เส้นทางที่ทุกคนซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับสโมสรลิเวอร์พูลมีชีวิตอยู่ และหายใจเข้า ก็เพื่อความสำเร็จของทีม และนั่นเป็นสิ่งที่โน้มน้าวให้เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ย้ายมาอยู่กับสโมสร

เซ็นเตอร์แบ็กรายนี้แจ้งเกิดกับหงส์แดงตั้งแต่ย้ายจากเซาท์แฮมป์ตันในเดือนมกราคม 2018 และทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่องจนคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอประจำฤดูกาล 2018-19ในเดือนที่ผ่านมา

แม้ว่าเขาจะยอมแลกรางวัลส่วนตัวต่างๆ ถ้ามันการันตีว่าทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ จะเอาชนะท็อตแนม ฮอตสเปอร์ในกรุงมาดริดในเกมแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศในวันเสาร์นี้

Liverpoolfc.com ได้คุยกับฟาน ไดจ์คในแค้มป์ฝึกซ้อมที่มาร์เบย่า ถึงหลากหลายประเด็นดังต่อไปนี้...

เวอร์จิล, เหลืออีกเพียงเกมเดียว กับแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศอีกครั้ง มันฟังดูเป็นยังไงบ้าง

มันฟังดูดีมาก! เราทำงานหนักมาตลอดฤดูกาลนี้ ฤดูกาลเกือบจะจบลงแล้ว แต่ชัดเจนว่าเรามีเกมนัดชิงชนะเลิศที่ยิ่งใหญ่ที่ต้องผลักดันเพื่อผ่านไปได้ และเราจะทุ่มเททุกอย่างที่เรามีลงไป และเราจะรอดูว่ามันจะพาเราไปถึงที่ไหน

นัดชิงชนะเลิศจะเป็นการลงสนามนัดที่ 50 ในฤดูกาลนี้ของคุณ หลังจากผ่านการลงเล่นครบทั้ง 38 เกมพรีเมียร์ลีก มันต้องมีหลายๆ ครั้งที่คุณหวั่นว่าอาจจะพลาดเกมถัดไป หรือคุณอาจจะได้รับบาดเจ็บ มันเป็นความมุ่งมั่นแบบไหนเพื่อที่คุณจะลงสนามในพรีเมียร์ลีกให้มากที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้

ผมคิดว่าเป้าหมายในใจมักจะเป็นความคิดที่ว่า คุณไม่มีวันลงเล่นโดยปราศจากการบาดเจ็บใดๆ ชัดเจนว่าผมมีหลายๆ ช่วงเวลาที่ผมประสบปัญหาในระหว่างสัปดาห์ แต่ผมคิดว่าในท้ายที่สุดสิ่งที่ทำให้ผมก้าวต่อไปได้คือเมื่อเสียงนกหวีดในช่วงสุดสัปดาห์ดังขึ้น ผมต้องอยู่ตรงนั้น

ผมทำให้แน่ใจว่าผมทำเรื่องต่างๆ ได้ถูกต้องในช่วงเวลานั้น ทำให้แน่ใจว่าผมรับประทานอาหารที่ดี ได้รับการรักษาที่ดี ฟื้นฟูร่างกายได้ดี มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราทำมันมาจนถึงเวลานี้ และเราต้องผลักดันสำหรับอีกหนึ่งเกมที่เหลือ

มีกัปตันทีมชาติหลายคนอยู่ภายในทีม และมันเป็นทีมที่เต็มไปด้วยผู้นำในเวลานี้ คุณทุกคนช่วยผลักดันกันและกัน...

ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเหนือกว่าเรื่องใด การพูดคุยซึ่งกันและกัน เมื่อมีหลายๆ อย่างที่จำเป็นต้องพูด ผมคิดว่านักเตะกลุ่มนี้มีความพิเศษ อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปอีกอย่างน้อย 4-5 ปี และประสบความสำเร็จหลายๆ อย่างกับในกลุ่มๆ นี้

คุณรู้สึกอย่างไร เมื่อพิจารณาจากอายุเฉลี่ยของทีมชุดนี้ มันเป็นกลุ่มเด็กหนุ่มที่มีประสบการณ์ และทุกคนอยู่ในเส้นทางที่จะไปถึงช่วงเวลาที่ดีที่สุด อย่างตอน 27, 28 ที่สถิติในอดีตบ่งบอกว่าพวกเขาจะอยู่ในจุดสุดยอด...

ใช่เลย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมผมคิดว่านี่คือทีมที่ยอดเยี่ยม คาร์แรกตอร์ที่เรามีในทีมของเรา มันลงตัวทุกอย่าง มันเป็นไปได้สวยจนถึงตอนนี้  และยิ่งไปกว่านั้นคือเรากำลังจะมีอนาคตที่สดใส ผมคิดว่าสโมสรรู้วิธีที่จะทำเรื่องนี้เช่นกัน และมันทำให้ทุกอย่างลงตัว

การย้อนไปดูเส้นทางในแชมเปียนส์ลีกจนถึงเวลานี้ และการลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่ม คุณมักจะทำได้ดีเสมอในเกมเหย้า แต่เกมนอกบ้านมีปัญหานิดหน่อย แต่เมื่อคุณต้องการผลการแข่งขัน และคุณจำเป็นต้องเอาชนะความยากลำบากเหล่านี้ ซึ่งลิเวอร์พูลสามารถผ่านมันไปได้หลังจากนั้น...

