ความอยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลาหมายความว่า แอนดี โรเบิร์ตสัน จะยังคงมองหาการต่อยอดฤดูกาลที่ผ่านมาซึ่งเขาช่วยสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับฟูลแบ็ค

โรเบิร์ตสันจบฤดูกาล 2018-19 ด้วยการครอบครองเหรียญรางวัลผู้ชนะแชมเปียนส์ลีก และมีสถิติเกมรับในพรีเมียร์ลีกดีที่สุดด้วยการเสียไปเพียง 22 ประตูเท่านั้น

ผู้เล่นชาวสก็อตรายนี้ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เพื่อนร่วมทีมของเขายังสร้างประวัติศาสตร์ขึ้นมา จากการที่พวกเขาทำรวมกันในพรีเมียร์ลีกถึง 23 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ 2 กองหลังจากทีมเดียวกันทำได้เลข 2 หลักสำหรับฤดูกาลเดียว

"ผมคิดว่า ผมทำได้ดีแต่ผมสามารถจะดีกว่านี้ได้เสมอ" ผู้เล่นวัย 25 ปีกล่าว "นั่นคือวิธีการที่ผมทำงานเสมอมา"

"ผมไม่เคยจะชื่นชมตัวผมเอง เนื่องจากผมคิดว่า มีเรื่องต้องปรับปรุงอยู่เสมอ"

"แม้แต่ตอนที่ผมมีเกมที่ดี คุณยังสามารถจะทำสิ่งต่างๆ ให้ดีกว่านี้ได้ผมมีฤดูกาลที่ดี แต่ผมยังมีพัฒนาการอีกมากมายให้ทำมันขึ้นมา และหวังว่าผมจะสามารถแสดงให้เห็นสิ่งนั้นในฤดูกาลต่างๆ ที่จะตามมานะ"

โรเบิร์ตสันมีความตั้งใจที่จะพยายามทำให้ได้อย่างเพอร์เฟ็กต์แบบเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ผู้เล่นแห่งปีของ PFA จากการโหวตโดยผู้เล่นด้วยกันทำ

โดยอิทธิพลที่มีต่อห้องแต่งตัวของลิเวอร์พูลจากเซ็นเตอร์แบ็ครายนี้มีความน่าประทับใจเทียบเท่ากันกับฟอร์มการเล่นต่างๆของเขาในสนาม จากการเปิดเผยโดยผู้เล่น ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายของเขา

"ตามความเห็นของผมเขานำเอาทุกๆ สิ่งเข้ามา" โรเบิร์ตสันพูดถึงผู้เล่นหมายเลข 4 "ตอนนี้เขาคือหนึ่งในผู้นำในห้องแต่งตัว เขามีเสียง นอกสนามเขาเป็นคนน่ารัก เขามีความสำคัญอย่างมากกับสิ่งที่เราทำ"

"ผู้เล่นรอบๆ ตัวเขาให้การช่วยเหลือ โจเอล [มาติป] ทำได้อย่างสุดยอดเมื่อเขาถูกเรียกใช้ในฤดูกาลนี้ ช่วงต้นฤดูกาล โจ โกเมซ ทำได้อย่างโดดเด่น และแน่นอนว่า เดยัน [ลอฟเรน] ลงเล่นเกมต่างๆ และก้าวขึ้นมาซึ่งเขาทำได้เป็นอย่างดี"

"ฤดูกาลนี้การจับคู่กันตรงกลางทางด้านเกมรับทำได้ดีจริงๆ เวอร์จิลได้รับคำชมทุกๆอย่าง แต่มันเมคเซ้นส์ ฤดูกาลนี้เขาอยู่ในระดับที่แตกต่างกับผู้เล่นคนอื่นๆ สิ่งที่เขานำเข้ามาทั้งใน และนอกสนามเป็นความพิเศษ"