอย่างอันตราย และเกือบได้ประตูตั้งแต่ 60 วินาทีแรก แต่วิเทซสลาฟ จารอสผวาเข้ามาหยุดลูกยิงของตูไอซี หลังจากอาเดรียน เบอร์นาเบ้เปิดกลับเข้ามาจากทางด้านซ้าย

ลิเวอร์พูลเริ่มตั้งตัวได้หลังจากนั้น และยาสเซอร์ ลารูซี เกือบช่วยให้ทีมขึ้นนำได้ในนาทีที่ 10 ฟูลแบ็กแสดงความคล่องแคล่วหลบนักเตะสองคนจากเส้นแบ่งแดนกลางสนาม และตัดเข้าไปกลาง ก่อนยิงแฉลบเทย์เลอร์ แฮร์วู้ด-บิลลิส และทำให้มาลเด้นต้องออกแรงปัดข้ามคานออกไป

จังหวะถัดมาเป็นโอกาสทองในครึ่งแรกของหงส์แดงจากเจค เคน เมื่อมาลเด้นจ่ายผ่าน เคนเลยลองยิงจากมุมเขตโทษ แต่ลูกยิงเลียดของเขาถูกสกัดออกจากเส้นประตูมาได้

หลังจากนั้นซิตี้คุมเกม แต่ยังกดดันหงส์น้อยไม่ได้มากนัก ทอมมี ดอยล์ทำชิ่งหนึ่ง-สองกับเฟลิกซ์ เอ็นเมชาในเขตโทษ แต่เลห์ตัน คลาร์กสันเข้ามาบีบให้เขายิงหลุดกรอบ

อย่างไรก็ตามสุดท้ายในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เบอร์นาบีปีกซ้ายเปิดบอลหนีรีห์ส วิลเลียมส์ และตูไอซีสอดเข้ามามายิงอย่างเยือกเย็นเข้าไประหว่างเสา และจารอสเป็น 1-0 ก่อนหมดครึ่งแรก

เจ้าบ้านคุมเกมได้ดีกว่าต้นครึ่งหลัง แต่ลิเวอร์พูลไม่ยอมแพ้ และได้ลุ้นหลังผ่านไปหนึ่งชั่วโมง โดย อับดี ชาริฟ ยิงไกลติดเซฟของมาลเด้น 2 ครั้ง และแฮร์วู้ด-เบลลิสผวาเข้ามาขวางกลัตเซลกัปตันหงส์แดงที่เกือบจะได้ยิงจ่อๆ

หลังจากนั้นจารอสต้องปัดลูกปั่นโค้งของเบน ไนจ์ทด้วยเท้าซ้ายระยะ 20 หลา ก่อนเข้าสู่ 15 นาทีสุดท้าย ก่อนที่คลาร์กสันจะถูกเปลี่ยนตัวออกด้วยปัญหาการบาดเจ็บ และหลุยส์ ลองสตาฟฟ์ลงมาแทนเขา

หลังจากนั้นหงส์น้อยกดดันอย่างต่อเนื่อง ลารูซีเกือบตีเสมอให้ทีมด้วยการปั่นโค้งออกเสาด้านซ้ายนิดเดียว  ขณะที่มอร์แดน บอยส์ และหลังจากนั้นรีห์ส วิลเลียมส์ช่วยขวางลูกยิงของไนจ์ทไว้ได้

สุดท้ายเป็นทีมเยือนที่ลดความแตกต่างได้สำเร็จก่อนหมดเวลา เมื่อดันแคนหาพื้นที่ว่างตรงกลาง และซัดเต็มขอแหวกอากาศเข้าไป และมาลเด้นที่หลงทางไม่สามารถป้องกันบอลให้พุ่งเข้าไปตุงตาข่ายได้

อีก 30 นาทีในช่วงต่อเวลาพิเศษ ดันแคนถูกบล็อกลูกยิงมุมเขตโทษจากแฮร์วู้ด-บิลลิส และซิตี้พยายามจะเรียกร้องเอาจุดโทษโดยอ้างว่าเนโก้ วิลเลียมส์ทำแฮนด์บอล แต่ถูกปฏิเสธจากผู้ตัดสิน

ดังนั้นเกมจึงไปตัดสินที่จุดโทษ และลิเวอร์พูลทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ : เนโก้ วิลเลียมส์, เอลิจาห์ ดิ๊กสัน-บอนเนอร์, ชาริฟล, แจ็ค แบร์น และกลัตเซลต่างยิงเข้าไปทั้งหมดคว้าชัยชนะนัดประวัติศาสตร์ 5-3 และได้ชูถ้วยเอฟเอ ยูธ คัพ

ลิเวอร์พูล ยู-18 : จารอส, เอ็น. วิลเลียมส์, ลารูซี, อาร์. วิลเลียมส์, บอยส์, คลาร์กสัน(ลองสตาฟฟ์ น.78), ชาริฟ, เคน(แบร์น น.101), กลัตเซล, ดันแคน, ดิ๊กสัน-บอนเนอร์

สำรองไม่ได้ใช้ :   โอ’รูร์ค, เคลลี, ซาเวจ