ผมคิดว่าเรามักจะทำให้ตัวเองเจองานยากขึ้นนิดหน่อยด้วยตัวเอง แต่ใช่ ผมคิดว่าเกมนอกบ้านในรอบแบ่งกลุ่มแย่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมนั้นในเนเปิลส์ และชัดเจนว่ากับอีกเกมในเบลเกรดเป็นฟอร์มที่ย่ำแย่มากๆ สำหรับเราทั้งหมด

เรารู้มันดี และเราทำมันได้อย่างถูกต้องที่แอนฟิลด์กับการช่วยเหลือนิดหน่อยจากอลิสสันในเกมกับนาโปลีด้วยเซฟสำคัญ เราทุกคนรู้ว่าเขามีความสามารถที่จะทำสิ่งต่างๆ เหล่านี้

เราทำได้ และหลังจากรอบแบ่งกลุ่มเรามีเกมกับบาเยิร์น มิวนิก และหลังจากนั้นกับปอร์โต้ เราทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบตามความคิดของผม ในรอบน็อกเอาต์เราทำได้ดีมาก เหนือกว่า เล่นได้ดีมาก และเราอยู่ในจุดที่เราควรจะอยู่

โค้งสุดท้ายจากเกมทั้งหมดเหล่านี้มาจนถึงเกมกับบาร์เซโลนาในรอบรองชนะเลิศ ทั้งสองเกมนั้นน่าทึ่งในหลายๆ แง่มุม...

ผมคิดว่าตัวเองพูดหลังจากที่นั่นจบลง มันรู้สึกแปลกมากๆ เพราะว่าเราแพ้ 0-3 แต่มันเป็นแบบ ‘แพ้ได้อย่างไร?’ เรานั่งอยู่ในห้องแต่งตัว และคิดว่า ‘เราแพ้ 0-3 ได้อย่างไร?’ ประตูแรกผมน่าจะทำได้ดีกว่านั้น ประตูที่สองมันมีโชคนิดหน่อย และฟรีคิกยอดเยี่ยมมาก

เรามีโอกาสหลายครั้งๆ เราเหนือกว่า และเราทำให้พวกเขาตกอยู่ภายใต้ความกดดัน เราทำให้พวกเขาเจอปัญหาเยอะมาก และมีทีมไม่มากทำแบบนั้นได้ที่นั่น เราตามหลัง 0-3 และเราต้องหาทางแก้ปัญหาเพื่อเอาชนะมัน

ผมรู้สึกทันทีหลังจบเกมนั้นว่าเราน่าจะทำมันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเชื่อมั่น การเตรียมตัวทั้งหมด และช่วงเวลาที่เราเข้ามาสู่สเตเดียม ผมรู้สึกในเรื่องที่ว่านี่สามารถเป็นค่ำคืนที่พิเศษ

ชัดเจนว่าคุณรู้เรื่องที่พวกเขามีนักเตะที่ดีที่สุดในโลก ผมคิดว่าโอกาสที่พวกเขาจะยิงไม่ได้มีน้อยกว่าที่จะยิงได้ นั่นยิ่งทำให้มันยากยิ่งขึ้น แต่เราทำได้ หลังจากประตู (แรก) จากดิว็อค (โอริกี) ผมคิดว่าทุกๆ คนรอบๆ เริ่มเชื่อมั่นเช่นกัน ทุกๆ อย่างลงตัวตลอดค่ำคืนนั้นทั้งหมด

ดิว็อคเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญในฤดูกาลนี้ เราจำได้แม้กระทั่งตอนคุณร้องเพลงของเขา - the Saturday Night – ในสัปดาห์ถัดมา! เขาโผล่ขึ้นมาตอนที่คุณต้องการเขาในหลายๆ เกมที่น่าเหลือเชื่อ...

มันเป็นเพลงที่ไพเราะมาก ถ้าพูดตามตรง ผมขอเนื้อเพลงจากร็อบโบ้ เพราะว่าผมไม่เคยได้ยินเนื้อมาก่อน! ดีฟคือดีฟ เขาทำงานหนัก เขารวดเร็ว และเขามีคุณภาพที่จะทำให้กองหลังทั้งหลายต้องพยายามอย่างหนักให้คุ้มกับค่าตัว

เขาเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ผมรู้จักเขามากยิ่งขึ้นในฤดูกาลนี้ เพราะว่าฤดูกาลที่แล้วเขาอยู่ในสัญญายืมตัว และเขาพูดภาษาดัตช์ได้ดีซึ่งทำให้มันง่ายขึ้นนิดหน่อย เขาเป็นคนดี แต่เขาเป็นนักเตะที่ดีเช่นกัน ที่มีความสำคัญมากสำหรับเราในฤดูกาลนี้ และเขาจะไม่ถูกมองข้าม

โจเอล มาติป คืออีกหนึ่งคนใช่ไหม? เขารอเวลาของตัวเอง และคุณสองคนดูจะทำงานร่วมกันได้อย่างยอดเยี่ยม...

แน่นอนว่าโจเอลประสบปัญหาการบาดเจ็บในช่วงต้นฤดูกาล ผมคิดว่าหากมันสวนทางกับโจ(โกเมซ) ชัดเจนว่าโจทำได้อย่างน่าเหลือเชื่อจนถึงตอนที่เขาบาดเจ็บ และโจเอลลงมาเติมเต็ม เดยัน (ลอฟเรน) เช่นกันตอนที่เขาลงเล่นร่วมกับผม

โจเอล, ผมดีใจกับเขาที่เขาอยู่ในระดับนี้ วิธีการโชว์ฟอร์มของเขา มันน่าเหลือเชื่อ ถ้าคุณมองดูเกมที่สองกับบาร์เซโลนา ฟอร์มของเขาในบ้านน่าเหลือเชื่อมาก มันช่วยทุกๆ คน และผมแค่มีความสุขมากที่ได้ช่วยเหลือทุกๆ คนเช่นกัน

เกมแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ ครั้งที่สองในฤดูกาลที่ติดต่อกัน คุณได้ย้อนไปดูตัวเองในนัดชิงชนะเลิศปีที่แล้วเต็มๆ หรือไม่

นัดชิงชนะเลิศปีที่แล้ว ผมไม่ได้ย้อนกลับไปดูอะไรเลยถ้าพูดตามตรง นอกจากประตูทั้งหมด พวกเขาแสดงให้เห็นว่าคุณพลาดไม่ได้เลย มันเป็นวันที่ยากลำบากมาก แต่มีบทเรียนมากมายที่ได้จากวันนั้น

มันไม่ใช่แบบ ‘ผมควรทำสิ่งนี้ให้ดีกว่านี้’ มันเป็นเรื่องของประสบการณ์ และทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นมากกว่า ผมเก็บเกี่ยวอะไรหลายๆ อย่างไว้กับตัวเอง การได้อยู่ที่นี่อีกครั้งในปีนี้เป็นเรื่องที่พิเศษ และเราต้องลงไปทุ่มเททุกอย่างที่เรามี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่านั่นจะดีพอ

เรื่องราวส่วนตัวของคุณในปีนี้ คุณได้รับการประกาศรายชื่อเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพีเอฟเอ ผู้จัดการทีมเคยพูด 2-3 ครั้งว่าคุณจะไปอยู่ในทีมใดก็ได้ในโลก แต่นี่คือตัวตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ ใช่ไหม? ลิเวอร์พูลคือสโมสรของคุณในตอนนี้...

ใช่ ชัดเจนว่ามันคือสโมสรของผม และผมภาคภูมิใจที่ได้สวมเสื้อลิเวอร์พูลในทุกๆ วัน แต่เช่นเดียวกันที่มันเป็นหนึ่งในเหตุผลต่างๆ ที่ผมมาที่นี่ วิธีการที่ทุกๆ คนอยู่ใกล้กับลิเวอร์พูล อยู่ และตายเพื่อสโมสร ต้องการทำทุกอย่างเพื่อเรา จะอยู่ที่นี่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากต่างๆ เช่นเดียวกันที่พวกเขาจะอยู่กับเราในช่วงเวลาที่ดีๆ

ผมคิดว่านี่คือสโมสรฟุตบอลที่แท้จริง และคุณไม่มีแบบนี้มากนักที่จะอยู่ และหายใจเพื่อสโมสรอย่างลิเวอร์พูล มันเป็นการตัดสินใจที่สำคัญมากๆ (สำหรับผม) ที่ทำอย่างนี้ แต่จนถึงเวลานี้มันออกมาดาก

เกมกับท็อตแนม มันจะเหมือนกับเกมพรีเมียร์ลีก หรือคุณคาดว่ามันจะแตกต่างออกไปในครั้งนี้

ผมคิดว่าเราจะลงไปเล่นตามเกมของเรา เหมือนอย่างที่เราทำมาเสมอในเกมที่เราเล่น มันเป็นเกมนัดเดียว อะไรก็เกิดขึ้นได้ และเราแค่พยายามเล่นเกมของเรา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะทำให้พวกเขาเจอความลำบากในหลายๆ อย่าง

เราเห็นตอนที่เราเล่นกับพวกเขาในบ้านในครึ่งหลังว่าเราเจอปัญหานิดหน่อย (เพราะ) พวกเขาเปลี่ยนแปลงวิธีเล่น เพราะพวกเขามีปัญหาในครึ่งเวลาแรก

ดังนั้นเราต้องเตรียมตัวให้ดี และเราเริ่มต้นที่นี่ (ในมาร์เบย่า)  และเราจะมีอีกหนึ่งสัปดาห์เต็มๆ ในการเตรียมตัว เราจะเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น หลังจากนั้นมันขึ้นอยู่กับเรา สิ่งที่เราทำ